เริ่มต้นได้ไม่สวยเท่าไรนักสำหรับระบบเก็บเงินค่าผ่านทางแบบไม่มีไม้กั้น หรือที่เรียกว่าระบบ M-Flow บนมอเตอร์เวย์สาย 9 ที่ด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางธัญบุรี และทับช้าง ทั้งขาเข้าและขาออก รวม 4 ด่าน ระบบที่กรมทางหลวงเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 22.00 น. หลังจากมีกระแสจากผู้ใช้เส้นทางสับสนในการใช้ช่องทางให้ถูกต้อง เกิดการเบียดแทรกเปลี่ยนเลนช่วงก่อนเข้าด่านเก็บเงิน ส่งผลให้การจราจรหน้าด่านติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วนมากขึ้นกว่าเดิม
M-Flow คืออะไร มาเพื่อแก้ปัญหาอะไร?
ระบบ M-Flow เป็นระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบนทางด่วนและมอเตอร์เวย์ โดยการใช้เทคโนโลยี AI ที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย มาพัฒนาระบบจัดเก็บค่าผ่านทางด้วยกล้องตรวจบันทึกภาพป้ายทะเบียนรถเป็นครั้งแรก ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลแบบ Video Tolling แทนการเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบระบบไม้กั้นทั่วไป ทำให้ผู้ใช้รถยนต์สามารถขับขี่ผ่านบริเวณด่านโดยไม่ต้องหยุดหรือชะลอรถ ด้วยความเร็วได้ถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยระบายรถได้ 2,000-2,500 คันต่อชั่วโมงต่อช่องทาง เร็วขึ้นกว่าระบบเดิมที่ใช้อยู่ถึง 5 เท่า
อีกทั้งยังรองรับการใช้งานกับรถยนต์ทุกประเภทที่ได้รับอนุญาตให้วิ่งบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือทางพิเศษ ทั้งรถยนต์ 4 ล้อ, 6 ล้อ และมากกว่า 6 ล้อขึ้นไป โดยชำระค่าธรรมเนียมผ่านวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หลังการใช้บริการ หรือระบบ Post Paid ทั้งแบบชำระเป็นรายครั้งหรือชำระตามรอบบิล รวมไปถึงการชำระผ่านเว็บไซต์หรือโมบายล์แอปพลิเคชันของระบบ M-Flow ตลอดจนการชำระด้วยระบบ QR Code และการชำระผ่านระบบตัดเงินอัตโนมัติ
M-Flow มีปัญหาตรงไหน?
หลังเปิดให้บริการเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ระบบ M-Flow ที่นำมาใช้แก้ปัญหารถติดกลายเป็นตัวปัญหาเสียเอง เนื่องจากช่องทางเก็บเงินค่าผ่านทางแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) เพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นใช้งาน ทำให้ผู้สัญจรส่วนใหญ่ที่ยังไม่รู้จักวิธีใช้งานระบบ M-Flow ดีพอ จึงตัดสินใจเลือกผ่านด่านช่อง ‘เงินสด’ และ ‘บัตรอัตโนมัติ’ อย่าง M-PASS และ Easy Pass เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ภาพรวมในช่วงเวลาเร่งด่วน รถยนต์ที่วิ่งบนเส้นทางดังกล่าวติดขัดใน 2 ช่องทางจากระบบเก่า
นอกจากนี้อีกหนึ่งปัญหาที่พบบ่อย คือ ผู้ใช้ถนนขาจรที่ไม่ค่อยได้สัญจรผ่านเส้นทางมอเตอร์เวย์สาย 9 หลายคนเลือกใช้ช่องผ่านด่านของ M-Flow ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน ซึ่งเบื้องต้นกรมทางหลวงอนุโลมให้วิ่งผ่านไปก่อนได้ เพียงแต่ต้องชำระค่าธรรมเนียมผ่านช่องทางต่างๆ ภายใน 2 วัน
แต่ประเด็นที่นำไปสู่กระแสวิพากวิจารณ์คือเรื่องของ ‘ค่าปรับ’ สำหรับรถที่ใช้บริการผ่าน M-Flow และไม่เสียค่าธรรมเนียมภายใน 2 วัน ซึ่งจะต้องถูกปรับ 10 เท่า หรือคิดเป็นขั้นต่ำ 330 บาทต่อการผ่านทาง 1 ครั้ง โดยผู้ใช้งานสื่อโซเชียลได้ตั้งคำถามไปในทิศทางเดียวกันว่า ค่าปรับดังกล่าวนั้นแพงไปหรือไม่ เนื่องจากยังมีผู้ใช้รถใช้ถนนอีกไม่น้อยที่ยังไม่รู้จักกับระบบ M-Flow อีกทั้งวิธีการประชาสัมพันธ์ของกรมทางหลวงที่ไม่สามารถกระจายข่าวสารได้มากพอ จึงสร้างความสับสนและปัญหาในมิติอื่นๆ ที่ตามมาอีกจำนวนมาก
ทำอย่างไรไม่ให้ถูกปรับ?
สำหรับผู้ ‘ไม่ได้ลงทะเบียน’ แต่ใช้บริการผ่าน M-Flow และไม่อยากเสียค่าปรับนั้น ต้องเข้าไปตรวจสอบยอดค้างชำระและชำระเงินได้ 3 ช่องทาง ดังนี้
- เว็บไซต์ www.mflowthai.com
- แอปพลิเคชัน MFlowThai
- LINE OA: @mflowthai
เพื่อแสดงตนว่าไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงไม่ชำระค่าผ่านทาง หากไม่ชำระตามเวลาที่กำหนดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้สําหรับรถยนต์ป้ายแดง หรือป้ายทะเบียนไม่ชัดเจน จะยังไม่สามารถใช้บริการ M-Flow ได้ แต่ยังคงใช้ช่องชําระเงินสด และช่อง M-PASS Easy Pass ได้
ลงทะเบียนใช้ระบบ M-Flow อย่างไร
สำหรับการลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิกใช้งานช่องผ่านทางแบบไม่มีไม้กั้น หรือระบบ M-Flow นั้น ประชาชนทั่วไปสามารถลงทะเบียนได้ 2 วิธี ดังนี้
1. ลงทะเบียนเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบ
โดยสมัครผ่านทางเว็บไซต์ www.mflowthai.com หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน MFlowThai โดยเลือกการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือตัดเงินในบัญชี M-PASS หรือ Easy Pass ที่หลายคนมีบัญชีอยู่แล้ว โดยเลือกได้ว่าจะจ่ายเป็นรอบบิล หรือจะจ่ายเป็นรายครั้ง ผ่าน QR Code และไปจ่ายเงินทาง E-Banking ธนาคาร หรือจ่ายที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสที่ร้าน 7-Eleven ทุกสาขากว่า 13,000 แห่งทั่วประเทศ โดยผู้ที่สมัครเป็นสมาชิกใช้งานระบบ M-Flow รายใหม่นี้ จะได้โปรโมชัน คือ ใช้งานฟรี 2 เที่ยว และหลังจากนั้นครั้งต่อๆ ไป จะได้ส่วนลดค่าผ่านทาง 20% เป็นเวลา 3 เดือน (จ่ายเพียง 24 บาท จากค่าผ่านทางปกติ 30 บาท) และจะพิจารณาโปรโมชันอื่นๆ อีก
2. การลงทะเบียนเป็นสมาชิกผ่านทาง LINE OA โดยเพิ่มเพื่อน @mflowthai แล้วกดเลือกช่องสมัครเป็นสมาชิก โดยจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต ซึ่งกรมทางหลวงแนะนำว่าวิธีนี้สามารถสมัครได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยใช้เวลาไม่เกิน 2 นาทีเท่านั้น และจะได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร ส่วนลด และโปรโมชันต่างๆ ผ่านทาง LINE OA นี้
แนวทางแก้ปัญหาของกรมทางหลวงกับระบบ M-Flow หลังจากนี้
ทันทีที่เกิดกระแสดราม่าต่างๆ ของช่องทาง M-Flow สราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง ออกมาเปิดเผยว่า กรมทางหลวงรับทราบปัญหารถติดหน้าด่านที่เกิดขึ้นและไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ โดยได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เต็มพิกัด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหารถติดและอำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณหน้าด่านเก็บเงินทั้ง 4 ด่าน โดยได้สั่งการให้ดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้
- ปรับจำนวนช่องเก็บเงินสด และช่องอัตโนมัติ M-PASS และ Easy Pass ให้เหมาะสมสอดคล้องกับปริมาณรถผู้ใช้งานของแต่ละด่าน
- ติดป้ายประชาสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้นช่วงก่อนถึงด่านเก็บเงิน เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้ทางใช้ช่องทางที่ถูกต้อง โดยผู้ที่ลงทะเบียนเป็นสมาชิก M-Flow ให้ใช้ช่องขวาสุด สามารถวิ่งผ่านบริเวณด่านได้เลย ส่วนผู้ที่ใช้ช่องอัตโนมัติ M-PASS หรือ Easy Pass ใช้ช่องกลาง และเงินสดให้ใช้ช่องซ้ายสุด เป็นต้น
- ติดตั้งแบริเออร์และกรวยยางแบ่งช่องจราจรให้ชัดเจนเป็นระยะทางล่วงหน้า 1 กิโลเมตร เพื่อให้การใช้ช่องทางเป็นระเบียบ ไม่แทรก หรือเปลี่ยนช่องทางกะทันหันก่อนถึงบริเวณด่านเก็บเงิน
- ระดมเจ้าหน้าที่ช่วยบริการอำนวยความสะดวกเก็บเงินในช่องทางเงินสด เพื่อสามารถผ่านด่านได้รวดเร็วขึ้น
- ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนผู้ใช้ทางมอเตอร์เวย์สมัครลงทะเบียนเป็นสมาชิกใช้งานระบบ M-Flow ให้มากขึ้น โดยเพิ่มการแจกแผ่นพับที่หน้าด่านเก็บเงินมอเตอร์เวย์ และช่องด่านเก็บเงินทางด่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย รวมทั้งขอความร่วมมือแจกแผ่นพับในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven
ทั้งนี้จากข้อมูลวันที่ 19 กุมภาพันธ์ มีผู้ลงทะเบียนสมัครสมาชิกใช้งานระบบ M-Flow จำนวนรวมทั้งสิ้น 61,171 ราย ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล คิดเป็นจำนวนรถที่เป็นสมาชิก 67,399 คัน