วันนี้ (22 ตุลาคม) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 33 เป็นพิเศษ วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่น ฉบับที่.. พ.ศ. … ที่ พริษฐ์ วัชรสินธุ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และคณะ เป็นผู้เสนอ ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งมี กรวีร์ ปริศนานันทกุล สส. อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เป็นประธานกรรมาธิการ โดยเป็นการพิจารณาวาระที่ 2 ต่อเนื่องวาระที่ 3
อย่างไรก็ตาม ในการลงมติในมาตรา 2 ใช้เวลานานเกือบ 30 นาที เพื่อรอให้สมาชิกมาเป็นองค์ประชุม ซึ่งต้องใช้องค์ประชุมไม่น้อยกว่า 247 เสียง จน กฤดิทัช แสงธนโยธิน สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม ขอให้พักการประชุม 1 ชั่วโมง เนื่องจากยังมีการประชุมคณะกรรมาธิการหลายคณะ
ฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ประธานการประชุมในขณะนั้น จึงขอให้รอและให้ตามเพื่อนสมาชิกมา
“ผมนั่งดูอยู่ พี่น้องประชาชนดูข่าวอยู่ว่าเก้าอี้เราเยอะ หรือว่าเก้าอี้มากกว่า สส. หรือ สส.มากกว่าเก้าอี้ และการประชุมเรามีเวลา 29-30 ตุลาคม ก็ปิดสมัยประชุม ถ้าทุกพรรคการเมืองประสานว่า จะเร่งรัดออกกฎหมายที่มีความสำคัญ ต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็ไม่ขัดข้อง เพราะสภามีเวลาน้อย ก็ควรทำงานให้คุ้มกับภาษีอากรประชาชน จึงขอความร่วมมือเพื่อนสมาชิกด้วย” ฉลาดกล่าว
ทำให้กฤดิทัชลุกขึ้นกล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณากฎหมายสำคัญ ถ้าสมาชิกที่อยู่ในห้องประชุม ไม่แสดงเป็นองค์ประชุม ขอให้นับองค์ประชุม แล้วเปิดเผยรายชื่ออกมาเลยว่า มีใครบ้างที่ไม่มาประชุมในวันนี้ เพราะถ้าเป็นอย่างนี้ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไป 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ก็ไม่สามารถที่จะดำเนินการประชุมต่อไปได้ หากทุกคนไม่ให้ความร่วมมือ
เพื่อไทยพ้อเป็นผู้ร้ายตลอด
ระหว่างที่กำลังรอสมาชิกอยู่นั้น ที่ประชุมยังถกเถียงกันต่อไปเรื่ององค์ประชุม ด้าน สส. พรรคภูมิใจไทย ขอให้สมาชิกใช้ความอดทน โดยพรรคภูมิใจไทยจะอยู่เป็นองค์ประชุม ด้าน มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช สส. ลพบุรี พรรคภูมิใจไทย และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า กฎหมายนี้เสนอเข้าสภาฯ นานแล้ว แต่ไม่ได้รับการบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม วันนี้เป็นโอกาสที่ดี
มัลลิกากล่าวว่า ในความเห็นส่วนตัว จะต้องให้สมาชิกในห้องอดทนรอแค่ไหน ถ้าไม่ครบก็ประกาศมาเลยว่าไม่ครบ จะได้รู้กันไปว่าใครสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ รอไปอย่างนี้ก็เสียเวลาเปล่าๆ ทำไมต้องมาอดทนรอ ประกาศออกมาเลย ปิดประชุมก็ปิดไปเลย
ทำให้ วัชระพล ขาวขำ สส. อุดรธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า “พวกผมไม่เคยเป็นพระเอกอยู่แล้ว อย่างไรพวกผมก็เป็นผู้ร้ายมาตลอด” ไม่ว่าจะอย่างไรก็โดนว่า ยืนยันว่าองค์ประชุมเป็นของรัฐบาล พวกตนเองก็ยังปฎิบัติอย่างนี้เช่นเคย และที่ผ่านมาก็ทำงานร่วมกันราบรื่นมาตลอด วันนี้ก็ตั้งใจมาแม้จะไม่เห็นด้วย หากถามว่าจะให้พวกอยู่อย่างมีตัวตน หรือไร้ตัวตนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ยืนยันสมาชิกพรรคเพื่อไทยนั่งกันอยู่ครบ
สุดท้ายใช้เวลารอองค์ประชุมเกือบ 1 ชั่วโมง ปรากฎว่ามีผู้แสดงตนจำนวน 251 เสียง ซึ่งเกินจำนวนสมาชิกที่ต้องมีเป็นองค์ประชุมมาเพียง 4 คน ทำให้การประชุมดำเนินการต่อไปได้ โดยเห็นชอบมาตรา 2 ด้วยคะแนนเห็นด้วย 241 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง ไม่ลงคะแนน 10 เสียง
ผ่านไป 2 มาตรา หวิดล่มอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อการประชุมดำเนินต่อไปได้อีกระยะหนึ่งจนถึงมาตรา 4 เมื่อเข้าสู่ช่วงนับองค์ประชุม ไชยา พรหมมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 สับเปลี่ยนขึ้นบัลลังก์ทำหน้าที่ประธานในการประชุม ได้กดออดเรียกสมาชิกเข้ามาแสดงตนอีกครั้ง ตั้งแต่เวลา 13.28 น. แต่ระยะเวลาผ่านไปกว่า 15 นาที แม้ประธานจะกดออดอีกหลายครั้ง ก็ยังไม่ครบองค์ประชุม
จนในช่วงหนึ่ง สนอง เทพอักษรณรงค์ สส. บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นกล่าวว่า ไม่ทราบจะต้องรออีกนานเท่าไร กฎหมายนี้มีความสำคัญ อีกเพียง 2 มาตราจะจบแล้ว เชื่อว่าถ้าพวกเราในห้องประชุมช่วยกันจะผ่านไปได้แน่ ไม่ต้องเกี่ยงงอนอะไรก็ตาม
“ไหนๆ ก็มาปฏิบัติหน้าที่แล้ว เวลาดำรงตำแหน่งก็เหลือไม่นาน เดี๋ยวจะยุบสภาแล้ว ผมสงสารประเทศไทยครับ และเสียดายข้าวหลวง ขอให้ช่วยกันทำงานเถิดครับ” สนองกล่าว
ในที่สุดเมื่อเวลา 13.49 น. ไชยาได้ระบุว่า สมาชิกได้เข้ามาจนครบองค์ประชุมจำนวน 248 คน เกินจำนวนองค์ประชุมที่ต้องมีไปเพียง 1 คน จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบให้มีการแก้ไขในมาตรา 4 ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 253 เสียง ไม่เห็นชอบ 4 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง
ต่อมาที่ประชุมได้ใช้เวลาอยู่นานในการรอสมาชิกเข้ามาเป็นองค์ประชุมก่อนลงมติทุกมาตรา โดยใช้เวลาพิจารณากฎหมายฉบับนี้ทั้งสิ้นเกือบ 3 ชั่วโมงครึ่ง ถึงแม้ในบางมาตราจะไม่มีสมาชิกอภิปรายเลย จนกระทั่งที่ประชุมลงคะแนนเสียงจนครบทั้ง 6 มาตรา ในวาระ 2 และลงมติเห็นชอบทั้งฉบับ รวมถึงเห็นชอบกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ ในวาระ 3 เมื่อเวลา 14.48 น.
อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่วาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. สภภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล ฉบับที่ … พ.ศ. …. เมื่อกำลังเข้าสู่การแสดงตนเป็นองค์ประชุมเพื่อลงมติในมาตรา 1 ฉลาดได้สับเปลี่ยนขึ้นทำหน้าที่ประธานการประชุมในขณะนั้นอีกครั้ง ได้กล่าวว่า วันนี้ได้พิจารณากันมาพอสมควร ขอขอบคุณสมาชิกทุกคน และพรุ่งนี้ (23 ตุลาคม) เป็นวันปิยมหาราช ขอปิดการประชุม และได้สั่งปิดการประชุมทันทีในเวลา 15.09 น.
