เครือแฟชั่นลักชัวรีอันดับหนึ่งของโลกอย่าง LVMH เปิดเผยรายงานตัวเลขรายได้ของบริษัทช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025 โดยทำรายได้รวมลดลง 4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว รวมตัวเลขทั้งหมด 3.98 หมื่นล้านยูโร หรือราว 1.5 ล้านล้านบาท
ภายในรายงานที่แยกตามเป็นหมวดหมู่ของประเภทสินค้าและบริการ จะพบว่าเกือบทุกหมวดทำรายได้ลดลงหรือทรงตัวเท่าเดิมกับปี 2024 ผลกระทบหลักมาจากหมวดหมู่หลักอย่างแฟชั่นและเครื่องหนังที่ทำรายได้ไป 1.91 หมื่นล้านยูโร ลดลงจากเดิมถึง 8% เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้กำไรสุทธิของเครือหดตัวลงถึง 22%
ตามมาด้วยฝั่งสุราและแอลกอฮอล์ของบ้าน Moët Hennessy ที่ก็ทำรายได้รวมลดลงไป 8% อยู่ที่ 2,588 ล้านอยู่โร ส่วนฝั่งน้ำหอมและเครื่องสำอาง เครื่องประดับและนาฬิกา และร้านค้าปลีกอยู่ในระดับทรงตัวและมีการหดตัวไม่เกิน 1% จากปีที่แล้ว
ทาง LVMH ให้คำนิยามผลประกอบการในหกเดือนแรกนี้ว่ายังอยู่ในระดับที่แข็งแรง เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโดยรวมของโลก โดยเฉพาะนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ที่มีผลต่อราคาสินค้าและต้นทุนการผลิต ตามมาด้วยกำลังซื้อที่ลดลงจากตลาดสำคัญอย่างญี่ปุ่น และเอเชียโดยภาพรวม
อย่างไรก็ตามในส่วนของแฟชั่นที่ในช่วงครึ่งปีแรกของเครือก็ได้ทำกิจกรรมมากมายที่ช่วยพยุงยอดขายไว้ให้พ้นช่วงเวลาวิกฤต ผ่านแบรนด์หลัก ๆ ตั้งแต่ Louis Vuitton ที่มีการจับมือกับการแข่งขัน F1 ในการเป็นผู้สนับสนุนหลักและประเดิมสนามแรกที่ Australian Grand Prix, คอลเล็กชันเด่นอย่าง Louis Vuitton x Takashi Murakami ที่ออกมาถึงสามรอบ รวมไปถึงการเปิดโปรเจกต์เรือยักษ์ The Louis ที่เซี่ยงไฮ้
ส่วน Dior ที่มาสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญจากยุค Maria Grazia Chiuri และ Kim Jones มาสู่ Jonathan Anderson เพียงผู้เดียว ผ่านโชว์แรกที่ทำยอดผู้ชมโชว์คอลเล็กชันผู้ชายรวมไปกว่าพันล้านวิว บวกกับผลงานฝั่งผู้หญิงที่จะได้ชมในเดือนตุลาคมนี้ และโอต์กูตูร์ในต้นปี 2026 ทำให้ LVMH มีความหวังการเติบโตในปีหน้า และยังไม่นับรวมแบรนด์ในเครือทั้ง CELINE และ LOEWE ที่ต่างก็มีดีไซเนอร์ใหม่ทั้งคู่
ภาพ: VCG/VCG via Getty Images
อ้างอิง: