วันนี้ (10 มกราคม) สิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการการศึกษากระบวนการยุติธรรม แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากกรณีคนร้ายปล้นร้านทองที่จังหวัดลพบุรี พร้อมประณามผู้ก่อเหตุ โดยขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ก่อเหตุอย่างอุกอาจสะเทือนขวัญคนไทยอย่างยิ่ง
สิระยังเสนอให้การพิจารณาบทลงโทษจำแนกออกมา ไม่รวมกับผู้ต้องหาคดีทั่วไป เพราะพฤติกรรมโหดเหี้ยม การควบคุมตัวในเรือนจำต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ อย่าให้เกิดเหตุเหมือนกรณี สมคิด พุ่มพวง หรือ คิด 6 ศพ ที่ฆ่าคน 5 ศพ ได้รับโทษติดคุกตลอดชีวิต แต่ติดคุกจริงเพียงแค่ 14 ปี ก่อนจะออกมาก่อเหตุฆาตกรรมซ้ำเป็นรายที่ 6
“ผมเห็นว่าคดีปล้นฆ่าที่ลพบุรีได้ทองไป 28 บาท ฆ่าคนไป 3 ศพ บาดเจ็บสาหัส 4 ราย ผู้ก่อเหตุไร้จิตสำนึกเลวร้ายกว่าคดีคิด 6 ศพ ถ้าคนเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่จะเป็นภัยต่อสังคม ถ้ามีการวิสามัญฆาตกรรม ผมเชื่อว่าสังคมก็ไม่ติดใจการทำหน้าที่ของตำรวจ แต่แน่นอนว่าการไล่ล่าจับกุม หรือหากมีเหตุที่ต้องนำไปสู่การวิสามัญฆาตกรรม ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด พวกคลั่งสิทธิมนุษยชนไม่ต้องมาโจมตีที่ผมพูดเรื่องนี้ ขอให้ลองคิดว่าถ้าเด็ก 2 ขวบที่ตายเป็นลูกพวกคุณ ยังคิดปกป้องสิทธิมนุษยชนให้ฆาตกรกันอีกหรือเปล่า” สิระกล่าว
สิระกล่าวด้วยว่า อยากให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์เร่งรัดการรื้อระบบพักโทษ-ลดโทษให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ไม่ใช่พอคดีคิด 6 ศพซาลงก็เฉื่อยแฉะไม่กระตือรือร้น เนื่องจากหลักเกณฑ์นี้จะใช้กับคดีอื่นๆ ด้วย โดยต้องกำหนดมาตรการคุมเข้มในการกลั่นกรองการลดโทษ ควรกำหนดให้ชัดเจนไปเลยว่าคดีประเภทไหน พฤติกรรมก่อคดีลักษณะใดต้องโทษตั้งแต่กี่ปีขึ้นไปที่จะไม่เข้าเกณฑ์การลดโทษ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุรับโทษทัณฑ์ที่สาสมกับความเหี้ยมโหด ไม่ปล่อยให้อาชญากรใจทรามออกมาเป็นภัยต่อสังคม ซึ่งในวันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม จะเชิญอธิบดีกรมราชทัณฑ์มาชี้แจงความคืบหน้าในการดำเนินการเรื่องนี้ด้วย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า