วันนี้ (1 ธันวาคม) ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2024/25 มีเกมบิ๊กแมตช์ระหว่างทัพ ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล พบกับ ‘เรือใบสีฟ้า’ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามแอนฟิลด์ ในเวลา 23.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง True Premier Football HD 1 และ 2
และเช่นเคย THE STANDARD SPORT รวบรวมข้อมูลสำคัญๆ เพื่อพาแฟนบอลไปอุ่นเครื่องและส่องความพร้อมของนักเตะทั้งฝั่งลิเวอร์พูลและแมนฯ ซิตี้ รวมถึงสถิติต่างๆ ที่น่าสนใจมาฝากก่อนเกมสำคัญของทั้งสองทีม ซึ่งเราจะได้เห็นการวัดกึ๋นกันของ อาร์เน สลอต และ เป๊ป กวาร์ดิโอลา
ความพร้อมของลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูลในยุค อาร์เน สลอต ยังคงสานต่อฟอร์มอันร้อนแรงได้ตลอดในช่วงต้นฤดูกาล แม้มีสะดุดแพ้น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 0-1 แค่เกมเดียวในฤดูกาลนี้ แต่ภาพรวมผลงานในลีกจัดว่ายอดเยี่ยมกว่าทีมไหนๆ โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่เปิดบ้านทุบเรอัล มาดริด ได้ 2-0
ลิเวอร์พูลเซ็ตนี้แทบไม่ได้เปลี่ยนไลน์อัพผู้เล่นจากฤดูกาลก่อน แต่ผลงานในแผงกองกลางและเกมรุกยังคงรักษามาตรฐานได้อย่างดี ส่วนสภาพความพร้อมก่อนเกมนี้พวกเขาจะขาด คอเนอร์ แบรดลีย์, อลิสสัน เบ็คเกอร์, คอสตาส ซิมิคาส, ดีโอโก โชตา และ เฟเดริโก เคียซา ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ ส่วนผู้เล่นที่เหลือเชื่อว่าอาร์เนจะยังยึดผู้เล่นตัวเก่งลงสนามกันแบบครบทีม
คาดการณ์ 11 ตัวจริง
ควีวิน เคลเลเฮอร์ (ผู้รักษาประตู), เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เคอร์ติส โจนส์, ไรอัน กราเวนเบิร์ช, โดมินิก โซโบสไล, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, หลุยส์ ดิอาซ และ ดาร์วิน นูนเญซ
ผลงาน 5 นัดหลังสุด | ชนะ 5 นัดรวด
- ชนะ เรอัล มาดริด 2-0 (UEFA Champions League)
- ชนะ เซาแธมป์ตัน 3-2 (Premier League)
- ชนะ แอสตัน วิลลา 2-0 (Premier League)
- ชนะ เลเวอร์คูเซน 4-0 (UEFA Champions League)
- ชนะ ไบรท์ตัน 2-1 (Premier League)
ความพร้อมของแมนเชสเตอร์ ซิตี้
ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เวลานี้กำลังเผชิญกับวิฤตเรื่องของผลงานในสนามอย่างหนัก เนื่องจากพวกเขาไม่ชนะใครมาเป็นเวลา 6 นัดติดต่อกัน รวมถึงเกมลีกที่แพ้ 3 นัดติดเช่นกัน
โดยนัดนี้แนวรุกของแมนฯ ซิตี้ จะได้ดวลกับแนวรับของลิเวอร์พูลที่ทำงานได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงหลัง ซึ่งต้องรอดูกันว่าหลังจากจบเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกที่พวกเขาเสมอเฟเยนูร์ด 3-3 ทีมของเป๊ปมีการพูดคุยหรือปรับแผนสำคัญเกมบิ๊กแมตช์อย่างไรบ้าง
ส่วนสภาพความพร้อมก่อนเกมนี้พวกเขาจะขาด ออสการ์ บ็อบบ์, โรดรี และ มาเตโอ โควาซิช ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ ขณะที่ผู้เล่นที่เหลือเชื่อว่าเป๊ปจะยังยึดผู้เล่นตัวเก่งลงสนามกันแบบครบทีม
คาดการณ์ 11 ตัวจริง
เอแดร์ซอน (ผู้รักษาประตู), ไคล์ วอล์กเกอร์, นาธาน อาเก, รูเบน ดิอาส, ยอสโก กวาร์ดิโอล, มานูเอล อาคานจี, อิลคาย กุนโดกัน, ฟิล โฟเดน, แบร์นาโด ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์ และ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์
ผลงาน 5 นัดหลังสุด | เสมอ 1 แพ้ 4
- เสมอเฟเยนูร์ด 3-3 (UEFA Champions League)
- แพ้ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-4 (Premier League)
- แพ้ ไบรท์ตัน 1-2 (Premier League)
- แพ้ สปอร์ติง ลิสบอน 1-4 (UEFA Champions League)
- แพ้ บอร์นมัธ 1-2 (Premier League)
ผลการดวลกัน 5 นัดหลังสุด
ผลการดวลกัน 5 นัดหลังที่พบกัน ทั้งสองทีมมีสถิติที่ค่อนข้างสูสีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะฤดูกาลล่าสุดทั้งคู่ต่างเสมอกัน 1-1 ทั้งสองเกม โดยครั้งล่าสุดที่แมนฯ ซิตี้ ชนะได้คือการเล่นเกมลีกในบ้างฤดูกาล 2022/23 ที่ชนะไป 4-1 ส่วนลิเวอร์พูลในยุค เจอร์เกน คล็อป ก็สามารถชนะแมนฯ ซิตี้ 1-0 ได้ในฤดูกาลเดียวกัน
และนี่คือผลการแข่งขันที่ดวลกัน 5 นัดหลังสุด
- ลิเวอร์พูล 1-1 แมนฯ ซิตี้ (Premier League 2023/24)
- แมนฯ ซิตี้ 1-1 ลิเวอร์พูล (Premier League 2023/24)
- แมนฯ ซิตี้ 4-1 ลิเวอร์พูล (Premier League 2022/23)
- แมนฯ ซิตี้ 3-0 ลิเวอร์พูล (EFL Cup 2022/23)
- ลิเวอร์พูล 1-0 แมนฯ ซิตี้ (Premier League 2022/23)