ดูเหมือนว่ากระแส FOMO หรือ ‘กลัวตกรถ’ กำลังเกิดขึ้นกับ เหรียญ LUNA อีกครั้งจากการคาดหวังว่าจะเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นกับเหรียญดังกล่าว แม้ว่าเหรียญนี้กำลังเข้าใกล้ภาวะล่มสลายไปแล้วก็ตาม
โดยราคาเหรียญ LUNA ปรับตัวขึ้นร้อนแรงทันทีที่ Binance รวมทั้งแพลตฟอร์มการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีอีกหลายๆ แห่ง ตัดสินใจนำเหรียญ LUNA กลับเข้ามาซื้อขายในกระดานอีกครั้ง หลังจากที่เครือข่าย Terra ผู้ออกเหรียญดังกล่าว ได้กลับมาเปิดให้บริการพร้อมกับการประกาศแผนฟื้นฟูที่ยังต้องรอดูว่าแผนที่ว่านี้จะได้รับการยอมรับหรือไม่
ราคาเหรียญ LUNA ที่ซื้อขายผ่าน Binance ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2565 เวลา 17.40 น. เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 0.00522 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1,640% ขณะที่ราคา LUNA ที่ซื้อขายผ่าน Bitkub ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 0.017 บาท เพิ่มขึ้นราว 1,600%
กระแส FOMO เริ่มมีเพิ่มขึ้นหลังจากที่ในโลกโซเชียลมีเดียเริ่มนำพอร์ตของผู้ลงทุนบางรายที่เข้าซื้อเหรียญดังกล่าวตอนราคาร่วงลงไปอยู่ระดับต่ำสุดที่ 0.001 บาท โดยเข้าซื้อไว้จำนวนหลักหมื่นบาท แต่ล่าสุดพอร์ตลงทุนดังกล่าวเพิ่มขึ้นมาแตะหลักล้านบาทภายในเวลาแค่หนึ่งคืน
กานต์นิธิ ทองธนากุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน Merkle Capital และผู้ก่อตั้งเพจ Kim DeFi Daddy และ Bitcoin Addict Thailand กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ค่อนข้างเป็นห่วงกระแส FOMO ที่มีต่อเหรียญ LUNA เพราะยังมองไม่ออกว่าอนาคตเหรียญนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ยังประเมินมูลค่าไม่ได้ อีกทั้งซัพพลายในปัจจุบันของเหรียญ LUNA ก็ออกมาค่อนข้างมาก ปัจจุบันมีมากกว่า 6.5 ล้านล้านโทเคน จากเดิมที่มีเพียง 1.4 พันล้านโทเคน ทำให้ราคาเหรียญในช่วงก่อนหน้านี้ร่วงลงไปแรง
อย่างไรก็ตาม ทีมพัฒนาเหรียญได้ออกมาเปิดเผยถึงแผนการแก้วิกฤตในครั้งนี้ ด้วยการเตรียมจะออกเหรียญใหม่จำนวน 1 พันล้านโทเคน ชดเชยให้กับผู้ถือเหรียญ LUNA ทั้งที่เป็นรายใหม่และรายเก่าที่ถือไว้ก่อนหน้านี้ ประกอบกับทาง Binance รวมถึง Bitkub ได้นำเหรียญนี้กลับมาเทรดใหม่ จึงทำให้มีคนเข้ามาเล่นเก็งกำไรจำนวนมาก ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าการลงทุนในเหรียญนี้ยังมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง
“การเล่นเหรียญ LUNA ในตอนนี้ เหมือนกับการเดินเข้าบ่อน ต้องเดิมพันโดยไม่รู้ว่าจะหมู่หรือจ่า ตอนนี้อาจมีคนเข้าไปช้อนแล้วได้กำไรกันมาก จึงเกิดกระแส FOMO แต่อยากเตือนคนที่คิดจะเสี่ยงโชคแบบนี้ต้องระมัดระวังให้ดี ถ้าอยากจะเสี่ยงจริงๆ อาจแบ่งเงินเพียงเล็กน้อยไปลองดูก็ได้ แต่ต้องไม่กระทบพอร์ตหลัก และให้ตีเงินส่วนนี้เป็นศูนย์ไปเลย ถ้าได้กำไรก็ถือว่าโชคดีไป”
ด้าน ศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์ นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย CEO and Founder at Bitcast กล่าวว่า คนที่เข้ามาเล่นเก็งกำไรในเหรียญ LUNA ช่วงเวลานี้น่าจะแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคนที่รู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เข้าไปลงทุนโดยหวังว่า โด ควอน จะสามารถฟื้นฟูเหรียญนี้กลับมาได้ ซึ่งกลุ่มนี้เชื่อว่าคงนำเงินลงทุนที่พร้อมจะเสียอยู่แล้วเข้าไปลงทุน กับอีกกลุ่มหนึ่ง คือ กลุ่มที่ตามกระแสโดยไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งกลุ่มนี้อาจต้องเตือนให้เห็นถึงความเสี่ยงในการลงทุน
“ถ้าเป็นกลุ่มที่เล่นตามๆ กันโดยไม่รู้ว่ากำลังเล่นกับอะไร คิดว่าคงต้องเตือนเพราะมีความเสี่ยงสูง ส่วนกลุ่มที่เขารู้อยู่แล้ว เขาคงเข้าใจความเสี่ยงว่าเหมือนกับการซื้อหวย ถ้าไม่ถูกก็เสีย แต่ถ้าถูกขึ้นมาก็พอมีกำไรในระดับหนึ่ง”
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวเชื่อว่าคนที่เข้ามาส่วนใหญ่น่าจะพอรู้ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับเหรียญนี้อยู่บ้างแล้ว แต่ที่กล้าเข้ามาลงทุนเพราะยังเชื่อมั่นว่า โด ควอน จะแก้ปัญหาต่างๆ ได้ เพราะเขาถือเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่เก่งมากคนหนึ่งของโลก เพียงแต่ในอนาคตไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นอย่างไร
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP