ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีน กล่าวคำปราศรัยเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2022 เน้นย้ำความสำคัญในการรักษาเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ และคำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อวิสัยทัศน์ระยะยาวของพรรคคอมมิวนิสต์ ในการทำให้จีนเป็นมหาอำนาจระดับโลก
ในปี 2021 สีประกาศว่า จีนบรรลุเป้าหมายในการสร้าง ‘สังคมกินดีอยู่ดีถ้วนหน้า’ (Moderately Prosperous Society) ซึ่งนับเป็นหลักชัยสำคัญบนเส้นทางสู่การเป็นผู้นำโลกในปี 2049 ซึ่งตรงกับวาระครบรอบ 100 ปีแห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน
“เราต้องรักษามุมมองในระยะยาวเอาไว้เสมอ คำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น รักษาเป้าหมายและความมุ่งมั่นในเชิงยุทธศาสตร์” สีกล่าวปราศรัยปีใหม่ ซึ่งมีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์
จีนซึ่งตรวจเจอโควิดเป็นประเทศแรกเมื่อปลายปี 2019 ให้ความสำคัญกับความสำเร็จทั้งในอดีตและปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงการควบคุมโควิดได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศชะลอตัว และความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ดิ่งลงสู่จุดตกต่ำสุด
นอกจากนี้ผู้นำจีนยังได้กล่าวถึงไต้หวัน เกาะปกครองตนเองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจีนถือว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์และเป็นส่วนหนึ่งของจีน โดยสีกล่าวว่า การรวมกันเป็นหนึ่งเดียวของ ‘มาตุภูมิ’ ถือเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของประชาชนทั้งสองฟากฝั่งของช่องแคบไต้หวัน
“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลูกหลานชาวจีนทุกคนทั้งชายและหญิงจะรวมพลังกันสร้างอนาคตที่สดใสให้ประเทศชาติของเรา” สีกล่าว โดยเมื่อต้นสัปดาห์นี้เจ้าหน้าที่จีนได้เตือนว่า จีนจะใช้มาตรการขั้นรุนแรง หากไต้หวันเดินหน้าแยกตัวเป็นเอกราชอย่างเป็นทางการ
พร้อมกันนี้ สียังเน้นย้ำถึงความสำคัญของเสถียรภาพในฮ่องกงและมาเก๊า อดีตอาณานิคมของอังกฤษและโปรตุเกส ซึ่งกลับสู่อ้อมอกจีนในปี 1997 และ 1999 ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า สีไม่ได้พูดถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของจีนในการกล่าวปราศรัยปีใหม่ในปีนี้ ซึ่งแตกต่างจากปีก่อนๆ
ภาพ: Lintao Zhang / Getty Images
อ้างอิง: