วันนี้ (21 มกราคม) การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2022/23 ระหว่าง ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล (ทีมอันดับ 9) พบกับ ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ เชลซี (ทีมอันดับ 10) ที่สนามแอนฟิลด์
โดยนัดนี้ลิเวอร์พูลยังยึดระบบ 4-3-3 ส่วนตัว 11 ผู้เล่น ประกอบด้วย อลิสสัน เบ็คเกอร์ (GK), เจมส์ มิลเนอร์, อิบราฮิมา โกนาเต, โจ โกเมซ, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, สเตฟาน บายเซติช, ติอาโก อัลคันทารา, นาบี เกอิตา, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โคดี กักโป
ด้านเชลซีผู้มาเยือนมาในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย เกปา อาร์ริซาบาลากา (GK), เทรโวห์ ชาโลบาห์, ติอาโก ซิลวา, เบอนัวต์ บาดิยาชิล, ลูอิส ฮอลล์, จอร์จินโญ, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, มาร์ค กูกูเรยา, ฮาคิม ซิเยค, ไค ฮาเวิร์ตซ์ และ เมสัน เมาท์
เกมเริ่มมาได้ 2 นาที เชลซีเกือบได้เฮ หลังจากฮาเวิร์ตซ์ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายแล้ว แต่ผู้ตัดสินเช็ก VAR ก่อนชี้ให้ลูกดังกล่าวเป็นการเล่นในจังหวะล้ำหน้า ทำให้สกอร์ยังเสมอกันอยู่
นาทีที่ 5 ถึงคิวของลิเวอร์พูลได้บุกบ้างและเกือบใส่สกอร์ได้ แต่ลูกยิงของกักโปเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 38 ติอาโก อัลคันทารา ได้ออกจากโอกาสยิง แต่บอลไปติดบล็อกของบาดิยาชิล ก่อนไปเข้ามือของเกปา
นาทีที่ 44 ซาลาห์ได้ลองปั่นบอลจากบริเวณกรอบเขตโทษฝั่งขวา แต่บอลน้ำหนักยังแรงเกินไป และจบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0
เริ่มครึ่งหลังมาเป็นลิเวอร์พูลที่โหมบุกอย่างหนัก และมีโอกาสจากลูกยิงของเกอิตาในนาทีที่ 49 แต่ซิลวายังสกัดบอลไว้ได้
นาทีที่ 64 มิไคโล มูดริก ที่ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง รับบอลจากกัลลาเกอร์ ก่อนจะพาบอลเข้าพื้นที่สุดท้าย แต่ยิงไปหลุดเสาแรกออกไปเอง
นาทีที่ 68 เจ้าบ้านกลับมาเดินเกมรุกบ้าง คราวนี้เป็น ดาร์วิน นูนเญซ ไหลบอลให้กักโปได้ยิง แต่เกปายังล้มตัวเซฟไว้ได้
นาทีที่ 74 เชลซีได้สวนขึ้นมาบ้าง คราวนี้ซิเยคได้ลองซัดด้วยขวา แต่แนวรับลิเวอร์พูลยังบล็อกไว้ได้
หลังจากนั้นทั้งสองทีมผลัดกันเดินเกมบุกหวังทำประตูใส่กัน แต่ก็ไม่มีสกอร์เกิดขึ้น จบเกมลิเวอร์พูลเสมอกับเชลซี 0-0 แบ่งไปทีมละแต้ม
สำหรับเกมต่อไป ลิเวอร์พูลจะบุกไปเยือนไบรท์ตันในศึกเอฟเอคัพ รอบ 4 วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคมนี้ เวลา 20.30 น. ส่วนเชลซีจะกลับไปเปิดสแตมฟอร์ดบริดจ์รอต้อนรับฟูแลมในเกมพรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ เวลา 03.00 น.