วันนี้ (21 มกราคม) การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 ระหว่าง ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล พบกับ ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ เชลซี ที่สนามแอนฟิลด์ แข่งขันในเวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง True Premier Football 1
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23
วันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2023 เวลา 19.30 น.
ลิเวอร์พูล vs. เชลซี
สนาม: แอนฟิลด์
ลิเวอร์พูล
หลังจากอยู่ในฟอร์มที่โซซัดโซเซมาหลายนัด จนมาปลดล็อกได้ในเกมเอฟเอคัพ รอบ 3 กับวูล์ฟแฮมป์ตัน ที่ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายบุกไปเฉือนชนะมาได้ 1-0 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
มานัดนี้สภาพความพร้อมของลิเวอร์พูลยังคงประสบปัญหาผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บหลายตำแหน่ง ตั้งแต่ หลุยส์ ดิอาซ, ดีโอโก โชตา, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, อาร์ตูร์, โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน, คอสตาส ซิมิคาส และ ดาร์วิน นูนเญซ ที่ยังคงต้องรอลุ้นเช็กอาการจนวันลงสนาม ส่วนผู้เล่นคนอื่นพร้อมออกสตาร์ทช่วยทีมทุกคน
ตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมา ปัญหาต่างๆ ได้ถาโถมจนทำให้ลูกทีม เจอร์เกน คล็อปป์ ไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งได้เทียบเท่าฤดูกาลที่แล้ว และมีสถานการณ์บนตารางคะแนนที่ไม่สู้ดี ปัจจุบันเกาะอยู่ในอันดับที่ 9 ของตารางพรีเมียร์ลีก
ดังนั้นนัดนี้พวกเขาที่ได้เล่นในสนามเก่งอย่างแอนฟิลด์ มีโอกาสที่ดีในการกลับมาทำผลงานให้ดี เพื่อเก็บ 3 แต้มสำคัญต่อหน้าแฟนบอลของตัวเอง และเป็นการฉลองการคุมทีมนัดที่ 1,000 ให้กับ เจอร์เกน คล็อปป์ หากพวกเขาปิดจ๊อบเกมนี้ได้สำเร็จ
โดย 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะถูกส่งลงสนามในเกมนี้ ประกอบไปด้วย อลิสสัน เบ็คเกอร์ รับหน้าที่เป็นผู้รักษาประตู คู่เซ็นเตอร์ 2 คน เป็น อิบราฮิมา โกนาเต และ โจ โกเมซ ขนาบข้างด้วย 2 ฟูลแบ็กอย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
แดนกลาง 3 คน มี ติอาโก อัลกันตารา, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ฟาบินโญ ส่วนแนวรุก 3 คน เป็น โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และหน้าเป้ามีโอกาสเป็น โคดี กักโป
เชลซี
แม้ผลงานในสนามจะไม่ครึกครื้นเท่ากับตลาดซื้อขายนักเตะ แต่อย่างน้อยในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุด พวกเขาก็สามารถเก็บ 3 แต้มเหนือคริสตัล พาเลซมาได้หวุดหวิด ทำให้สถานการณ์ของ เกรแฮม พอตเตอร์ ยังพอยิ้มออกได้บ้างในตอนนี้
ภาพรวมฟอร์มของเชลซีนาทีนี้ นอกจากปัญหาแข้งตัวหลักบาดเจ็บมากถึง 9 ราย พวกเขายังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้เท่าความคาดหวังของแฟนบอล แม้จะเปลี่ยนมือผู้จัดการทีมจาก โธมัส ทูเคิล มาเป็น เกรแฮม พอตเตอร์ แต่ในหลายนัดที่ผ่านมา ทัพสิงโตน้ำเงินครามยังมีสไตล์การเล่นที่ขาดๆ เกินๆ และไม่สม่ำเสมอ จนหลายครั้งถูกคู่แข่งลงโทษและชิงแต้มจากพวกเขาไปอย่างง่ายดาย
แต่อย่างไรก็ดี แม้นัดนี้สิงห์ไฮโซจะเป็นฝ่ายบุกไปเยือนลิเวอร์พูล แต่การที่ได้เวลาพักมา 1 สัปดาห์เต็มๆ น่าจะทำให้เชลซีของพอตเตอร์ได้มีเวลาพักฟื้นร่างกายที่มากขึ้น (ต่างจากลิเวอร์พูลที่เพิ่งผ่านเกมกลางสัปดาห์) รวมถึงการทำแผนเพื่อลงเล่นในเกมบิ๊กแมตช์นี้โดยเฉพาะ
โดย 11 ผู้เล่นที่คาดว่าพอตเตอร์จะเลือกลงสนาม ประกอบด้วย เกปา อาร์ริซาบาลากา ลงเฝ้าเสาต่อไป ขณะที่ 2 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เป็นการทำงานกันของ ติอาโก ซิลวา และ เบอนัวต์ บาเดียชิล โดยมีฟูลแบ็กเป็น มาร์ก กูกูเรยา และ เทรโวห์ ชาโลบาห์ ถูกดันมาเป็นแบ็กขวาเฉพาะกิจ
แดนกลาง 3 ประสาน เป็น มาเตโอ โควาซิช, จอร์จินโญ และ เมสัน เมาท์ ส่วน 3 แนวรุกมีโอกาสที่จะได้เห็นปีกซ้ายค่าตัว 100 ล้านยูโรอย่าง มิไคโล มูดริก, ฮาคิม ซิเยค และ ไค ฮาเวิร์ตซ์ ยืนเป็น False 9 เหมือนนัดที่แล้ว
ฟอร์มการเล่น 5 นัดหลังสุด
ลิเวอร์พูล
18 ม.ค. 2023 – ลิเวอร์พูล ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 (เยือน) นัดรีเพลย์ รอบ 3 เอฟเอคัพ
14 ม.ค. 2023 – ลิเวอร์พูล แพ้ ไบรท์ตัน 0-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
8 ม.ค. 2023 – ลิเวอร์พูล เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-2 (เหย้า) รอบ 3 เอฟเอคัพ
3 ม.ค. 2023 – ลิเวอร์พูล แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 1-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
31 ธ.ค. 2022 – ลิเวอร์พูล ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
เชลซี
15 ม.ค. 2023 – เชลซี ชนะ คริสตัล พาเลซ (เหย้า) 1-0 พรีเมียร์ลีก
13 ม.ค. 2023 – เชลซี แพ้ ฟูแลม 1-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
8 ม.ค. 2023 – เชลซี แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-4 (เยือน) รอบ 3 เอฟเอคัพ
6 ม.ค. 2023 – เชลซี แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
1 ม.ค. 2023 – เชลซี เสมอ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
ผลการดวลกัน 5 นัดหลังสุด
14 มี.ค. 2022 – เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 0-0 (จุดโทษ 5-6) นัดชิงฯ เอฟเอคัพ
27 ก.พ. 2022 – เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 0-0 (จุดโทษ 10-11) นัดชิงฯ คาราบาวคัพ
2 ม.ค. 2022 – เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 พรีเมียร์ลีก
28 ส.ค. 2021 – ลิเวอร์พูล เสมอ เชลซี 1-1 พรีเมียร์ลีก
4 มี.ค. 2021 – ลิเวอร์พูล แพ้ เชลซี 0-1 พรีเมียร์ลีก