วันนี้ (20 มิถุนายน) จุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวภายหลังถึงการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กรมส่งเสริมสุขภาพเด็กและเยาวชน สหวิชาชีพ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ พร้อมเครือข่ายผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นต้น เพื่อหารือและหาทางแก้ไขปัญหากรณี ธนลภย์ (สงวนนามสกุล) หรือ หยก เยาวชนวัย 15 ปี
จุติกล่าวว่า พม. จะเป็นตัวกลางประสานให้เกิดความเข้าใจ ภายหลังจากที่มีการรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น ตนก็รู้สึกสบายใจว่าครู อาจารย์ มีความรักและห่วงใยหยกเหมือนลูก และจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อให้สถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลาย โดยขั้นตอนต่อไปคือการไปพูดคุยกับตัวหยกและผู้ปกครองของหยก เพื่อรับฟังโดยรอบด้าน ซึ่ง พม. จะทำงานให้เร็วที่สุด เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย เพราะเป็นสิ่งที่เราตั้งใจจะทำ
จุติระบุว่า คณะครูมีความห่วงใยเด็กทั้งโรงเรียนไม่เว้นแม้แต่หยก ซึ่งทุกคนอยากจะทำทุกอย่างให้หยกและนักเรียนทั้งโรงเรียนกว่า 4 พันคน เข้าใจสถานการณ์ พร้อมกล่าวขอบคุณคณะครูทุกคนที่มีความอดทน มีความเข้าใจ และมีจิตวิญญาณการเป็นครู ที่รักและห่วงใยตัวหยก
ส่วนจะมีการคุยกันหรือไม่ว่าจะให้ใครเป็นผู้ปกครองหยก จุติระบุว่า เรื่องนี้จะทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการและคณะครูในลำดับขั้นตอนต่อไป และขอไม่ตอบถึงสถานะการเป็นนักเรียนของหยก แต่ยืนยันว่ายึดประโยชน์ของหยกเป็นที่ตั้ง ซึ่งหยกเป็นเด็กและเยาวชนอยู่ ก็ต้องอดทน และพยายามเข้าใจหยก เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ออกมาให้เป็นประโยชน์และให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าสถานการณ์คลี่คลายหมายความว่าอะไร และจะนำไปสู่การที่หยกจะกลับเข้ามาเรียนได้หรือไม่ จุติกล่าวว่า นำสู่จุดที่ว่าให้สังคมอยู่ได้ หยกอยู่ได้
เมื่อถามอีกว่าในวันพรุ่งนี้ (21 มิถุนายน) หยกจะสามารถกลับเข้าไปเรียนได้หรือไม่ จุติกล่าวว่า ประเด็นนี้ไม่มีปัญหา อย่างที่กล่าวไปว่าครูมีจิตวิญญาณความเป็นครูมาก รักและห่วงใยเด็กเหมือนลูกตัวเอง ฉะนั้นคำอธิบายนี้คงเกินพอ และตนเชื่อว่าเมื่อมีความรัก ความอดทน และความเข้าใจ สถานการณ์ก็จะคลี่คลาย อะไรที่ไม่เข้าใจกันก็จะพูดคุยกัน พม. จึงได้อาสาเป็นตัวกลางไปพูดคุยรับฟังทุกๆ ฝ่าย พร้อมยืนยันว่าเราจะไม่เข้าข้างฝ่ายใด และจะไม่พิพากษาว่าใครเป็นคนผิด พร้อมจะทำให้มีทางออกที่ดีที่สุด
จุติยังระบุด้วยว่า การประชุมในวันนี้ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชนมาร่วมฟังด้วย ซึ่งได้รับภารกิจไปว่าจะต้องทำงานร่วมกับคณะสหวิชาชีพและกระทรวงศึกษาธิการ โดยสหวิชาชีพให้คำแนะนำว่าถ้าขอได้ ขอให้สื่อให้พื้นที่กับผู้ปกครอง นักเรียน และโรงเรียน เพื่อให้มีสติกลับมา เพราะไม่เคยเจอกล้องตั้งอยู่หน้าโรงเรียน ที่ให้สัมภาษณ์ทุกวัน ขอเวลาให้หายใจได้บ้าง เมื่อหายใจได้แล้วเขาจะมีสติกลับมา และเกิดการพูดคุยกัน
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะต้องพูดคุยกับตัวหยกด้วยใช่หรือไม่ จุติระบุว่า จะต้องคุยกับทุกฝ่าย ทั้งตัวหยก ผู้ปกครองของหยก ถ้าติดต่อไปแล้วยอมคุย ก็จะดำเนินการให้เร็วที่สุด
ส่วนที่มีข้อเสนอว่าควรแต่งตั้งผู้ปกครองโดยศาลเป็นผู้ระบุนั้น จุติกล่าวว่า ขอไม่แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ แต่ยืนยันว่าจะรับฟังให้รอบด้าน รวมถึงตัว เนติพร (สงวนนามสกุล) หรือ บุ้ง ด้วย
เมื่อถามถึงพฤติกรรมเลียนแบบที่อาจจะเกิดขึ้น จุติกล่าวว่า ให้เอากรณีนี้เป็นจุดเริ่มต้น และเป็นกรณีที่ต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ อย่างที่ทราบดีว่าปัญหาสังคม ร้อยคน ร้อยปัญหา ร้อยมิติ ไม่เหมือนกัน ไม่ซ้ำกัน แต่ว่าสิ่งที่ทุกคนสามารถผ่านมาได้เพราะทุกคนเป็นผู้ให้ ผู้เสียสละ นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า พม. มีเรื่อง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ และกระทรวงศึกษาธิการก็มีหน้าที่ดูแลเด็กนักเรียน ฉะนั้นเราต้องบอกว่าเมื่อประโยชน์ส่วนรวมคือเด็ก ซึ่งเป็นอนาคตของประเทศ จึงจะต้องเข้มแข็ง เขาต้องมีจุดยืนของเขา มีที่ยืนของเขา ไม่ว่าจะคิดอย่างไรต้องดูแลให้อยู่ในสังคมให้ได้
จุติยังกล่าวทิ้งท้ายว่า เราต้องถอดบทเรียน เป็นบทเรียนที่สังคม ครู สหวิชาชีพ รวมทั้งตนเองต้องเรียนรู้ในประเด็นนี้