พรีวิว: ลิเวอร์พูล vs. แมนยู งานใหญ่ ‘อโมริม’ ยกทีมดวลหงส์แดงของ ‘อาร์เน’

ในวันที่ 5 มกราคมนี้ จะถึงคิวการดวลกันในเกมฟุตบอล ‘ศึกแดงเดือด’ ระหว่างทัพ ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล พบกับ ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามแอนฟิลด์ โดยจะแข่งขันกันในเวลา 23.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง True Premier Football 1 และ 2

และเช่นเคย THE STANDARD SPORT รวบรวมข้อมูลสำคัญๆ เพื่อพาแฟนบอลไปอุ่นเครื่อง ส่องความพร้อมของนักเตะทั้งฝั่งแมนฯ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล รวมถึงสถิติต่างๆ ที่น่าสนใจมาฝากก่อนเกมนัดนี้ ศึกแดงเดือดครั้งที่ 2 ของฤดูกาล กับ 3 คะแนนสุดล้ำค่าที่สำคัญต่อทั้งสองทีม (โดยเฉพาะกับอโมริมและแมนฯ ยูไนเต็ด)

ความพร้อมของ ลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูลยุค อาร์เน สลอต ยังคงร้อนแรงแบบไม่หยุดหย่อนในฤดูกาลนี้ เพราะยังไม่แพ้ทีมใดเลยตลอด 10 เกมหลังสุด และในห้วง 5 นัดที่ผ่านมา ทัพหงส์แดงกระหน่ำสกอร์ใส่คู่แข่งไปมากถึง 18 ประตู นำจ่าฝูงแบบเดี่ยวๆ ชนิดที่หลายคนยกให้เป็นเต็งแชมป์ลีก แม้จะผ่านมาได้ครึ่งฤดูกาลเท่านั้น

ทัพหงส์แดงชุดนี้คือมรดกจากยุค เจอร์เกน คล็อปป์ พวกเขายังคงเป็นทีมที่สร้างสรรค์เกมรุกได้หลากหลาย ผู้เล่นทุกคนพร้อมวิ่งสู้ฟัด ไล่เพรส (กดดัน) คู่แข่งอยู่เสมอ และในแผงกองกลางถึงเกมรุกทุกตำแหน่งพร้อมจบสกอร์ให้ทีมได้เมื่อมีโอกาส

ส่วนสภาพความพร้อมและปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ ยังคงเป็นนักเตะชุดเดิมที่มีอาการบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว อย่างเช่น โจ โกเมซ, คอเนอร์ แบรดลีย์ และ อิบราฮิมา โกนาเต จะหมดสิทธิ์ลงสนามแน่นอน ส่วนกำลังคนอื่นพร้อมบู๊ศึกแดงเดือดทุกคน

คาดการณ์ 11 ตัวจริง

อลิสสัน เบ็คเกอร์ (ผู้รักษาประตู), เรลล์ ควานซาห์, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ไรอัน กราเวนเบิร์ช, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โดมินิก โซโบสไล, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี กักโป และ หลุยส์ ดิอาซ

ผลงาน 5 นัดหลังสุด | ชนะ 4 เสมอ 1

ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 5-0 (Premier League)
ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-1 (Premier League)
ชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 6-3 (Premier League)
ชนะ เซาแธมป์ตัน 2-1 (Carabao Cup)
เสมอ ฟูแลม 2-2 (Premier League)

ความพร้อมของ แมนยู

แม้จะเข้าสู่ยุคการคุมทีมของ รูเบน อโมริม แต่ผลงานในภาพรวมของทัพ ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงย่ำแย่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงหลังที่แพ้ไปแล้ว 4 จาก 5 นัด และยิงคู่แข่งไม่ได้มา 3 นัดติดต่อกัน ทำให้อันดับรูดไปอยู่ที่ 14 ห่างจากโซนตกชั้นเพียง 7 คะแนนเท่านั้น

ระบบ 3-4-2-1 ยังคงเป็นที่ตั้งคำถามจนถึงตอนนี้ว่าเหมาะสมกับแมนฯ ยูไนเต็ด ในเวลานี้หรือไม่ ซึ่งทางฝั่งของอโมริมก็ยังไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนไปใช้ระบบอื่นกับทีม ส่วนฟอร์มของทีมนอกจากแผงหลังที่ยังไม่ลงตัวแล้ว ในส่วนของเกมรุกก็ยังประสบปัญหาการขาดไอเดียและวิธีการเล่นเข้าทำใส่คู่แข่ง ซึ่งต้องลุ้นต่อไปว่าอโมริมและทีมงานจะปรับจูนลูกทีมให้สร้างสรรค์เกมรุกเพื่อต่อกรกับกองหลังของลิเวอร์พูลได้หรือไม่

ส่วนความพร้อมก่อนเกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะหมดโอกาสใช้งาน เมสัน เมาท์, ลุค ชอว์ และ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่มีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ผู้เล่นในตำแหน่งสำคัญคนอื่นๆ พร้อมลงสนามทุกคน

คาดการณ์ 11 ตัวจริง

อังเดร โอนานา (ผู้รักษาประตู), เลนี โยโร, มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, นูสแซร์ มาซราอุย, ดิโอโก ดาโลต์, ค็อบบี ไมนู, มานูเอล อูการ์เต, อาหมัด ดิยัลโล, บรูโน แฟร์นันด์ส และ ราสมุส ฮอยลุนด์

ผลงาน 5 นัดหลังสุด | ชนะ 1 แพ้ 4

แพ้ นิวคาสเซิล 0-2 (Premier League)
แพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 0-2 (Premier League)
แพ้ บอร์นมัธ 0-3 (Premier League)
แพ้ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 3-4 (Carabao Cup)
ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 (Premier League)

ผลการดวลกัน 5 นัดหลังสุด

ผลการดวลกัน 5 นัดหลังรวมเกมอุ่นเครื่องที่พบกัน เป็นฝั่งลิเวอร์พูลที่มีสถิติเหนือกว่าชัดเจน หลังสามารถชนะได้ 2 นัดทั้งในเกมอุ่นเครื่องและเกมลีกช่วงต้นฤดูกาล ซึ่งเกิดขึ้นในยุคของโค้ช อาร์เน สลอต

โดยนัดล่าสุดที่แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะลิเวอร์พูล เกิดขึ้นในฤดูกาลที่แล้ว กับเกมเอฟเอคัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่ทัพปีศาจแดงชนะไปด้วยสกอร์ 4-3

และนี่คือผลการแข่งขันที่ดวลกัน 5 นัดหลังสุด