ใครที่ติดตามวงการอสังหาริมทรัพย์และงานออกแบบทั่วโลกจะทราบว่า กระแส ‘บ้านคนโสด’ กำลังเป็นที่น่าจับตามองและก่อตัวมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจเป็นอีกหนึ่งกระแสหลักได้ในอนาคต เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของคนในสมัยปัจจุบันที่นิยมครองตัวเป็นโสดมากขึ้น ทำให้หลายแบรนด์เริ่มหันมาหยิบจับ ออกแบบ และผลิตบ้านออกสู่ท้องตลาดเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มนี้

     บ้านคนโสดในที่นี้หมายถึงบ้านแนวราบเป็นหลังๆ ไม่ใช่ห้องโล่งกว้างในอาคารชุดขนาดไม่กี่ตารางเมตร ซึ่งถ้าหันกลับมามองบ้านเรา การออกแบบบ้านแนวราบเพื่อคนโสดยังเป็นแนวคิดที่ค่อนข้างใหม่ แถมผู้ประกอบส่วนใหญ่ยังปักใจเชื่อกันแบบเดิมๆ ว่า ‘กลุ่มคนโสด’ เหมาะสมกับ ‘บ้านในอาคารชุด’ มากกว่าแนวราบติดพื้นดิน

 

 

นิยาม ‘บ้านคนโสด’

     ‘บ้านคนโสด’ คือบ้านที่สร้างขึ้นมาเพื่อคนโสดตามชื่อนั่นแหละ หากแต่คำว่าโสดที่ว่านี้ไม่ได้หมายความถึงชายหนุ่มหรือหญิงสาวผู้มีสถานะโสด อาศัยอยู่ในบ้านโดดๆ เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่คำว่า ‘โสด’ ในที่นี้หมายถึง ‘การอยู่อาศัยแบบไลฟ์สไตล์คนโสด’ ซึ่งรวมไปถึงคนมีคู่ (ชาย-หญิง, หญิง-หญิง, ชาย-ชาย) พ่อกับลูก หรือแม่กับลูกด้วยก็ได้

     ในเมื่อคำว่า ‘โสด’ ครอบคลุมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างบุพการีกับบุตร แล้วคำนี้ต่างจาก ‘ครอบครัว’ อย่างไร

     หากลงรายละเอียดของผู้อาศัยแบบครอบครัว (Family) องค์ประกอบหลักที่ควรคำนึงถึงพ่อ แม่ ลูก ซึ่งเป็นเด็กเล็ก ไม่ใช่บุคคลวัยทำงานที่หาเลี้ยงชีพชอบ

     ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในบ้านที่มีเด็กเล็กร่วมด้วย กับบ้านที่มีแต่ผู้ใหญ่ย่อมมีความต้องการแตกต่างกัน นั่นคือที่มาของการออกแบบบ้านเพื่อ ‘กลุ่มคนโสด’ ที่มีทั้งกำลังซื้อ และมีแนวโน้มว่าจะมากขึ้นอีกอย่างไร้เพดาน

 

 

ความต้องการของคนโสด

     คุณรู้ไหมว่า 60 เปอร์เซ็นต์ คนของคนทำงานในกรุงเทพฯ อยู่ในสถานภาพ ‘โสด’ นั่นอนุมานได้ว่า คนที่มีกำลังซื้อมากกว่าครึ่งมีสถานภาพไร้คู่ นั่นยังไม่รวมกับคนมีคู่ แต่ไม่มีครอบครัวอีก

     ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ไม่ต้องอิงถึงเด็กเล็ก อยากทำอะไรก็ทำ กินเที่ยวเล่นได้ตามใจอยาก ยิ่งบวกกำลังซื้อและรสนิยม เวลาอยากซื้อบ้านสักหลังเป็นของตน ก็ใช่ว่าทุกคนจะอยากได้ห้องชุดในอาคารสูงที่ไม่มีแม้กระทั่งกรรมสิทธิ์ในที่ดิน

     ฉะนั้นเมื่อต้องตัดสินใจเป็นหนี้ โยนเงินหลักล้านเพื่อบ้านหนึ่งหลัง เหล่าคนโสดบางกลุ่มจึงมองหาบ้านที่ตอบโจทย์มากที่สุด ซึ่งจากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคตามหลัก Human Centric ของ SC Asset ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยพบว่า คนกลุ่มนี้ต้องการบ้านขนาดใหญ่เท่าเดิม แต่อยากได้พื้นที่มากขึ้น และรับได้ถ้าจำนวนห้องนอนน้อยลง นั่นเพราะว่า

 

1. อยากได้ห้องนอนกว้างขวาง

      แม้อาศัยอยู่คนเดียว แต่ข้าวของมีเยอะแยะ ใครๆ ก็อยากได้ที่เก็บของเป็นสัดส่วน ในเมื่อเลือกได้ ก็อยากได้ห้องนอนโล่งกว้าง สบายตา มีฟังก์ชันเฟอร์นิเจอร์พร้อมใช้ที่ช่วยจัดเก็บเสื้อผ้า เครื่องประทินผิว และของใช้ส่วนตัวให้เป็นระเบียบ มีมุมเล็กๆ เป็นพื้นที่ส่วนตัวไว้เอกเขนก ไม่ต้องแชร์กับคนอื่นหรือเพื่อนร่วมบ้าน

 

 

2. มุมสำหรับงานอดิเรก

    ในเมื่อไม่ต้องคำนึงถึงจำนวนห้องนอนให้เพียงพอกับสมาชิกในครอบครัว คนโสดเหล่านี้ก็อยากได้จัดสรรพื้นที่บางส่วนให้เป็นมุมส่วนตัวสำหรับงานอดิเรก อาจเป็นห้องว่างๆ หนึ่งห้องเพื่อทำสิ่งที่รัก และใช้เวลาได้เต็มที่แบบไม่ต้องกลัวหรือระวัง ใครมาซุกซน เช่น ห้องวาดภาพ ห้องซ้อมดนตรี ห้องดูหนังขนาดใหญ่ ห้องเก็บของเล่น เป็นต้น

 

3. สวนสีเขียวเพื่อความสบายใจ

    ไม่มีใครปฏิเสธหรอกว่าไม่ชอบเห็น ‘สีเขียว’ ของต้นไม้ หรือสูดกลิ่นดินกลิ่นหญ้ามากกว่าวิวบนยอดตึก ถ้าไม่ได้สวยชนิดลืมหายใจจริงๆ (แต่ถึงกระนั้นเราก็ยังต้องการมัน เชื่อเถอะ!) หลายคนมักคิดว่าพื้นที่สีเขียวในบริเวณบ้านเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย เมื่อต้องอาศัยอยู่คนเดียว หรืออยู่กับคนอื่นที่สมาชิกในบ้านมีเพียง 2-3 ชีวิต แต่ถ้าเลือกได้ กลุ่มคนโสดก็อยากมีอารมณ์นั่งเล่นใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ ปิกนิกกลางสวน หรือแก้เบื่อด้วยการปลูกดอกไม้บ้างเช่นกัน

 

 

4. ลานโล่งเพื่อทำกิจกรรม

    มีพื้นที่โล่งกว้างไม่ดีตรงไหน กลุ่มคนโสดอยากได้ลานโล่งกว้างเพื่อทำกิจกรรมในวันหยุด ชวนเพื่อนมาจัดปาร์ตี้ปิ้งย่าง แปลงเป็นลานกีฬายามหยุดพักผ่อน หรือทำกิจกรรมอื่นๆ แล้วแต่พอใจ

 

5. ต้องสวยทั้งรูป จูบแล้วหอม

     เหนือสิ่งอื่นใด มีพื้นที่ดี พร้อมด้วยฟังก์ชัน แต่บ้านไม่สวยก็คงไม่ตอบโจทย์ คนกลุ่มนี้เป็นวัยมีกำลังซื้อและมาพร้อมรสนิยม หากจำนวนห้องลดลง แต่บ้านดีไซน์ดี ยอมรับได้ ความโก้เก๋ของบ้านย่อมเป็นหน้าตาทางสังคม และสร้างความบันเทิงทางจิตใจได้แม้เพียงเห็น ฉะนั้นข้อนี้จึงสำคัญไม่แพ้เหตุผลใด

     จากทั้งหมดดังกล่าวเราจะเห็นได้ว่า จริงๆ แล้วกลุ่มคนโสดมีความต้องการคล้ายกลุ่มผู้อาศัยแบบครอบครัว ทว่าคำนึงถึงดีไซน์และการจัดสรรพื้นที่เป็นหลัก ตามมาด้วยความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน โดยไม่จำเป็นต้องใส่ใจเท่าเด็กเล็ก หรือติดอุปกรณ์เสริมเพื่อผู้สูงวัย อันทำให้การจัดการพื้นที่ภายในบ้านของคนที่มีไลฟ์สไตล์โสดนั้นแตกต่างจากคนที่อยู่รวมกันเป็นครอบครัว

     และถ้าหากว่าเป็นไปดังคำคาดการณ์ที่ว่าจำนวนของคนโสดนั้นมีแต่จะเพิ่มจำนวนมากขึ้น บ้านที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนโสดดังกล่าวย่อมที่จะเป็นที่ต้องการเพิ่มมากขึ้นในอนาคต