วันนี้ (28 กันยายน) ทีมข่าว THE STANDARD ตามรอยภารกิจกำจัดดินโคลนออกจากพื้นที่อยู่อาศัยของประชาชนใน 4 ชุมชนของอำเภอ แม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้แก่ บ้านเกาะทราย, บ้านไม้ลุงขน, บ้านผามควาย และบ้านเหมืองแดง
หลังจากประชาชน เจ้าหน้าที่ และจิตอาสา ช่วยกันผลักดันโคลนออกจากบ้านลงสู่ถนนสายหลักและซอยย่อยของแต่ละชุมชนแล้ว จะมีรถแม็คโครขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ตักดินโคลนเหล่านั้นใส่รถบรรทุก
เมื่อดินโคลนเต็มคันรถบรรทุก ทุกคันจะสัญจรในเส้นทางที่กำหนดเท่านั้นเพื่อป้องกันเศษดินหล่นตามทาง ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการสัญจรของพี่น้องประชาชน โดยรถบรรทุกที่รับดินจาก 4 ชุมชนดังกล่าวจะมุ่งหน้าไปที่ดินเปล่าด้านหลังชลประทาน แม่สาย อำเภอแม่สาย
ที่ดินแห่งนี้มีขนาด 11 ไร่ ในช่วงก่อนเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อวันที่ 10 กันยายน เป็นที่ทำเกษตรกรรมสำหรับปลูกกระเทียมและกะหล่ำปลีของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่บ้านผามควาย
เจ้าของที่แห่งนี้เล่าว่าได้ซื้อที่ดินผืนนี้มาเป็นเวลานานแล้ว ที่ผ่านมาเปิดให้ชาวบ้านมาเพาะปลูกได้ฟรีไม่เก็บค่าเช่า เพราะอยากให้ที่ดินที่ตนเองมีสร้างประโยชน์ สร้างงาน สร้างอาชีพให้คนบ้านเดียวกัน
ต่อมาเมื่อเกิดน้ำท่วมจึงอยากให้ที่ดินแห่งนี้ทำประโยชน์ต่อได้อีก จึงติดต่อให้หน่วยงานรัฐและเอกชนที่รับหน้าที่ช่วยกำจัดดินโคลน นำดินโคลนมาถมทิ้งในที่ของตัวเองได้ฟรีทุกบริเวณ ซึ่งในช่วงแรกที่หน่วยงานยังเข้ามาน้อย ตนได้ว่าจ้างรถบรรทุกและรถแม็คโครอย่างละ 2 คันให้ตระเวนช่วยไปก่อนเบื้องต้น
ส่วนตัวมองว่าที่ดินตรงนี้เหมาะสมที่จะรับดินโคลนจาก 4 ชุมชน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีทางเชื่อมต่อถึงกันหมด ไม่จำเป็นต้องใช้ถนนสายหลักให้ดินหล่นร่วงรบกวนคนส่วนมาก รถบรรทุกสามารถวิ่งเข้ามาตามซอยย่อยได้เลย
เจ้าของที่ยังกล่าวอีกว่า บ้านของตนเองก็หนีไม่พ้นน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ บ้านชั้น 1 ของเสียหายทั้งหมด ครอบครัวพึ่งกลับเข้าไปอยู่ได้ไม่นาน แต่สิ่งที่มีและจะสร้างประโยชน์กับคนบ้านเดียวกันได้เลยคือที่ดินผืนนี้ ถ้าถมดินแล้วที่สูงไปเรื่อยๆ ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะจะได้ใช้เป็นกำแพงกั้นลำน้ำสายไม่ให้ท่วมบ้านที่อยู่ในพื้นที่ต่ำกว่าด้วย