ในบรรดารัฐวิสาหกิจที่ส่งรายได้เข้ารัฐ ไม่ใช่การไฟฟ้าฯ หรือ ปตท. ที่ส่งรายได้เข้ารัฐมากที่สุด แต่กลับเป็น ‘สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล’ ซึ่งมีรายได้หลักมาจากการจำหน่ายลอตเตอรี่เดือนละ 2 ครั้ง
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2561 นายชาญวิทย์ นาคบุรี โฆษกสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า ในช่วง 10 เดือนของปีงบประมาณ 2561 (ต.ค. 2560 ถึง ก.ค. 2561) รัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สะสมสูงสุด 5 ลำดับแรกได้แก่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), ธนาคารออมสิน และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 69 ของการนำส่งรายได้สะสมในภาพรวม โดยการจัดเก็บรายได้ที่สูงกว่าเป้าหมายมีสาเหตุหลักจากรัฐวิสาหกิจมีผลประกอบการในภาพรวมที่ดีขึ้น
ปี 2560 คนไทยซื้อลอตเตอรี่ 21.434 ล้านคน เฉลี่ย 9 งวดต่อปี
รายงานสถานการณ์การพนันในสังคมไทยปี 2560 โดยศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน เปิดเผยผลสำรวจจากการเก็บรวบรวมข้อมูลบัตรประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ใน 25 จังหวัดทั่วประเทศ โดยประยุกต์ใช้การสุ่มตัวอย่างและกำหนดลักษณะตัวอย่างให้สอดคล้องกับประชากรเป้าหมายจริง รวมทั้งสิ้น 7,008 ตัวอย่าง (เก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 15 ก.ย. ถึง 12 ต.ค. 2560)
พบว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือลอตเตอรี่ คือการพนันที่คนไทยเคยมีประสบการณ์เล่นสูงที่สุด 79% เหนือกว่าหวยใต้ดิน ไพ่ ไฮโล และพนันฟุตบอล
ขณะที่ปี 2560 ผลสำรวจพบว่า คนไทย 21.434 ล้านคน เล่นสลากกินแบ่งรัฐบาล (ลอตเตอรี่) ในจำนวนนี้มีคนที่เล่นทุกงวด 39.4% ส่วนเล่นบางงวด 60.6% ขณะที่โดยเฉลี่ยคนไทยซื้อลอตเตอรี่ 9 งวดต่อปี เฉลี่ยซื้องวดละ 275 บาท
10 ปี คนไทยซื้อลอตเตอรี่ 6.7 แสนล้านบาท
THE STANDARD รวบรวมจากงบการเงิน สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พบว่า ในรอบ 10 ปี ตั้งแต่ปี 2551-2560 กองสลากฯ สามารถขายลอตเตอรี่ได้รวม 679,489.05 ล้านบาท รวมแบ่งจ่ายรางวัล 430,465 ล้านบาท
ทั้งนี้ นอกจากรายได้หลักที่ได้จากการจำหน่ายลอตเตอรี่แล้ว กองสลากฯ ยังมีรายได้จากสถานะการเป็นโรงพิมพ์ โดยรับจ้างพิมพ์งานจากภายนอก โดยเฉพาะงานพิมพ์ส่ิงพิมพ์ป้องกันการปลอมแปลง เช่น ตั๋วรถโดยสารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ตั๋วรถโดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) คูปองผ่านทางของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย รวมถึงสลากกาชาดต่างๆ
อย่างไรก็ตาม กองสลากฯ มีการแบ่งสัดส่วนรายได้ชัดเจน โดยต้องจัดสรรรายได้จากการจำหน่ายลอตเตอรี่ไม่น้อยกว่า 20% ส่งเข้าเป็นรายได้แผ่นดิน ซึ่งจะเห็นว่ากองสลากฯ มีสถิตินำส่งรายได้แผ่นดินสูงขึ้นต่อเนื่องตามความนิยมการเสี่ยงโชคของคนไทยที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้ กองสลากฯ ยังจัดสรรเงินขายลอตเตอรี่ 3% เข้ากองทุนเพื่อพัฒนาสังคม โดยแบ่งเป็น 6 ส่วนคือ โดยเสด็จพระราชกุศล การศึกษาและกีฬา การสาธารณสุข ศาสนา สังคมสงเคราะห์ ศิลปวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม โดยเมื่อปี 2559 กองสลากฯ บริจาคเงินครอบคลุมทั้ง 6 ด้าน รวม 293,035,748 บาท
เงินบริจาคกองสลากฯ จัดการเอง ขาดการตรวจสอบ-มีส่วนร่วม
แม้กองสลากฯ จะจัดสรรรายได้ในการบริจาคเพื่อสังคมไว้ชัดเจน แต่ที่ผ่านมาการตัดสินใจบริจาคเงินต่างๆ อำนาจการพิจารณาขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ (บอร์ด) กองสลากฯ ซึ่งแต่งตั้งโดยผู้มีอำนาจรัฐทั้งหมด และยังไม่เคยมีแนวทางให้ภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
ขณะที่ข้อมูลพื้นฐานของกองสลากฯ มีปัญหาความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูล เช่น เงินรางวัลที่กองสลากฯ จ่ายให้ผู้ถูกรางวัลในแต่ละงวด จำนวนผู้ถูกรางวัลประเภทต่างๆ รวมถึงยอดขายและกำไรในแต่ละงวด ข้อมูลเหล่านี้ไม่เคยถูกเปิดเผยให้ประชาชนได้เห็น
ภาพประกอบ: Thiencharas.W
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า