เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ออกมายอมรับว่าลูกทีมขาดความแม่นยำในช่วงพื้นที่สุดท้ายหน้าประตูคู่แข่ง ทำให้ผลออกมาเสมอกับบาเยิร์น มิวนิก 0-0 ในเลกแรก ของรอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
โดยเกมที่แอนด์ฟิลด์เมื่อคืนวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ทั้งโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ และซาดิโอ มาเน สองปีกตัวรุกของลิเวอร์พูลต่างก็สร้างโอกาสยิงประตูได้หลายครั้ง แต่สุดท้ายเกมรับของบาเยิร์น มิวนิก ก็แข็งแกร่งเกินกว่าที่จะเกิดประตูขึ้นในเกมนี้ได้
ทำให้พวกเขาต้องไปตัดสินชะตากันในเลกที่ 2 ที่ลิเวอร์พูลจะบุกไปเยือนถิ่นอลิอันซ์ อารีนา ของบาเยิร์น มิวนิก ในวันที่ 13 มีนาคม ซึ่งหากลิเวอร์พูลสามารถยันเสมอแบบไร้สกอร์ได้ พวกเขาจะผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยกฎอเวย์โกล
“ปัญหาใหญ่ที่สุดของเราคือการผ่านบอลในพื้นที่สุดท้ายทั้งหมด 10-12 สถานการณ์ที่เรามีโอกาส” กุนซือลิเวอร์พูลกล่าวถึงความเสียดายหลังเกม
“เราทำให้ชีวิตยากลำบากเองด้วยการพลาดโอกาสในพื้นที่สุดท้าย เราควรจะเล่นดีกว่านี้
“แม้ว่านี่จะไม่ใช่ผลการแข่งขันในฝันของเรา แต่ก็ยังเป็นผลการแข่งขันที่ดี บาเยิร์น มิวนิก คือทีมที่แข็งแกร่ง และแม้ว่าฟอร์มการเล่นของเราจะไม่ดี สกอร์ 0-0 นับเป็นผลการแข่งขันที่ดีที่สุดในบ้านที่คุณจะสามารถทำได้ในเวลานี้”
สำหรับสถิติหลังเกม ลิเวอร์พูลนับว่าเป็นรองสำหรับเจ้าบ้านที่ยันเสมอแบบ 0-0 ได้ในเลกแรก เนื่องจากในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกที่ผ่านมา 31 ทีมยันเสมอ 0-0 ได้ในเลกแรก และมีเพียง 10 ทีมที่สามารถผ่านเข้ารอบต่อไปได้
รวมถึงบาเยิร์น มิวนิก ที่แพ้เพียงแค่ 2 เกมจาก 26 เกมล่าสุดของการลงแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในบ้าน ส่วนผลการแข่งขันนอกบ้าน 3 นัดหลังสุดของลิเวอร์พูล พวกเขาพ่ายให้กับนาโปลี เรดสตาร์ เบลเกรด และปารีส แซงต์ แชร์กแมง
โดยต่อจากนี้คลอปป์เผยว่าลิเวอร์พูลต้องกลับมาเตรียมพร้อมรับศึกหนักในพรีเมียร์ลีกกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมแดงเดือดค่ำคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้
“ตอนนี้เรามีเวลาอีก 3 สัปดาห์ในการเตรียมพร้อมสำหรับเลกที่ 2 และผมคิดว่าต่อจากนี้เราจะมองกลับมาเห็นว่าผลของเกมนี้ดีสำหรับเรามากขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือเราต้องกลับมาโฟกัสที่พรีเมียร์ลีก เพราะเราจะพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และพวกเขากำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีมาก”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
