หลังจากที่ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่จาก Sony ได้แนะนำให้เรารู้จักกับเหล่าคู่ปรับตัวฉกาจของ Spider-Man กันมาแล้วใน Venom (2018), Venom: Let There Be Carnage (2021), Morbius (2022) รวมถึง Kraven the Hunter ที่มีกำหนดฉายในเดือนสิงหาคมปีนี้
ตอนนี้เราก็จะได้มาทำความรู้จักตัวละครฝั่งฮีโร่กันบ้างกับ Madame Web ผลงานการกำกับของ S.J. Clarkson ที่เคยฝากผลงานซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่มาแล้วใน Jessica Jones (2015) และ The Defenders (2017) ที่พาเราไปทำความรู้จักกับฮีโร่สาวคนใหม่
ภาพยนตร์ว่าด้วยเรื่องราวของ Cassandra Webb (Dakota Johnson) แพทย์ฉุกเฉินที่ประสบอุบัติเหตุขณะปฏิบัติหน้าที่ จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นเมื่อเธอสามารถมองเห็นอนาคตได้ เธอจึงต้องหาทางช่วยเหลือ 3 หญิงสาวแปลกหน้าอย่าง Julia Cornwall (Sydney Sweeney), Mattie Franklin (Celeste O’Connor) และ Anya Corazón (Isabela Merced) จากการตามล่าของ Ezekiel Sims (Tahar Rahim) วายร้ายที่มีความสัมพันธ์กับอดีตของตัวเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง:
หลังจาก Madame Web เข้าฉายรอบเปิดตัวได้ไม่นาน ภาพยนตร์ก็ได้กระแสตอบรับในแง่ลบจากนักวิจารณ์อยู่พอสมควร โดยภาพยนตร์ได้รับคะแนนรีวิวจากฝั่งนักวิจารณ์บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes อยู่ที่ 13% เท่านั้น
ซึ่งหากย้อนกลับไปที่ผลงานก่อนหน้าอย่าง Morbius ที่แม้จะได้คะแนนรีวิวอยู่ที่ 15% แต่ส่วนตัวผู้เขียนก็ยังสนุกกับความเรียบง่ายและสูตรสำเร็จของเรื่องอยู่ประมาณหนึ่ง ดังนั้นก่อนที่ผู้เขียนจะตีตั๋วไปรับชม Madame Web เราจึงแอบเตรียมตัวเตรียมใจมาประมาณหนึ่งว่าภาพยนตร์น่าจะมีความเรียบง่ายและไม่หวือหวานักเช่นเดียวกับผลงานก่อนหน้า
Madame Web ดำเนินเรื่องราวในทำนองเดียวกับ Morbius อยู่เช่นกัน กับการพาเราไปติดตาม ‘ต้นกำเนิด’ ของ Cassie ในแบบที่ทุกคนคุ้นเคย เริ่มตั้งแต่การสำรวจชีวิตในปัจจุบันของเธอ จนกระทั่งวันหนึ่งก็เกิดเหตุบางอย่างขึ้นจนทำให้เธอเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์วุ่นวาย ก่อนที่เธอจะได้รับรู้เรื่องราวในอดีตของตัวเองไปพร้อมกับเรียนรู้การใช้พลัง
ซึ่งในแง่หนึ่ง การดำเนินเรื่องราวที่เรียบง่ายและเป็นสูตรสำเร็จจนเราพอจะคาดเดาเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นได้ เสมือนว่าเรามีพลังในการหยั่งรู้อนาคตเช่นเดียวกับ Cassie ก็อาจจะไม่ได้เป็นข้อสังเกตสำคัญมากนัก หากผู้กำกับและทีมสร้างสามารถปรุงแต่งและนำเสนอเรื่องราวเหล่านั้นออกมาได้น่าสนใจและสนุกสนาน เช่น ฉากแอ็กชันที่ดูสนุก หรือกลวิธีนำเสนอที่น่าตื่นตา
ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนคิดว่า ในช่วงครึ่งเรื่องแรกของภาพยนตร์ ผู้กำกับและทีมสร้างใช้กลวิธีนำเสนอที่น่าสนใจอยู่พอสมควร ทั้งจังหวะการตัดต่อในช่วงที่ Cassie มองเห็นอนาคต ซึ่งช่วยเสริมให้ความรู้สึกของตัวละครที่กำลังงุนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้าชัดเจนมากขึ้น ไปจนถึงการลำดับเหตุการณ์ที่ Cassie ได้ ‘บังเอิญ’ พบกับ Julia, Mattie และ Anya ก็ดูน่าสนใจไม่แพ้กัน
รวมถึงด้วยเสน่ห์ของนักแสดงนำอย่าง Dakota Johnson ที่เรารู้สึกว่าเธอค่อนข้างเหมาะกับบท Cassie มากๆ ทั้งคาแรกเตอร์ของ Cassie ที่พร้อมลุยกับทุกสถานการณ์ตรงหน้า แต่ขณะเดียวกันก็มีมุมที่อ่อนโยน ปมปัญหาในอดีตที่ชวนติดตาม รวมถึงการออกแบบเสื้อผ้าหน้าผมที่โดดเด่นสะดุดตา (โดยเฉพาะเสื้อแจ็กเก็ตสีแดงของเธอ)
ขณะที่ 3 สาวอย่าง Julia, Mattie และ Anya ก็ถูกออกแบบคาแรกเตอร์มาได้ชัดเจนไม่แพ้กัน ทั้ง Julia ที่เรียบร้อยและอ่อนโยนที่สุดในกลุ่ม, Mattie กับคาแรกเตอร์ลุยๆ หัวแข็ง และไม่ยอมใครง่ายๆ และ Anya สาวเนิร์ดที่ดูไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง ซึ่งเสน่ห์ของตัวละครและเหล่านักแสดงชุดนี้ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่พอจะช่วยพาเราติดตามตัวละครต่อไปได้จนจบ รวมถึงปมปัญหาส่วนตัวของแต่ละคนที่ ‘เชื่อมโยง’ พวกเธอเข้าด้วยกัน ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่สามารถนำไปต่อยอดเรื่องราวได้
อย่างไรก็ตาม ความเรียบง่ายของ Madame Web ก็ยังเป็นดาบสองคมที่สร้างบาดแผลให้กับภาพยนตร์เช่นกัน ประการแรกคือเรื่องความสัมพันธ์ของ Cassie และ 3 สาวที่เรารู้สึกว่าตัวภาพยนตร์แอบให้เวลากับส่วนนี้น้อยไปสักหน่อย โดยเราได้เห็นการพัฒนาความสัมพันธ์ของพวกเธอแบบจริงๆ จังๆ น่าจะมีเพียงฉากที่แต่ละคนเริ่มเล่าอดีตของตัวเองให้กันฟังเท่านั้น จนเราไม่รู้สึกผูกพันกับตัวละครไหนเลย ทั้งๆ ที่ความสัมพันธ์ของพวกเธอควรจะเป็นหัวใจสำคัญของเรื่อง
นี่ยังไม่นับตัวร้ายหลักของเรื่องอย่าง Ezekiel Sims ที่แทบจะไม่มีแง่มุมไหนของตัวละครที่ชวนให้เราอยากติดตาม นอกจากเป็นภัยอันตรายของเหล่าตัวละครหลักที่ทำให้เกิดเรื่องราวทั้งหมดเท่านั้น
ไปจนถึงฉากแอ็กชันไล่ล่าตั้งแต่ช่วงกลางเรื่องเป็นต้นไป ที่ดูเหมือนว่าผู้กำกับและทีมสร้างจะพยายามนำพลังการมองเห็นอนาคตของ Cassie มาปรับใช้ แต่ฉากเหล่านั้นกลับชวนให้รู้สึกเหมือนเป็น ‘เรื่องบังเอิญ’ เสียมากกว่า พร้อมทั้งยังมีบางช่วงบางตอนที่ดูยืดเยื้อเกินไปสักหน่อย จนทำให้เราไม่รู้สึกลุ้นระทึกหรืออยากเอาใจช่วยตัวละคร และนำมาสู่บทสรุปที่เราไม่ได้รู้สึกยินดีและผูกพันกับตัวละครหลังจากผ่านเรื่องราวต่างๆ มาได้อย่างที่ควรจะเป็น
ในภาพรวมสำหรับผู้เขียนจึงคิดว่า Madame Web เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ดูได้เรื่อยๆ มีการเล่าเรื่องในช่วงครึ่งแรกที่น่าสนใจชวนติดตาม การออกแบบคาแรกเตอร์ที่มีเสน่ห์ มีปมปัญหาของ 4 ตัวละครหลักที่น่าสนใจและสามารถนำไปต่อยอดได้หลากหลาย
แต่ขณะเดียวกันเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตัวภาพยนตร์ไม่มีฉากที่สร้างความประทับใจหรือเป็นที่จดจำของเราเลย ทั้งฉากแอ็กชันไล่ล่าที่ชวนให้รู้สึกเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญเสียมากกว่า และความสัมพันธ์ของตัวละครที่ไม่ได้ลงลึกมากนัก จนดูเหมือนว่าเสน่ห์ของทีมนักแสดงจะเป็น ‘ฮีโร่’ ที่ช่วยประคับประคองภาพยนตร์ไว้ทั้งหมด มากกว่าจะเป็นเรื่องราวที่ภาพยนตร์ต้องการนำเสนอ
Madame Web เข้าฉายแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์
รับชมตัวอย่างได้ที่:
อ้างอิง: