Macy’s หนึ่งในเชนห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ของสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศที่จะปิดห้างของตัวเอง 45 แห่งภายในปีนี้ การปิดดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ว่า Macy’s จะปิดสาขา 125 แห่งที่มีประสิทธิภาพต่ำภายในปี 2023
“ตามที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ Macy’s จะมุ่งเน้นไปที่ร้านค้าปลีกของเราที่มีอยู่ โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าในกลุ่ม A และ B ซึ่งมียอดขายและทราฟฟิกในระดับที่ดี” โฆษกหญิงของ Macy’s กล่าวในแถลงการณ์
ปัจจุบันมีห้างสรรพสินค้าประมาณ 1,000 แห่งในสหรัฐอเมริกา ตามรายงานของ Green Street Advisors ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ โดยห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่จัดอยู่ในประเภทที่เรียกว่าห้างสรรพสินค้า B-, C- และ D ซึ่งหมายความว่ามียอดขายต่อตารางฟุตน้อยกว่าห้างสรรพสินค้า A
เทียบให้เห็นภาพ ห้างสรรพสินค้า A++ สามารถสร้างยอดขายได้มากถึง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 30,000 บาทต่อตารางฟุต ในขณะที่ห้างสรรพสินค้า C+ ทำเงินได้ประมาณ 320 ดอลลาร์ หรือราว 9,600 บาทเท่านั้น
Jeff Gennette ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Macy เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า บริษัทยังคงเดิมพันในธุรกิจห้างสรรพสินค้า แต่ขณะเดียวกันก็คาดว่าในอนาคตการเติบโตจะมาจากนอกห้างสรรพสินค้ามากกว่า
ในเดือนพฤศจิกายน Macy’s รายงานว่ายอดขายในสาขาเดิมรายไตรมาสลดลงมากกว่า 20% เนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้จ่ายสำหรับเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่ห้างสรรพสินค้าในช่วงที่โควิด-19 ระบาด ในขณะที่ยอดขายช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้น 27% ทว่ากำไรเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยการสูญเสียที่ร้านค้าแบบดั้งเดิมกำลังเผชิญ
ปัจจุบัน Macy’s ดำเนินกิจการห้างสรรพสินค้าชื่อดัง 544 แห่ง และดำเนินธุรกิจอื่นๆ ภายใต้แบรนด์ Bloomingdale 34 แห่ง Bloomingdale 19 แห่ง และ Bluemercury 166 แห่ง สำหรับห้างสรรพสินค้า 45 แห่งที่จะมีการปิดตัวจะประกาศรายชื่อเร็วๆ นี้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: