ลิเวอร์พูลก้าวเข้าใกล้แชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษเข้าไปอีกขั้นในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019-20 หลังจากที่เปิดบ้านถล่ม คริสตัล พาเลซ ไป 4-0 ส่งผลให้พวกเขาห่างจากแชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกในรอบ 30 ปีอีกเพียงแค่ 2 คะแนนเท่านั้น
โดยเกมที่สนามแอนฟิลด์แข่งกันแบบปิดไม่ให้แฟนกีฬาเข้าชมเมื่อคืนวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ลิเวอร์พูลได้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กลับมาลงสนามเป็นตัวจริง ร่วมกับ โรแบร์โต เฟอร์มิโน และ ซาดิโอ มาเน
เริ่มเกม เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 23 จากฟรีคิกของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก่อนที่ ฟาบินโญ จะโยนบอลข้ามแนวรับมาให้ซาลาห์พักอกยิงประตูพาทีมนำห่างเป็น 2-0 ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก
ครึ่งหลังในนาทีที่ 55 ฟาบินโญตัดสินใจยิงไกลจาก 30 หลา บอลพุ่งตรงเข้าเสียบมุม พาทีมนำห่างไปเป็น 3-0 ก่อนที่มาเนจะยิงประตูสุดท้ายในนาทีที่ 69 พาทีมนำห่างไป 4-0 ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลา เป็นลิเวอร์พูลที่เอาชนะไปได้ 4-0 เก็บเพิ่มเป็น 86 คะแนน ทิ้งห่างรองจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็น 23 คะแนน และขออีกแค่ 2 คะแนน ก็จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ แต่หาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ชนะ เชลซี ในเกมที่จะลงแข่งขันในวันนี้ (เวลา 02.15 น. ของวันที่ศุกร์ ตามเวลาประเทศไทย) ลิเวอร์พูลจะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้สำเร็จเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1990 ทันที แม้จะเหลือโปรแกรมแข่งอีก 7 นัดก็ตาม
หลังจบเกม เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูลยืนยันว่า ทีมเร่งเครื่องเดินหน้าอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องการรอคอยการฉลองแชมป์อีกต่อไปแล้ว
“ลองจิตนาการดูว่าบรรยากาศในสนามวันนี้จะเป็นอย่างไร ถ้าเรามีแฟนบอลเข้าชมเต็มความจุ และทุกคนจะได้สัมผัสบรรยากาศสดๆ ร่วมกัน
“ผมไม่คิดว่าเกมนี้จะสามารถเป็นไปในทิศทางที่ดีกว่านี้ เพราะนักเตะเล่นเหมือนกับว่ามีแฟนบอลทุกคนในสนาม บรรยากาศในสนามยอดเยี่ยมมาก นั่นคือเกมเคาน์เตอร์เพรสซิ่งที่ดีที่สุดเกมหนึ่งที่ผมเคยเห็น
“นักเตะอยู่ในสภาพที่ดีและอารมณ์ดี และเป็นสิ่งสำคัญที่เราได้แสดงให้แฟนบอลเห็นว่าเรายังอยู่ในเส้นทาง และเราไม่อยากที่จะรออีกต่อไปแล้ว”
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: