×

สินค้าหรูมือสองทั่วโลกโตพุ่ง 3 เท่า! แพลตฟอร์มเร่งใช้ AI ตรวจความแท้ หลังของปลอมผลิตเนียนขึ้น จนแบรนด์ยังพลาดซ่อม

18.10.2025
  • LOADING...
สินค้าหรูมือสองทั่วโลกโตพุ่ง 3 เท่า แพลตฟอร์มเร่งใช้ AI ตรวจความแท้ หลังของปลอมผลิตเนียนขึ้น จนแบรนด์ยังพลาดซ่อม

ตลาดสินค้าแฟชั่นและสินค้าหรูมือสองทั่วโลกเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยอัตราเฉลี่ยปีละ 10% ซึ่งสูงกว่าตลาดสินค้าหรูมือหนึ่งถึง 3 เท่า โดยคาดว่ามูลค่าตลาดรีเซลทั่วโลกอาจพุ่งแตะระดับ 3.6 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 จากปัจจุบันอยู่ที่ราว 2.1 แสนล้านดอลลาร์ อิงตามรายงานร่วมของ Boston Consulting Group (BCG) และ Vestiaire Collective

 

การเติบโตนี้ทำให้ ความเชื่อมั่นของสินค้า กลายเป็นหัวใจสำคัญและเป็นมาตรฐานใหม่ที่แพลตฟอร์มต่าง ๆ ต้องเร่งปรับตัว เนื่องจากกระบวนการปลอมแปลงสินค้าปลอมมีความซับซ้อนขึ้น จนแม้แต่แบรนด์หรูบางครั้งยังไม่สามารถตรวจจับได้ และเคยมีกรณีถึงขั้นเผลอซ่อมสินค้าปลอมให้ลูกค้าโดยไม่รู้ตัว

 

ภัยคุกคามจากสินค้าปลอม และกฎ ‘ผู้ซื้อต้องระวัง’

 

แจวฮวา ชเว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแพลตฟอร์มออนไลน์ Bunjang จากเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า มีการเตือนภัยบนโลกออนไลน์บ่อยครั้ง เช่น ผู้ซื้อที่ต้องเสียเงินหลักแสนเพื่อซื้อกระเป๋า Hermès ปลอม หรือนาฬิกา Rolex ที่ถูกสลับชิ้นส่วนของแท้กับของปลอม โดยเฉพาะ ‘Superfakes’ ซึ่งเป็นของปลอมที่เหมือนจริงสูงมากและบางครั้งใช้วัสดุจากซัปพลายเออร์รายเดียวกับแบรนด์ของแท้ ทำให้ผู้บริโภคกังวลเพิ่มขึ้น

 

ถึงแม้ตลาดจะเติบโตต่อเนื่อง แต่ผู้บริโภคยังคงอยู่ภายใต้กฎในภาษาละตินที่เรียกว่า ‘Caveat Emptor’ หรือ ผู้ซื้อต้องระวังตัวเอง ซึ่งหมายความว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผู้ซื้อจะต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าแบรนด์หรูแต่ละครั้งด้วยตัวเอง

 

เพื่อตอบโจทย์ความกังวล แพลตฟอร์มร้านรีเซลแบรนด์หรูทั่วโลกจึงเริ่มลงทุนพัฒนาระบบตรวจสอบความแท้อย่างจริงจัง เริ่มจาก Carousell Luxury แพลตฟอร์มออนไลน์สัญชาติ สิงคโปร์ ได้เปิดร้านและจัดตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบสินค้าหรูก่อนนำขึ้นจำหน่าย

 

โดย นายเทรเซอร์ แทน ผู้อำนวยการฝ่ายขาย การตลาด และลูกค้าสัมพันธ์ กล่าวว่า ทีมงานจะตรวจสอบทั้งวัสดุ ลวดลายการเย็บ รอยประทับโลโก้ และสัญลักษณ์ ต่าง ๆ อย่างละเอียด พร้อมนโยบาย รับประกันคืนเงินเต็มจำนวน หากพบว่าสินค้าไม่ใช่ของแท้ รวมถึงการพัฒนาฐานข้อมูลเฉพาะครอบคลุมสินค้ากว่า 500 รูปแบบ โดยสินค้ามูลค่าสูงจะต้องผ่านการตรวจสอบหลายขั้นตอน และจะไม่ยอมให้นำสินค้าที่มีข้อสงสัยขึ้นขายบนแพลตฟอร์มโดยเด็ดขาด

 

เช่นเดียวกับ Bunjang แพลตฟอร์มจากเกาหลีใต้ ได้พัฒนา ระบบตรวจสอบความแท้ ที่ผสานการตรวจสอบด้วยสายตาแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูง ทั้งเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ และ AI ที่ได้รับการฝึกด้วยฐานข้อมูลหลายแสนชุด โดยระบบนี้มีความแม่นยำสูงถึง 99.9% และยังสามารถเรียนรู้เพื่อรับมือเทคนิคการปลอมแปลงที่ซับซ้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

เรียกได้ว่าทั้ง Carousell และ Bunjang ต่างเห็นตรงกันว่า การตรวจสอบความแท้ คือเครื่องมือสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ โดย Bunjang รายงานว่าปัจจุบันสินค้าหรูคิดเป็น 25% ของมูลค่าการซื้อขายรวมบนแพลตฟอร์มมูลค่ารวม 1.1 พันล้านดอลลาร์ และยอดซื้อสินค้าหรูในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ก็เพิ่มขึ้นถึง 30% จากปีก่อนหน้า

 

แรงจูงใจไม่ใช่แค่ราคา แต่คือการสร้าง ‘เอกลักษณ์เฉพาะตัว’

 

ด้านรายงานของ BCG ชี้ว่า เหตุผลหลักที่ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าหรูมือสองคือ ความคุ้มค่า แต่แรงจูงใจไม่ได้มีแค่เรื่องราคาเท่านั้น สอดรับกับ ซาแมนธา เวิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดของ Vestiaire Collective ระบุว่า ปัจจุบันผู้บริโภคจำนวนมากกำลังมองหาสินค้าแบรนด์หรูหายาก หรือ คอลเลกชันที่เลิกผลิตไปแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์แฟชั่นของคนรุ่นใหม่ที่เน้นการสร้าง เอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้กับตนเองมากขึ้น

 

นอกจากนี้ กลุ่ม Gen Millennials และ Gen Z ยังเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญของตลาดสินค้าหรูมือสอง เนื่องจากมีพฤติกรรม ‘ซื้อ ใช้ และขายต่อ’ อย่างรวดเร็ว ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในมุมมองของคนรุ่นใหม่ต่อสินค้าแบรนด์เนม

 

ทั้งหมดนี้ตอกย้ำภาพอุตสาหกรรมที่กำลังเปลี่ยนผ่าน จากการครอบครองเพื่อแสดงฐานะ ไปสู่การซื้อเพื่อคุณค่าและเสริมความมั่นใจ โดยมี การตรวจสอบความแท้ เข้ามาเป็น มาตรฐานทองคำ ของยุคใหม่ในตลาดสินค้าหรูมือสองทั่วโลก

 

ภาพ: Xeniia X/shutterstock

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising