ประเด็นใหญ่หลังเกมฟุตบอลชายทีมชาติไทยที่เอาชนะมาเลเซีย 1-0 ใน ASEAN Mitsubishi Electric Cup 2024 เมื่อคืนนี้ (14 ธันวาคม) นอกจากปัญหาการเล่นเกมรุกของทีมชาติไทยที่อาจจะยังไม่ได้ประตูชัยถ้าไม่ได้ส้มหล่นแล้ว ในช่วงหลังเกมยังมีประเด็นร้อนเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่องด้วย
นั่นคือการที่ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือทีมชาติไทยชาวญี่ปุ่น ตัดสินใจเดินเข้าห้องแต่งตัวไปก่อน ขณะที่กลุ่มนักเตะเดินออกไปขอบคุณแฟนบอลรอบๆ สนาม
โดยสาเหตุมาจากการที่อิชิอิไม่อยากให้นักเตะเสียเวลาพักผ่อนในช่วงเวลาหลังเกมมากจนเกินไป เนื่องจากต้องเดินทางไปสิงคโปร์ในวันรุ่งขึ้น (15 ธันวาคม) แต่ทางฝั่ง มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ อยากแสดงความขอบคุณต่อแฟนบอล จึงพานักเตะไปขอบคุณแฟนบอลรอบๆ สนาม
ในห้องแถลงข่าว อิชิอิพูดผ่าน ล่ามจ๋าย-เฉลิมชัย ชินเชิดพงศ์ ผู้ช่วยหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย ว่า “ก่อนการแข่งขันได้ให้สัมภาษณ์แล้วว่ามีนักเตะแยกเป็น 2 ชุด คือชุดที่ 1 และชุดที่ 2 โดยกลุ่มที่ไม่ได้แข่งขันจะมีหน้าที่เข้าไปขอบคุณแฟนบอล แต่ก็จะใช้เวลาสั้นๆ เพราะว่าเราต้องกลับมาเตรียมทีมและพักผ่อนเพื่อทำการแข่งขันและเดินทางไปแข่งในแมตช์ต่อไป
“โดยโค้ชอิชิอิก็รู้สึกว่าไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เลยแยกตัวมาที่ห้องแต่งตัว
“โค้ชอิชิอิมองว่าโดยหน้าที่แล้วเขาต้องพยายามทำให้สภาพทีมมีความพร้อมให้มากที่สุด วิธีคิดอาจจะไม่เหมือนคนอื่นๆ ก็เป็นไปได้ เพราะต้องการให้มีเวลาพักผ่อนให้มากที่สุด ยิ่งมีสถานการณ์ที่เราต้องเดินทางต่อไปก็ต้องพักผ่อน”
ล่ามจ๋ายยืนยันว่า ‘โค้ชก็ไม่ได้มีอะไร’ และแปลคำพูดของอิชิอิต่อไปว่า “เราสามารถชนะได้เพราะว่าแฟนบอลมาเชียร์เราเยอะ ก็ต้องขอขอบคุณแฟนบอลที่มาเชียร์ ถ้าไม่มีแฟนบอลเราก็ไม่สามารถเก็บชัยในนัดนี้ได้ ก็ขอบคุณแฟนบอลด้วย
“แล้วนัดหน้าก็ฝากเชิญชวนแฟนบอลมาเชียร์ให้มากๆ แบบนี้เช่นกัน”
การตอบคำถามของอิชิอิเป็นการตอบในมุมมองของโค้ช และเขาก็ออกตัวในคำตอบแล้วว่า “โดยหน้าที่แล้วเขาต้องพยายามทำให้สภาพทีมมีความพร้อมให้มากที่สุด”
ในเวลาไล่เลี่ยกับที่อิชิอิตอบคำถามในตอนนั้น ประเด็นดราม่าเรื่องอิชิอิเดินเข้าห้องแต่งตัวก็เริ่มลุกลามในโลกอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะในกลุ่มแฟนบอล จนกลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้างและทำให้แฟนบอลแบ่งออก 2 กลุ่มเช่นกัน
ในเวลาต่อมา มาดามแป้งได้ออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัว ถึงการพยายามพานักเตะเดินขอบคุณแฟนบอลรอบสนาม โดยอธิบายในมุมของเธอว่า “จากใจแป้ง จริงๆ ประเด็นวันนี้ไม่ควรจะมีอะไรดราม่าเลย ตอนที่แป้งเข้ามารับตำแหน่งนายกสมาคมฯ ได้รับเกียรติฟังความคิดเห็นจากแฟนบอลไทยหลักๆ ทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ Cheerthai Power, Thailand Hardcore และ Ultras Thailand ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มก็ให้เกียรติสมาคมฯ แป้ง นักกีฬา และโค้ชทุกคน จะเห็นว่าทุกการแข่งขันผ่านมาอย่างราบรื่น เต็มไปด้วยพลังเชียร์และศรัทธา
“สำหรับแป้งแล้วคิดเสมอว่าศรัทธาของแฟนบอลคือสิ่งที่จะอยู่คู่กับฟุตบอลไทยไปตลอด นายกสมาคมฯ โค้ช หรือนักฟุตบอล ถ้ามีผลงานดีก็จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่จารึกไว้ แต่มือที่จะประคับประคอง ส่งเสริมฟุตบอลไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟุตบอลทีมชาติไทยทุกชุดซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าของสมาคมฯ ก็คือแฟนบอลทีมชาติไทยหรือผู้เล่นคนที่ 12
“ดังนั้นถึงแม้รอบนี้จะไม่ใช่รอบรองฯ หรือรอบชิงฯ แต่การเดินออกไปขอบคุณแฟนบอล ซึ่งแฟนบอลก็ไม่ได้ใช้เวลามาก เพราะเขาทราบดีอยู่แล้วว่ายังไม่ถึงรอบชิงฯ แป้งถือว่าเป็นการให้เกียรติสูงสุด และถือเป็นเกียรติยศศักดิ์ศรีของนักเตะทีมชาติไทยเช่นกัน นักเตะหลายคนก็คิดเหมือนกับแป้ง
“ดังนั้นแป้งจึงคิดว่าไม่มีประเด็นอะไรที่จะเกิดกระแสที่ไม่ดีต่อใจแป้งหรือใจใครเลย แป้งยังยืนยันในความคิดของตัวเองว่าสิ่งที่แป้งทำตลอด 16 ปี ตั้งแต่เริ่มเป็นผู้จัดการฟุตบอลหญิง มาถึงฟุตบอลชาย การให้เกียรติแฟนบอลเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว แป้งเชื่อเสมอในศรัทธา การเคารพ และให้เกียรติซึ่งกันและกัน”
นี่จึงเป็นเหตุการณ์ที่มี 2 มุมมองที่คิดไม่ตรงกัน แต่ถึงอย่างนั้นต่างฝ่ายต่างมีเจตนาดีไม่ต่างกัน
ในมุมของอิชิอิก็ทำเพื่อนักเตะ และหวังให้นักเตะทำผลงานเพื่อแฟนบอล ส่วนในมุมของนายกสมาคมฯ ก็ต้องการขอบคุณและมอบความรู้สึกดีๆ ให้แฟนบอลเช่นกัน