×

ความรัก ความตาย และการมีชีวิตอยู่ต่อไป

18.02.2019
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • หากคุณมีเพื่อนที่สูญเสียคนรัก ไม่ว่าจากเป็นหรือจากตาย รับฟังเมื่อเพื่อนคุณอยากพูด โอบกอดเมื่อเพื่อนคุณร้องไห้ ให้คำปรึกษาเมื่อเพื่อนคุณต้องการคำปลอบใจ บอกเพื่อนคุณว่าทุกสิ่งที่ผ่านมาเคยเกิดขึ้นจริง และจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว หากสิ่งนั้นคือความสุข ขอจงรักษาไว้เพื่อหล่อเลี้ยงหัวใจ

“ไม่ว่าใครจะบอกว่าเข้าใจเรา เชื่อเถอะ เขาไม่เข้าใจ”

 

พี่คนหนึ่งกล่าวกับฉันเมื่อคราวพบกันครั้งแรกเมื่อกว่า 4 ปีก่อน เธอเป็นเพื่อนของอดีตหัวหน้าซึ่งแนะนำให้เรารู้จักกัน เธอทราบว่าสามีของฉันเพิ่งเสียชีวิตได้ไม่ถึงเดือน เธอก็เช่นกัน เป็นภรรยาผู้สูญเสียสามี

 

แม้สามีของเธอได้จากไปหลายปีแล้ว แต่ความอ้างว้างนั้นทรงพลังอย่างยิ่ง

 

มันยังคงอยู่ ในถ้อยคำ น้ำเสียง และแววตา ซึ่งบ่งบอกว่ามีเพียงผู้สูญเสียเท่านั้น ที่หลงคว้างอยู่ในความอ้างว้างอันไพศาลของการจากลาตลอดกาล

 

และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด รูโหว่อันเดียวดายยังคงเป็นหลุมดำมืดที่เราเพลี่ยงพล้ำพลัดตกลงไปได้ทุกเมื่อ

 

ไม่ว่ายามเศร้า ยามเหงา

 

ไม่เว้นแม้กระทั่งยามสุข

 

เราอาจใช้เวลาไม่นานที่จะตกหลุมรักใครสักคน แต่อาจต้องใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิตประคับประคองจิตใจให้อยู่อย่างมีสุข หากการพลัดพรากเข้ามาทดสอบเราเร็วเกินกว่ากำหนด

 

อย่างไรกันหรือถึงเรียกว่าเร็วเกิน และใครกันหนอเป็นผู้กำหนด

 

คำตอบอยู่ในสายลม เพื่อนเอ๋ย บ็อบ ดีแลน บอกไว้เช่นนั้น

 

ในวันที่การสูญเสียยังเข้มข้น ความทุกข์โศกทาบทาทั่วร่าง ความคิดถึงติดตรึงอยู่ในทุกความคำนึงและลมหายใจ ความยินดียินร้ายเรื่องไหนๆ ก็ดูจะเบาบาง และไม่สลักสำคัญไปกว่าความตายของคนที่เรารักอีกแล้ว

 

อาจไม่ง่ายและไม่รวดเร็วนักกับการปรับจิตใจให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุขในโลกที่ไร้เพื่อนคู่ชีวิตเคียงข้าง และไม่ว่าใครจะปลุกปลอบเราเช่นไร กำลังใจร้อยพันหมื่นแสนจะหลั่งไหลมามากเพียงไหน ถึงที่สุดแล้วคนที่จะกอบกู้เราจากทุกข์โศกของความตาย หรือแม้แต่เรื่องใดในหล้าโลก มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

 

นั่นคือตัวเรา

 

 

ทุกคนเกิดมาต้องตาย / เขาไปสบายแล้ว / เกิดแก่เจ็บตายเป็นธรรมดาโลก / บลา บลา บลา

 

มีหรือเราจะไม่รู้

 

กับคนที่อกหัก คนรักนอกใจ หรือถูกทำให้เจ็บ

 

อย่าไปเสียดาย แค่ผู้ชาย /ผู้หญิงคนเดียว / ดีแล้วที่ไม่ถลำลึกไปกว่านี้ / คนแบบนี้ อย่าเสียน้ำตาให้เลย / บลา บลา บลา

 

เสียน้ำตาเถิด ร้องไห้เถิด ทุกข์เศร้าเถิด เพราะนี่คือกระบวนการหนึ่งของการเยียวยา แน่นอนมันเจ็บปวด แต่ความเจ็บปวดคือส่วนหนึ่งของการเติบโต

 

ความเจ็บปวดคือส่วนหนึ่งของชีวิต

 

เราอาจเรียนรู้โลกและตัวตนผ่านช่องทางมากมาย แต่ไม่มีบทเรียนไหนทำให้เราเติบโตได้เท่ากับบททดสอบเรื่องการพลัดพรากและการสูญเสียอีกแล้ว

 

ร่างของคนหนึ่งดับสูญไปสู่อีกโลก ร่างของคนที่เหลือดำรงอยู่อย่างแตกสลาย

 

เราจะมีชีวิตเช่นนี้หรือ…

 

มันอาจไม่สมบูรณ์เหมือนเก่า ไม่ดีพร้อมเท่าที่เคยมีคนเคียงข้าง แต่เราต้องก้าวต่อไป

 

เราจำเป็นต้องก้าวต่อไป

 

ความตายอาจเป็นหลุมลึกดำมืดที่ดูดกลืนให้จมลงในความหมองเศร้า น้ำตาเดี๋ยวๆ ก็ไหล และหลายครั้งไม่อาจหยุดได้โดยง่าย ภาพความทรงจำมากมายเข้าแถวเรียงรายมาตอกย้ำว่า ต่อแต่นี้ไม่มีอีกแล้ว

 

ใช่ ไม่มีอีกแล้ว

 

 

เอาสิ ร้องไห้เข้าไป ร้องให้สาสม ร้องจนตาบวม น้ำมูกน้ำตาเปรอะเลอะไปทั่วทั้งหน้า ร้องจนหายใจไม่ออก ร้องจนไมเกรนรับประทาน ผู้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักย่อมรู้ดีว่า ความคิดถึงทำกับเราได้ถึงเพียงนั้นจริงๆ

 

เราจะมีชีวิตเช่นไรเมื่อคนที่เรารักจากไป

 

ลองสดับฟังและตริตรอง คำตอบอยู่ในสายลม เพื่อนเอ๋ย แต่ละคนย่อมค้นพบวิถีทางที่เหมาะกับตัวเอง ไม่ว่าเร็วหรือช้า ดั่งประโยคคลาสสิกที่ว่า ‘ทุกอย่างต้องการเวลา’

 

ฉันกำลังเดินทางเข้าสู่ครึ่งหลังของปีที่สี่ ไม่น่าเชื่อ ฉันอยู่โดยปราศจากเพื่อนคู่คิดมาสี่ปีครึ่งแล้ว ไม่ง่าย แต่ก็ผ่านมาได้อย่างไม่ขี้เหร่เกินไป แม้ความเดียวดายอ้างว้างโบยตีฉันอย่างสาหัสสากรรจ์ แต่มันก็ผลักดันให้ฉันกลับมาทำ และได้ลองทำอะไรใหม่ๆ หลายอย่าง

 

เมื่อต้องอยู่คนเดียว ฉันโอบรับความเหงา ฉันยึดเอาหนังสือเป็นเพื่อน บางเล่มซื้อมากว่า 20 ปี ก็ได้ฤกษ์เปิดอ่านเสียที บางเล่มอ่านซ้ำอ่านทวนมิรู้เบื่อ บางเล่มอ่านแล้วน้ำตาหยดแหมะ หลายเล่มอ่านแล้วสะอื้นฮั่กๆ

 

ฉันค้นพบว่าตัวเองเสพติดความเศร้าเข้าเสียแล้ว

 

เมื่อบ้านเงียบเชียบเกินไปจนได้ยินแต่เสียงนาฬิกา ฉันจัดหาลำโพงมาเปิดเพลงแล้วออกสเตปแดนซ์ยึกยัก คึกคักอยู่เพียงลำพัง แม้ในปีแรกเมื่อกระโดดโยกหัวได้ไม่ถึงนาที ก็ต้องทรุดตัวลงร้องไห้ ไปต่อไม่ไหว เพราะนึกถึงเสียงหัวเราะวันเก่าๆ ที่เคยเต้นท่าติงต๊องด้วยกัน

 

หรือบางเพลงฟังแล้วน้ำตาแตก อย่างเพลง ‘ว่าง’ ของ ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ ฟังครั้งแรกคือตาย เดี๋ยวนี้ฟังซ้ำ ร้องตาม ไม่ร้องไห้แล้ว มีซึมบ้าง ก็ต้องให้มันเป็นไป บางเพลงม่วนขนาด แหกปากลั่นบ้าน ไม่แคร์สื่อและเวทีไหนๆ เพราะมี The House เวทีในบ้านของเรา ร้องเพี้ยนผิดคีย์ก็ไม่ถูกโหวตออก

 

 

เมื่อขาดคนข้างกาย ฉันต้องอยู่อย่างแข็งแรง เพื่อจะมีกำลังวังชา และไม่เป็นภาระของใคร ฉันจะไม่ยอมอ่อนข้อให้กรรมพันธุ์โรคเบาหวาน ความดัน และหัวใจ ปีที่ผ่านมา ฉันตื่นตีสี่ครึ่งสัปดาห์ละ 4 วัน ล้างหน้าแปรงฟัน ผูกเชือกรองเท้าแล้วออกวิ่ง

 

ฉันวิ่งไปในความมืด ดวงจันทร์ยังแขวนอยู่บนฟ้า วิ่งไปจนแสงแรกของยามเช้ามาเยือน ฉันวิ่งช้า แต่ไม่ลดละ วิ่งจนทะลุความน่าเบื่อของการวิ่งได้ในที่สุด

 

การวิ่งทำให้ฉันค้นพบความหมายของการตื่นขึ้นในเช้าวันใหม่

 

บทที่ 8 ของหนังสือ อิคิไก ความหมายของการมีชีวิตอยู่ มีชื่อบทว่า ถ้าคุณไม่ตาย คุณก็แกร่งขึ้น

 

ใช่ ถ้ายังมีลมหายใจ เราจำเป็นต้องแกร่ง โลกไม่เปิดโอกาสให้เราพ่ายแพ้ไปตลอด ไม่ว่าจะสะบักสะบอมแค่ไหน หากยังไม่ตาย เราจะปรับตัวได้อย่างช้าๆ เราจะทานทนขึ้นเรื่อยๆ

 

เปล่าเลย เราไม่ได้ชินชา หากแต่เข้าใจมากขึ้น ยอมรับมากขึ้น และมองเห็นความสุขมากขึ้น

 

เมื่อขาดเพื่อนคู่ชีวิต ฉันมีมิ่งมิตรคอยปลุกปลอบ ทั้งเพื่อนเก่าให้คอยบอกเล่าเรื่องราวของวันวาน และเพื่อนใหม่ที่นำพาเรื่องราวใหม่ๆ มาสู่ชีวิต

 

ทุกคืนในขวบปีแรกของการเข้านอน ฉันเคยอธิษฐานขออย่าต้องตื่นในเช้าวันรุ่งขึ้นอีกเลย แต่ทุกเช้าฉันยังลืมตาขึ้นมาต่อสู้กับความเศร้า รบรากับความเหงา เป็นฝ่ายแพ้เสียมากกว่าในสองปีแรก เสมอกันในปีที่สาม แต่ตอนนี้ฉันเริ่มนำ และจะแซงขึ้นหน้าไปเรื่อยๆ

 

ฉันไม่ได้แกร่งกว่าใคร ฉันก้าวไปอย่างเชื่องช้า ฉันเพียงตระหนักว่า หากยังไม่ตาย ก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ทั้งเพื่อตัวเองและอีกคนที่จากไป

 

หากคุณมีเพื่อนที่สูญเสียคนรัก ไม่ว่าจากเป็นหรือจากตาย รับฟังเมื่อเพื่อนคุณอยากพูด โอบกอดเมื่อเพื่อนคุณร้องไห้ ให้คำปรึกษาเมื่อเพื่อนคุณต้องการคำปลอบใจ บอกเพื่อนคุณว่าทุกสิ่งที่ผ่านมาเคยเกิดขึ้นจริง และจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว หากสิ่งนั้นคือความสุข ขอจงรักษาไว้เพื่อหล่อเลี้ยงหัวใจ

 

ความสุขจากไปแล้ว ความทุกข์ก็เช่นกัน สักวันจะผ่านไป ไม่ว่าเร็วหรือช้า

 

เพราะไม่มีสิ่งใดคงอยู่กับเราตลอดไป

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising