ถ้าคุณสามารถควบคุมความฝันได้ คุณอยากเห็นภาพความฝันเหล่านั้นเป็นอย่างไร
ประโยคคำถามที่อยากให้ทุกคนได้ ‘ทบทวน’ ความรู้สึกที่เขาบอกกันว่า เรื่องราวในความฝันมักเกิดจากความรู้สึกที่เราโหยหาในชีวิตจริง คำตอบของคำถามนี้อาจจะหมายถึงความรู้สึกที่คุณกำลังต้องการ ‘การเติมเต็ม’ อยู่ก็ได้
ซึ่งคำถามเหล่านี้ได้ถูกหยิบยกมาถ่ายทอดผ่าน ก่อนที่เธอจะลืมฝัน (Lucid) ซิงเกิลลำดับที่ 7 และเพลงภาษาต่างประเทศลำดับที่ 4 ของ Jeff Satur จากค่าย Wayfer Records ภายใต้สังกัด Warner Music Thailand
เพลงนี้เป็นเพลงแนวบัลลาด เนื้อเพลงพรรณนาถึงความรักและความโหยหาช่วงเวลาที่เราต่างมีความสุขในโลกแห่งความฝัน ถึงแม้จะรู้ดีว่าเป็นเพียงเศษเสี้ยวเวลาที่เกิดขึ้นแค่ยามราตรี แต่ก็หวังว่าเขาจะไม่ลืมความสุขที่เรามีร่วมกันในช่วงเวลานั้น ลองจินตนาการดูว่าถ้าเราเป็นคนที่อยู่ในความฝันนั้นจะเจ็บปวดแค่ไหนกับการต้องถูกลืมทุกวัน
รู้เพียงแค่วันเวลาเหล่านั้นมันผ่านมาช่วงหนึ่ง
รู้ดีว่าวันหนึ่งเธอก็คงต้องตื่น
แต่ว่าในคืนนี้ยังมีฉัน
ซึ่งในมิวสิกวิดีโอนี้ยังได้ เนเน่-พรนับพัน พรเพ็ญพิพัฒน์ นักร้องสาวเสียงเพราะ มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวของโลกเทพนิยายนี้ร่วมกับ Jeff Satur โดยบอกเล่าเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวที่พบเจอกันผ่านโลกแห่งความฝันในช่วง Lucid Dream เป็นการท่องโลกแห่งจินตนาการที่เปรียบเสมือนโลกของเทพนิยาย พวกเขาทั้งคู่ได้สร้างความทรงจำที่สวยงามให้แก่กันในค่ำคืนแห่งความฝัน จากคนแปลกหน้ากลายเป็นความผูกพัน แต่สุดท้ายความฝันนั้นก็ต้องจบลงเสมอ เมื่อแสงตะวันสาดส่องขับไล่แสงจันทร์ในยามค่ำคืน
ฉากที่ปรากฏอยู่ในมิวสิกวิดีโอ Jeff Satur ได้ร่วมสร้างสรรค์ผลงานร่วมกับ จีน-คำขวัญ ดวงมณี ผู้กำกับมิวสิกวิดีโอมากฝีมือ
โดยฉากที่ผู้เขียนรู้สึกชื่นชอบเป็นพิเศษคือฉากที่ Jeff Satur ยืนร้องเพลงตรงบันได และฉายเงาข้างหลังเป็นรูปนาฬิกา เป็นฉากที่องค์ประกอบภาพสวยงาม รวมถึงให้ความรู้สึกตอกย้ำเรื่องช่วงเวลาแห่งความรู้สึกที่เกิดขึ้นอีกด้วย
นอกจากเรื่องราวในเพลงและภาษาที่ใช้จะน่าสนใจแล้ว เราจะพามาสำรวจประเด็นที่ถูกสอดแทรกอยู่ในเพลง ก่อนที่เธอจะลืมฝัน (Lucid) นี้กัน
กลัวการถูกลืมและต้องจมอยู่กับความทรงจำเพียงลำพัง
ความกลัวเป็นเรื่องพื้นฐานที่เราทุกคนต่างเคยรู้สึก แล้วอะไรล่ะคือสิ่งที่เรากลัวมากที่สุด ซึ่งในเพลงนี้บอกเราว่าความกลัวของเขาคือ ‘กลัวความสุขที่มีจะหายไป และกลัวว่าจะถูกลืม’ เหมือนเนื้อเพลงที่บอกว่า
ฉันกลัว กาลเวลาจะทำให้เธอลืม
ฉันกลัว แสงตะวันจะทำให้เราจาก
ฉันกลัว เธอจะทิ้งให้ฉันอยู่ลำพัง
ความกลัวเหล่านี้มาจากการที่เรามีช่วงเวลาที่แสนสุขมากเสียจนกลัวว่าช่วงเวลาเหล่านี้จะหายไป ซึ่งในมิวสิกวิดีโอจะเห็นได้ว่า ช่วงเวลาแสนสุขของพวกเขาจะคงอยู่แค่ในยามราตรี
เมื่อช่วงเวลาของแสงจันทร์หายไป และถูกแทนที่ด้วยแสงตะวัน ความฝันที่สวยงามในยามราตรีก็กลายเป็นความทรงจำอันเลือนรางในยามรุ่งเช้า
Lucid Dream
Lucid Dream ช่วงเวลาของความฝันที่เราสามารถควบคุมได้ และรู้ตัวว่ากำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งความฝันนี้อีกด้วย
ความฝันที่เกิดขึ้นในมิวสิกวิดีโอนี้จึงเกิดขึ้นในช่วง Lucid Dream ของฝ่ายหญิง โดยในฝันนั้นมีเรื่องราวอันแสนสุขที่เกิดขึ้น และเธอสามารถควบคุมมันได้
แต่ถ้าลองตีความอีกมุมหนึ่ง อาจจะหมายความว่าเรื่องบางอย่างเราอาจทำไม่ได้ในชีวิตจริง แต่เราสามารถโลดแล่นจินตนาการนี้ในโลกแห่งความฝันได้ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าเรื่องราวเหล่านี้เป็นเพียงแค่ ‘ความฝัน’ และความสุขก็หายไปพร้อมกับแสงจันทร์
บางครั้งเราก็อยากจะหยุดเวลาไว้แค่ช่วงที่เรามีความสุข เพื่อหลีกหนีโลกแห่งความเป็นจริงอันโหดร้าย
โลกแห่งเทพนิยายและสัญลักษณ์แทนใจ
ถ้าเราสังเกตดูดีๆ ในมิวสิกวิดีโอจะสอดแทรกกิมมิกเล็กๆ น้อยๆ ไว้ เรามาตีความกิมมิกเหล่านี้กันดีกว่า
แอปเปิ้ลสีแดง ผลไม้สีแดงมักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ในการขอความรัก ซึ่งนิยมใช้ในอดีต วิธีการคือเราจะโยนผลไม้สีแดงนี้ไปตรงหน้าคนที่ชอบ เพื่อบอกเป็นนัยว่าเรามีใจนะ และกำลังขอความรักจากคนนั้นอยู่ ซึ่งถ้าฝ่ายนั้นเขามีใจเช่นกัน เขาก็จะหยิบผลไม้นั้นขึ้นมา เหมาะสำหรับคนที่อยากสารภาพรักแต่ไม่กล้าพอที่จะพูดตรงๆ
เหมือนกับฉากหนึ่งในมิวสิกวิดีโอที่ฝ่ายชายหอบผลไม้ต่างๆ มาให้ฝ่ายหญิง และหนึ่งในนั้นมีผลไม้สีแดงอยู่ด้วย แต่เมื่อฝ่ายหญิงกำลังจะเอื้อมมือไปรับ ฝ่ายชายกลับโยนผลไม้นั้นลงพื้นไปเสียก่อน
ดอก Forget Me Not สัญลักษณ์แห่งความรักและความทรงจำที่ไม่มีวันลืม การมอบดอกไม้ชนิดนี้ให้ก็เหมือนเป็นการย้ำเตือนกับคนรับว่า ‘อย่าลืมฉันนะ’
ในมิวสิกวิดีโอมีฉากหนึ่งที่ฝ่ายชายนำดอก Forget Me Not นี้ทัดหูฝ่ายหญิง ซึ่งอาจจะต้องการสื่อความหมายว่า อย่าลืมฉัน เหมือนกับในเนื้อเพลงที่บอกว่า
อยากให้เธอเก็บคืนที่เรามีกันทุกภาพความฝันแม้ไม่มีฉันที่ตรงนี้
ก่อนที่เธอจะลืมฉันไป
ก่อนที่ทุกคนจะนอน สามารถรับชมมิวสิกวิดีโอเพลง ก่อนที่เธอจะลืมฝัน (Lucid) ได้ที่
