×

ประเมินผลกระทบมาตรการล็อกดาวน์ 13 จังหวัด มองหุ้นกระทบหนักสุด

20.07.2021
  • LOADING...
restaurant business

เกิดอะไรขึ้น:

ตามที่รัฐบาลได้ประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพิ่มเติมใน 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม ถึง 2 สิงหาคม 2564 เพื่อเร่งแก้ไขและบรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ทาง SCBS จึงได้ทำการประเมินหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากมาตรการใหม่ครั้งนี้

 

สรุปผลกระทบรายกลุ่มธุรกิจ

 

กลุ่มร้านอาหาร: 

SCBS ได้สอบถามไปยัง บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (ZEN), บมจ.อาฟเตอร์ ยู (AU) และ บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) โดยบริษัทต่างๆ ให้ข้อมูลว่า ห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ควบคุมเข้มงวดสูงสุด 13 จังหวัด ได้ส่งจดหมายแจ้งให้ร้านอาหารปิดบริการ ซึ่งรวมถึงปิดการใช้ครัวในการทำ Delivery และ Take Away ด้วย

 

มาตรการนี้เข้มข้นกว่ามาตรการตอนเดือนเมษายน 2563 ที่ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้ายังสามารถตั้งบูธในบริเวณชั้นล่างของห้างและใช้ครัวของร้านในการให้บริการ Delivery และ Take Away ได้ ในขณะที่ Community Mall ยังไม่ได้มีประกาศทางการออกมาให้กับผู้ประกอบการร้านอาหาร

 

จากการประเมินเบื้องต้น สาขาใน กรุงเทพฯ และปริมณฑล (ส่วนใหญ่จะอยู่ในห้างสรรพสินค้า) คิดเป็นประมาณ 80-90% ของรายได้ของ ZEN และ AU และประมาณ 40% ของรายได้จากธุรกิจอาหารของ CENTEL

 

ทั้งนี้ผู้ประกอบการอยู่ในระหว่างการหาพื้นที่ทำครัวกลาง (Cloud Kitchen) เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางในการ Delivery แทน แต่ก็น่าจะมีผลกระทบเชิงลบในช่วงแรกจากจำนวนสาขาที่ต้องปิดลง และครัวกลางอาจจะยังไม่สามารถให้บริการได้เต็มที่

 

กลุ่มค้าปลีก: 

บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) คาดได้รับผลกระทบ 15-20% ของยอดขาย โดยมีการปิดธุรกิจแฟชั่นใน Shopping Mall ปิดพื้นที่ขายสินค้าฮาร์ดไลน์บางส่วน ปิดร้านเร็วขึ้น แต่ผลกระทบจริงอาจลดลงหากมีการขายผ่านช่องทางออนไลน์ซึ่งคิดเป็น 13% ของยอดขาย

 

บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) คาดได้รับผลกระทบ 15-20% ของยอดขาย เนื่องจากการปิดร้านใน Shopping Mall ปิดพื้นที่ขายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าบางส่วนในร้านสแตนด์อโลนปิดร้านเร็วขึ้น โดยผลกระทบจริงอาจลดลง หากมีการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งคิดเป็น 5% ของยอดขาย

 

บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) คาดได้รับผลกระทบ 5-8% ของยอดขาย เนื่องจากมีการปิดร้านช่วงกลางคืน 8 ชั่วโมง ในช่วงเวลา 20.00-04.00 น.

 

บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) และ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) คาดได้รับผลกระทบ 2-3% ของยอดขายจากการปิดพื้นที่ขายสินค้าที่ไม่ใช่อาหารบางส่วน และปิดร้านเร็วขึ้น

 

บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) คาดได้รับผลกระทบ 1% ของยอดขายจากการปิดพื้นที่ขายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าบางส่วน

 

กลุ่ม IT Distributor:

บมจ.คอมเซเว่น (COM7) ในเบื้องต้นต้องปิดจำนวนสาขาทั้งหมด 40% ของจำนวนสาขาทั้งหมดประมาณ 800 สาขา โดยสาขาที่ปิดจะอยู่ในสาขาที่อยู่ในจังหวัดสีแดงเข้มเช่นกัน

 

บมจ.คอปเปอร์ ไวร์ด (CPW) ต้องมีการปิดจำนวนสาขามากขึ้น โดย CPW สามารถเปิดได้ทั้งหมด 10 สาขา จากที่มีทั้งหมด 45 สาขา โดยสาขาที่ปิดทั้งหมดจะเป็นสาขาที่อยู่ในจังหวัดสีแดงเข้มเช่นกัน

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X