×

เมื่อผู้หญิงไทยไม่หยุดสวย ตลาดความงามไทยจึงกลับมาเติบโต ‘L’Oréal Thailand’ เชื่อการถอดหน้ากากจะทำให้ตลาดกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

20.06.2022
  • LOADING...
L'Oréal Thailand

ตลาดเครื่องสำอางเติบโตขึ้นทุกปี เพราะไม่ว่าเมื่อไรผู้หญิงก็ไม่เคยหยุดสวย แต่แล้วการเกิดขึ้นของโควิดทำให้ตลาดที่สดใสกลับหม่นหมอง หากปี 2564 ที่ผ่านมา ‘L’Oréal Thailand’ เผยว่าตลาดนี้ได้กลับมาเติบโตแล้ว 

 

ในปี 2564 ที่ผ่านมา ตลาดความงามกลับมาคึกคักอีกครั้งด้วยมูลค่าตลาดรวมกว่า 1.447 แสนล้านบาท โดยเติบโต 5% ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวยังครองส่วนแบ่งการตลาดไว้ได้สูงที่สุดที่ 57.5% ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 21% ผลิตภัณฑ์กลุ่มเมกอัพยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องด้วยส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 3 ที่ 15.5% ด้านกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำหอมมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 6%

 

“ตลาดความงามในประเทศไทยมีขนาดเป็นอันดับที่ 2 ในภูมิภาค SAPMENA (เอเชียแปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ) และ L’Oréal Thailand เป็น 1 ใน 5 ตลาดหลักในภูมิภาคดังกล่าว โดยยังสามารถคงอัตราการเติบโตเหนือตลาด และครองส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง” อินเนส คาลไดรา กรรมการผู้จัดการ ลอรีอัล ประเทศไทย พม่า ลาว และกัมพูชา กล่าว “ทุกตลาดกลับมาเติบโตหมดแล้ว ซึ่งชื่อว่าตลาดจะกลับมาเติบโตอีกหลังจากผู้คนเลิกใส่หน้ากากอนามัยและกลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง”

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 


 

แม่ทัพของ L’Oréal ฉายภาพต่อว่า ที่ผ่านมาตลาดความงามของโลกขับเคี่ยวด้วยโปรโมชันที่รุนแรง แต่ตอนนี้ภาพรวมเปลี่ยนไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการเกิดโควิด โดยผู้บริโภคหันมาให้ความใส่ใจกับสุขภาพและความงาม ตลอดจนสินค้านั้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่ แบรนด์ต้องมีความโปร่งใส่ในเรื่องนี้

 

สำหรับตลาดไทยอินเนสมองว่า เป็นตลาดที่น่าสนใจ เพราะนอกจากเป็นตลาดที่ใหญ่ ผู้บริโภคยังพร้อมใช้สินค้าใหม่ๆ แถมยังมีความรู้เป็นอย่างมาก ไม่ได้เชื่อทุกสิ่งที่แบรนด์บอก แต่พวกเขาจะไปหาข้อมูลอ่านเอง

 

“คนไทยให้ความสำคัญกับสกินแคร์เป็นอย่างมาก และช่วงโควิดก็สนใจสินค้าที่ป้องกันสิว จุดนี้เองทำให้แบรนด์เวชสำอางเติบโต 2 เท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ช่องทางจัดจำหน่ายออฟไลน์ตามห้างร้านกลับมาเติบโตอีกครั้ง และยังสามารถทำยอดขายได้เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มตลาดอีคอมเมิร์ซอีกด้วย”

 

ขณะเดียวกันด้วยตลาดที่มีขนาดใหญ่จึงกลายเป็นเค้กที่ทุกคนอยากเข้ามากินส่วนแบ่ง ซึ่งอินเนสระบุว่า L’Oréal ชอบการแข่งขัน ในทางกลับกัน L’Oréal ก็เรียนรู้บางอย่างจากคู่แข่งด้วย โดยมองว่าแบรนด์เกิดใหม่ที่เป็นแบรนด์เล็กๆ มาแล้วเดี๋ยวก็ไป ส่วน L’Oréal มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 110 ปี

 

สำหรับปี 2565 L’Oréal Thailand จะเดินหน้ากลยุทธ์ Beauty Tech ต่อไป ซึ่งในภาพรวมบริษัทได้ทุ่มเททั้งด้านงบประมาณและทรัพยากรให้กับงานด้านการค้นคว้าวิจัยและการพัฒนานวัตกรรม 3 ด้าน ได้แก่ 

 

  1. รังสรรค์สูตรผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยี AI 
  2. ประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เพื่อสิ่งแวดล้อม 
  3. ลงทุนในการสร้างพันธมิตรด้าน Data ในบริษัทแนวหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยในการกำหนดอนาคตอุตสาหกรรมความงาม และตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคทั่วโลก

 

โดยปีนี้จะมุ่งส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ในราคาที่หลากหลาย ทุกหมวดหมู่และทุกช่องทางผ่านหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น เซราวี (CeraVe), เคเรสตาส (Kérastase), ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล (L’Oréal Professionnel), อีฟส์ แซงต์ โลรองต์ (Yves Saint Laurent) และ คีลส์ (Kiehl’s) ตลอดจนมุ่งสู่ช่องทางดิจิทัล โดยปีนี้เตรียมวางแผนสร้างความตื่นเต้นให้กับอุตสาหกรรมด้วยแคมเปญอีกกว่า 500 แคมเปญ

 

สำหรับอินเนสนั้นกำลังจะโบกมือลาการเป็นแม่ทัพของ L’Oréal Thailand และมี ‘แพทริค จีโร’ เข้ามารับตำแหน่งแทน

 

ไตรมาสแรกของปี 2565 L’Oréal รายงานผลการดำเนินงานด้วยยอดขาย มูลค่า 9.06 พันล้านยูโร เติบโตขึ้น 13.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว โดยยอดขายในร้านค้าปลีกยังดีดตัวขึ้นอย่างมากถึง 15.5%

 

L’Oréal ระบุว่า มีการเติบโตในทุกภูมิภาค โดยมียอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นและต่อเนื่องในอเมริกาเหนือ ส่วนยอดขายในจีนก็เพิ่มขึ้นในระดับตัวเลขสองหลัก และยอดขายในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ก็เร่งตัวขึ้น เช่นเดียวกับในยุโรป ซึ่งก่อนหน้านี้ยอดขายชะลอตัวเนื่องจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์หลายครั้งในช่วงต้นปี 2564

 

เมื่อสรุปตามรายแผนกพบว่า ผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ ยอดขายเพิ่มขึ้น 17.6%, ผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค ยอดขายเพิ่มขึ้น 6.9%, ผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง ยอดขายเพิ่มขึ้น 17.5% และผลิตภัณฑ์เวชสำอาง ยอดขายเพิ่มขึ้น 18.0%

 

SAPMENA-SSA ยอดขายเพิ่มขึ้น 15.8% (SAPMENA เอเชียแปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ – SSA แอฟริกาใต้ซาฮารา), ยุโรป ยอดขายเพิ่มขึ้น 16.4%, อเมริกาเหนือ ยอดขายเพิ่มขึ้น 12.6%, เอเชียเหนือ ยอดขายเพิ่มขึ้น 9.4% และลาตินอเมริกา ยอดขายเพิ่มขึ้น 22.2%

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X