×

ครบ 36 คน เปิดรายชื่อ ครม.เศรษฐา หลังปรับใหม่ ใครเป็นใคร?

โดย THE STANDARD TEAM
28.04.2024
  • LOADING...
ครม.เศรษฐา 36 คน

HIGHLIGHTS

  • คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ในรัฐบาลเศรษฐา สมัยที่ 1 มาจาก 6 พรรคร่วมรัฐบาลที่ได้รับการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี แต่ทว่าขั้วการเมืองฝ่ายนี้ยังมีอีก 5 พรรคที่จับมือเป็นฝ่ายรัฐบาล
  • ประชาชนไทยกำลังจะได้ผู้บริหารบ้านเมืองชุดใหม่ที่บางคนอาจเป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ ซึ่งต้องพิสูจน์ทั้งฝีมือการบริหารงานและการรักษาเสถียรภาพทางการเมืองไปพร้อมๆ กัน
  • 7 เดือนผ่านไป เศรษฐาใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีปรับบุคคลที่จะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีอีกครั้ง เพื่อเรียกคืนตำแหน่งรัฐมนตรีโควตาตอบแทนบุญคุณ และเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีที่ไร้ผลงานจนโลกลืมออกเสีย

พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่เพื่อเข้าบริหารราชการแผ่นดินเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2566 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 

 

มีหัวหน้าคณะรัฐมนตรีคือ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เป็นสมัยแรก ที่มาจากการโหวตโดยที่ประชุมร่วมของรัฐสภา โดยมีองค์ประกอบคือ รัฐมนตรีอีกไม่เกิน 35 คน รวม 1 นายกรัฐมนตรี จึงเท่ากับ 36 คน 

 

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ได้รับการจัดสรรเก้าอี้มีเพียง 6 พรรคร่วมรัฐบาล ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ, รวมไทยสร้างชาติ, ภูมิใจไทย, ชาติไทยพัฒนา, เพื่อไทย และประชาชาติ แต่การจับมือเป็นขั้วการเมืองฝ่ายรัฐบาลยังมีพรรคการเมืองอีกจำนวน 5 พรรคที่ไม่ได้รับการจัดสรรตำแหน่งใน ครม.

 

หลังผ่านการบริหารราชการแผ่นดินมาแล้ว 7 เดือน เศรษฐาในฐานะหัวหน้ารัฐบาลได้ปรับ ครม. ครั้งแรก เรียกคืนตำแหน่งรัฐมนตรีโควตาตอบแทนบุญคุณ และเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีที่ไร้ผลงานจนโลกลืมออก โดยพรรคที่มีการขยับและปรับเข้าปรับออกมีเพียง 3 พรรคการเมือง คือ พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ 

 

 

1. เศรษฐา ทวีสิน

ตำแหน่ง: นายกรัฐมนตรี

 

 

ถึงจะเคยลั่นวาจาว่า “จะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเท่านั้น” แต่สำหรับนักธุรกิจหมื่นล้าน เศรษฐา ทวีสิน เส้นทางนี้กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด

 

ตั้งแต่ประกาศเข้ามาสู่เส้นทางการเมืองเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย จนกระทั่งได้รับการเสนอชื่อเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย นับเป็นเวลา 5 เดือน 22 วัน (วันที่ 1 มีนาคม – 22 สิงหาคม 2566) จนได้รับการเสนอชื่อเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรี และที่ประชุมร่วมรัฐสภามีมติเห็นชอบให้นั่งเก้าอี้ ‘นายกรัฐมนตรีคนที่ 30’

 

เศรษฐา ทวีสิน ชื่อเล่นว่า นิด เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2505 ปัจจุบันอายุ 61 ปี เป็นบุตรคนเดียวของ ร.ท. อำนวย ทวีสิน กับ ชดช้อย ทวีสิน 

 

เศรษฐาสมรสกับ พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความงามด้านผิวพรรณ มีบุตร 3 คน คือ น้อบ-ณภัทร ทวีสิน, แน้บ-วรัตม์ ทวีสิน และ นุ้บ-ชนัญดา ทวีสิน

 

ชื่นชอบฟุตบอลทีมลิเวอร์พูล ได้สร้าง ‘แสนสิริ อะคาเดมี’ ให้บริการเยาวชนฟรี เพื่อฝึกทักษะเป็นนักฟุตบอลที่ดีของประเทศชาติ 

 

เศรษฐาถูกจับตาในเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งมาพร้อมกับการประกาศนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ท่ามกลางการพิสูจน์ฝีมือในฐานะหัวหน้า ครม. จึงเป็นโจทย์หินไปพร้อมๆ กับการแก้ไขปัญหาทางการเมืองเชิงโครงสร้างด้วย 

 

เศรษฐาปรับ ครม. ครั้งแรกด้วยการปล่อยมือจากการเป็นนายกรัฐมนตรีที่ควบกระทรวงการคลัง โดยมอบให้ พิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นหนึ่งในทีมมันสมองโครงการเติมเงิน 10,000 ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เข้าไปนั่งแทน

 


 

2. ภูมิธรรม เวชยชัย 

ตำแหน่ง: รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

 

 

ภูมิธรรม เวชยชัย เป็นที่รู้จักในชื่อ อ้วน จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ผ่านหลักสูตรป้องกันราชอาณาจักรจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ในปี 2547 ถือเป็นอดีตคนเดือนตุลาคม 2519 ที่หนีเข้าป่า ต่อมาทำงานกับ NGO สร้างเครือข่ายอาสาสมัครทั่วประเทศ 

 

เริ่มเข้าสู่สนามการเมืองครั้งแรกด้วยการตั้งพรรคประชาธรรม แต่ปิดตัวลงในเวลาต่อมาเนื่องจากทุนไม่เพียงพอ ต่อมาในปี 2540 เริ่มต้นทำงานกับ ทักษิณ ชินวัตร จนกระทั่งก่อตั้งพรรคไทยรักไทย         

 

ภูมิธรรมเป็นที่ปรึกษาคณะทำงานสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติเมื่อปี 2544 เป็นเลขานุการให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เคยเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย จนกระทั่งในปี 2548 ได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ก่อนถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปีเนื่องจากถูกยุบพรรค 

 

ในการเลือกตั้งปี 2557 ภูมิธรรมได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 21 ต่อมาในปี 2562 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 4 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคเพื่อไทยมีจำนวน สส. มากกว่าจำนวน สส. พึงมี ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ จนกระทั่งในปี 2566 ก็ไม่ได้รับเลือกตั้ง เพราะอยู่ในลำดับที่ 100 

 


 

3. พิชัย ชุณหวชิร 

ตำแหน่ง: รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

 

 

พิชัย ชุณหวชิร ปัจจุบันอายุ 74 ปี เคยประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงเคยเป็น 1 ในพยานจำนวน 7 ปากที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ยื่นเสนอต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้เรียกตัวมาให้ปากคำคดีปล่อยปละละเลยการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว 

 

ยิ่งลักษณ์ระบุในหนังสือยื่นคำร้องถึงเหตุผลการเสนอชื่อพิชัยมาเป็นพยานครั้งนั้นว่า พิชัยเป็นพยานผู้มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ คุณวุฒิ เป็นที่ยอมรับของผู้ประกอบวิชาชีพทางด้านบัญชี และเป็นพยานบุคคลภายนอก มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า แต่ได้เสียสละยอมมาให้ปากคำเพื่อให้เกิดความเที่ยงธรรมในการวินิจฉัยของ ป.ป.ช.

 

ที่ผ่านมาพิชัยได้รับการสนับสนุนจากเศรษฐา และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลชินวัตรมาโดยตลอด ซึ่งเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และนั่งเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนด้วย

 


 

4. สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ 

ตำแหน่ง: รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

 

 

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตนักศึกษาแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบทางการเมือง ทำให้เบนเข็มไปเรียนต่อต่างประเทศ จนจบคณะวิศวกรรมอุตสาหการจาก University of California, Berkeley สหรัฐอเมริกา 

 

สุริยะเข้าสู่เส้นทางการเมืองครั้งแรกภายใต้สังกัดพรรคกิจสังคม และมีตำแหน่งทางการเมืองครั้งแรกในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย ในปี 2541 ต่อมาได้ย้ายเข้ามาสังกัดพรรคไทยรักไทยที่มี ทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคในขณะนั้น ในปี 2550 ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปีเนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย

 

ต่อมาย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย และในปี 2561 สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ สมศักดิ์ เทพสุทิน ร่วมกันก่อตั้งกลุ่มสามมิตร รวบรวมอดีต สส. เข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งระหว่างนั้นก็ได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีในหลายกระทรวง และในปี 2566 ได้ย้ายกลับมาสังกัดพรรคเพื่อไทย จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังคงอยู่กับฝ่ายที่เป็นรัฐบาล

 

ตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา สุริยะเป็นรัฐมนตรีที่มีผลงานและอยู่ท่ามกลางสปอตไลต์ ยืนเคียงข้างนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด ทำให้การปรับคณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1/1 ได้ขยับขึ้นมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีอีกหนึ่งตำแหน่ง

 


 

5. อนุทิน ชาญวีรกูล 

ตำแหน่ง: รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

 

 

อนุทิน ชาญวีรกูล หรือ เสี่ยหนู เป็นบุตรชายของ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตรักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นอดีตสมาชิกและกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เคยถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปีจากคดียุบพรรค และเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ 

 

ในปี 2562 ร่วมรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข

 

ปัจจุบันเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 และเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

 


 

6. พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ 

ตำแหน่ง: รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

 

 

พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ชื่อเล่นว่า ป๊อด เป็นน้องชายของ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.ร.อ. ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ สมาชิกวุฒิสภา (สว.)

 

พล.อ. พัชรวาท เติบโตจากวงการข้าราชการตำรวจ ในปี 2551 ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยทำงานภายใต้การบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี 3 คน คือ สมัคร สุนทรเวช, สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 

 

ปัจจุบัน พล.ต.อ. พัชรวาท เป็นประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ ลงนามในคำสั่งพรรคพลังประชารัฐ ที่ 113/2566 เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2566

 


 

7. พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

ตำแหน่ง: รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

 

 

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค มีชื่อเล่นว่า ตุ๋ย เป็นอดีตผู้พิพากษาที่ผันตัวมาเป็นนักการเมืองครั้งแรกในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก่อนลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเข้าไปเป็นที่ปรึกษา พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ 

 

ต่อมาพีระพันธุ์ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ และก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติร่วมกับ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ก่อนที่ พล.อ. ประยุทธ์ จะเข้ามาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ขณะที่ พล.อ. ประยุทธ์ ได้แต่งตั้งพีระพันธุ์เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

 

ภายหลังเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 พล.อ. ประยุทธ์ ลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และหันหลังให้การเมือง โดยเมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พรรครวมไทยสร้างชาติก็ร่วมรัฐบาลด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้พีระพันธุ์ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

 


 

8. สมศักดิ์ เทพสุทิน 

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 

 

 

สส. สุโขทัยผู้ไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน นั่งตำแหน่งรัฐมนตรีมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ซึ่งระหว่างดำรงตำแหน่งไม่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ 

 

สมศักดิ์ เทพสุทิน จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และปริญญาโทด้านรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เริ่มต้นจากการเมืองท้องถิ่นในปี 2564 และเข้าสู่เส้นทางการเมืองระดับประเทศด้วยการเป็น สส. พรรคกิจสังคม สมัยแรกในปี 2526 ด้วยอายุเพียง 26 ปี 

 

จากนั้นสะสมชั่วโมงบินจนสมัยรัฐบาล พล.อ. สุจินดา คราประยูร ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขในปี 2535 และได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีเรื่อยมาแม้จะย้ายสังกัดมาอยู่พรรคไทยรักไทย ต่อมาหลังการรัฐประหารในปี 2549 สมศักดิ์นำกลุ่มวังน้ำยมลาออกจากพรรคไทยรักไทย และไปตั้งกลุ่มมัชฌิมา กระทั่งเกิดพรรคมัชฌิมาธิปไตย แต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษายุบพรรค และตัดสิทธิทางการเมืองในปี 2550

 

ในปี 2561 สมศักดิ์ เทพสุทิน และ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ก่อตั้งกลุ่มสามมิตร รวบรวมอดีต สส. ก่อนจะเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ สนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และในปี 2566 ได้ย้ายกลับมาสังกัดพรรคเพื่อไทย จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังคงอยู่กับฝ่ายที่เป็นรัฐบาล 

 

แต่กระนั้นในรัฐบาลชุดนี้ เขาได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลกระทรวงคมนาคม, กระทรวงยุติธรรม (ยกเว้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ), กรมประชาสัมพันธ์, สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค, สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, สำนักงานราชบัณฑิตยสภา, ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) 

 

แต่ก็มินำพา การปรับ ครม. หนนี้จึงถูกโยกจากรองนายกรัฐมนตรีขาลอยไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแทน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ที่ให้กลับไปทำงานสภา คุมเกมการเมืองให้รัฐบาล

 


 

9. ปานปรีย์ พหิทธานุกร

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

 

 

ปานปรีย์ พหิทธานุกร ชื่อเล่น ตั๊ก ผ่านการเมืองมาหลายยุคสมัย รวมถึงการทำงานด้านต่างประเทศมากมาย เกิดในครอบครัวนักการทูต คุณปู่เคยเป็นปลัดกระทรวงการต่างประเทศและทูต ส่วนคุณพ่อทำงานในกระทรวงการต่างประเทศ 

 

ปานปรีย์จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระดับปริญญาโทด้านรัฐประศาสนศาสตร์ University of Southern California สหรัฐอเมริกา และระดับปริญญาเอกด้านการบริหารจัดการภาครัฐ Claremont Graduate University (CGU) สหรัฐอเมริกา

 

เริ่มต้นจากการเข้าสู่เส้นทางราชการ สังกัดสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีโอกาสทำงานใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีหลายคน ตั้งแต่สมัย พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ จนกระทั่งสมัยนายกรัฐมนตรี พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ ถูกปฏิวัติ ปานปรีย์ถูกควบคุมตัวไปพร้อมกัน เนื่องในฐานะหลานเขยของ พล.อ. ชาติชาย ภายหลังลาออกไปใช้ชีวิตที่อังกฤษ ก่อนกลับมาทำงานภาคเอกชน 

 

ในปี 2539 สมัย พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ปี 2545 ได้รับเลือกเป็น สส. และดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ในปี 2546 เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม แก้ไขปัญหาน้ำขาดแคลน ปี 2548 ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้แทนการค้าไทย ก่อนจะดำรงตำแหน่งหัวหน้าทีมเศรษฐกิจและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยในปี 2551 รวมถึงเคยดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

 


 

10. จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

 

 

จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ชื่อเล่นว่า หนิม เป็น สส. จังหวัดเชียงใหม่ติดต่อกัน 5 สมัย โดยเริ่มลงสมัครครั้งแรกในปี 2548 สังกัดพรรคไทยรักไทย ด้วยวัยเพียง 30 ปี ก่อนย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชาชน และล่าสุดสังกัดพรรคเพื่อไทย 

 

จุลพันธ์จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และระดับปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจจาก Boston College สหรัฐอเมริกา เป็นบุตรชายของ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และหลานของ พล.ต.อ. สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ     

 

เส้นทางการเมืองของจุลพันธ์ เคยดำรงตำแหน่งอดีตกรรมาธิการสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในหลากหลายคณะ เช่น การเงิน, การคลัง, การธนาคารและสถาบันการเงิน, การพัฒนาเศรษฐกิจ, งบประมาณ ฯลฯ

 


 

11. เผ่าภูมิ โรจนสกุล

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

 

 

เผ่าภูมิ โรจนสกุล ชื่อเล่นว่า อ๊อฟ ปัจจุบันอายุ 41 ปี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากนั้นได้ไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทใบที่ 1 จากคณะบริหารธุรกิจ University of Massachusetts Boston ปริญญาโทใบที่ 2 และปริญญาเอกจากคณะเศรษฐศาสตร์ University of Illinois Chicago

 

หลังจบการศึกษาจากต่างประเทศ เขาได้เข้ารับราชการที่กองนโยบายระบบการเงินและสถาบันการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เป็นระยะเวลา 1 ปี และได้ลาออกมา 

 

ต่อมาได้เข้ามาทำงานการเมืองในพรรคเพื่อไทย โดยเข้ามาเป็นทีมงานของ ภูมิธรรม เวชยชัย ต่อมาปี 2561 ได้รับเลือกให้เป็นรองเลขาธิการพรรค และดำรงตำแหน่งนี้ติดต่อกัน 4 สมัย ก่อนขยับขึ้นเป็นรองหัวหน้าพรรคในปี 2566 ทั้งเคยเป็นผู้อำนวยการศูนย์นโยบายพรรคเพื่อไทย และโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย

 

ในการเลือกตั้ง สส. ปี 2562 เผ่าภูมิลงสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 33 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคเพื่อไทยมีจำนวน สส. มากกว่าจำนวน สส. พึงมี 

ในการเลือกตั้งปี 2566 เผ่าภูมิได้ลงสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อในลำดับที่ 89 ซึ่งไม่ได้รับการเลือกตั้ง

 

จากนั้นคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งให้เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เขาเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่ผลักดันนโยบายโครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท 

 


 

12. ประเสริฐ จันทรรวงทอง

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)

 

 

ประเสริฐ จันทรรวงทอง จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์ สาขาเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาโทด้านรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ 

 

เริ่มเข้าสู่เส้นทางการเมืองจากการเป็น สส. จังหวัดนครราชสีมา ในปี 2544, 2548, 2550, 2554, 2562 และ 2566 ประเสริฐเคยนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และล่าสุดในโผคณะรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)

 

นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์การทำงานเป็นเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎรด้วย

 


 

13. เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 

 

 

เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เริ่มต้นการทำงานด้วยการรับราชการในตำแหน่งปลัดอำเภอในหลายจังหวัด ก่อนได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดและปทุมธานี ก่อนได้รับตำแหน่งอธิการบดีวิทยาลัยการปกครอง และเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมและขอนแก่น อธิบดีกรมโยธาธิการ และตำแหน่งสุดท้ายก่อนเข้าสู่เส้นทางการเมืองคือปลัดกระทรวงมหาดไทย

 

ด้านการศึกษา เสริมศักดิ์จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจบการศึกษาระดับปริญญาโทจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกัน 

 

มีบุตร 3 คน หนึ่งในนั้นคือ ร.ท. ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ   

 

เสริมศักดิ์เข้าสู่เส้นทางการเมืองสังกัดพรรคไทยรักไทย และได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในรัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร ในปี 2548 ต่อมาในปี 2550 ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งถูกยุบพรรค ปี 2553 เสริมศักดิ์ได้เข้าร่วมชุมนุมกับแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และในปี 2555 ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย

 

เมื่อ 7 เดือนที่แล้วเขาได้รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และการปรับ ครม. หนนี้ถูกโยกไปนั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

 


 

14. สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

 

 

สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็น สส. บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 21 พรรคเพื่อไทย เป็นนักการเมืองหญิงที่ทำหน้าที่ดูแลการเกษตรและสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ก่อนลงเล่นการเมืองเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท แป้งมันเอี่ยมเฮงอุตสาหกรรม จำกัด

 

สุดาวรรณเป็นที่รู้จักในฐานะ ‘ลูกสาวกำนันป้อ’ วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล สส. บ้านใหญ่ พรรคเพื่อไทย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและกระทรวงพาณิชย์ในสมัยรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 


 

15. เกรียง กัลป์ตินันท์ 

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

 

 

เกรียง กัลป์ตินันท์ หรือ เสี่ยเบี้ยว สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะศิลปศาสตร์ และปริญญาโทสาขาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ได้รับเลือกตั้งเป็น สส. สมัยแรกในปี 2538 เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดอุบลราชธานี สังกัดพรรคประชาธิปัตย์

 

ในปี 2550 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคไทยรักไทย พร้อมกับตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 5 ปี ซึ่งเกรียงถูกจัดเข้าไปเป็นหนึ่งในนั้น ต่อมาในปี 2555 หวนสู่วงการการเมืองอีกครั้งด้วยตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และในปี 2557 ได้เป็น สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 42

 

เกรียงนับว่าเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่ถือเป็นหัวใจหลักของพรรค และมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากภาพการพา สส. เพื่อไทยบินไปพบทักษิณที่ประเทศสิงคโปร์แบบส่วนตัว

 


 

16. สุรพงษ์ ปิยะโชติ 

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

 

 

สุรพงษ์ ปิยะโชติ เป็นที่รู้จักในชื่อ หมอหนุ่ย จบการศึกษาจากคณะเทคโนโลยีการเกษตรบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีทางสัตว์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ทำธุรกิจฟาร์มโคนมส่งออกน้ำนมพาสเจอไรซ์ระดับประเทศ 

 

เข้าสู่สนามการเมืองครั้งแรกโดยการเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สนามแย้ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อปี 2548 ในปี 2554 ลงสมัคร สส. กาญจนบุรี เขตอำเภอท่ามะกา สังกัดพรรคเพื่อไทย และได้เป็น สส. สมัยแรก

 

ในการเลือกตั้งปี 2566 พรรคเพื่อไทยได้ สส. จังหวัดกาญจนบุรีมา 4 ที่นั่งจากทั้งหมด 5 ที่นั่ง ทำให้หมอหนุ่ยได้รับการพูดถึงและการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ในพรรคในฐานะแม่ทัพเพื่อไทยเมืองกาญจน์

 


 

17. จักรพงษ์ แสงมณี

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

 

 

จักรพงษ์ แสงมณี มีชื่อเล่นว่า เพ้า จบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการบริหารจาก University of Colorado ผ่านประสบการณ์การทำงานเป็นอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นอดีตกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยปี 2553-2556 และ 2561 ถึงปัจจุบัน และเป็นอดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ที่ผ่านมาเขาปรากฏตัวข้างกาย เศรษฐา ทวีสิน ในช่วงเข้าสู่สนามการเมืองมาโดยตลอด

 

เมื่อ 7 เดือนที่ผ่านมา เขาได้รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยการปรับ ครม. หนนี้ ​​เศรษฐาได้โยกเขาให้มาทำงานใกล้ตัว ทำงานภายในทำเนียบรัฐบาล ในตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

 


 

18. พิชิต ชื่นบาน

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 

 

 

จบการศึกษาระดับปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ สาขากฎหมายมหาชน, เนติบัณฑิตไทย สมัยที่ 34 สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา, ปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาบริหารธุรกิจอุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

 

เป็น สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย สมัยยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นกำลังหลักในการกลั่นกรองระเบียบกฎหมายทั้งในทำเนียบรัฐบาล และขณะที่ยิ่งลักษณ์ถูกดำเนินคดีจำนำข้าว โดยในปี 2562 พิชิตได้เป็นประธานที่ปรึกษากฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ 

 

กลายเป็นที่รู้จักในฐานะหัวหน้าทีมทนายความครอบครัวชินวัตร ต่อสู้คดีที่ดินรัชดา ซึ่งต่อมาตกอยู่ในฐานะจำเลย ด้วยศาลมีคำสั่งจำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล จากกรณีหิ้วถุงขนมใส่เงินสด 2 ล้านบาทมอบให้เจ้าหน้าที่ธุรการศาล ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

 


 

19. มนพร เจริญศรี 

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

 

 

มนพร เจริญศรี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ระดับปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และระดับปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก

 

ปี 2554 เป็น สส. จังหวัดนครพนมครั้งแรกในสังกัดพรรคเพื่อไทย มีบทบาทสำคัญทางการเมืองในฐานะนักต่อสู้ในนามคนเสื้อแดงจังหวัดนครพนม นับตั้งแต่หลังการรัฐประหารในปี 2549 โดยอาสารับผิดชอบงานในกรรมาธิการการมีส่วนร่วมพัฒนาการเมือง เพื่อทวงสิทธิให้กับคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตจากการชุมนุม

 

มนพรถือเป็นนักประสานงานระหว่างพรรคการเมือง จนได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้ประสาน 10 ทิศในสภาผู้แทนราษฎร และมีตำแหน่งเป็นเลขานุการภาคอีสานของพรรค

 


 

20. จิราพร สินธุไพร 

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

 

 

จิราพร สินธุไพร ชื่อเล่นว่า น้ำ เป็น สส. ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ปัจจุบันอายุ 36 ปี ย่าง 37 ปี เป็นบุตรสาวคนโตของ ‘นิสิต สินธุไพร’ อดีต สส. ร้อยเอ็ด อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน และอดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ กับ เอมอร สินธุไพร อดีต สส. ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย มีน้องสาว 1 คน คือ ชญาภา สินธุไพร สส. ร้อยเอ็ด เขต 8 ปัจจุบันเป็นรองโฆษกพรรคเพื่อไทย

 

จิราพร สินธุไพร จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาโทใบที่ 2 Master of Science (International Business) University of Reading ประเทศอังกฤษ 

 

ก่อนเข้าสู่เส้นทางการเมือง เธอเคยทำงานเป็นนักวิชาการพาณิชย์ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จากนั้นลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. ครั้งแรกในปี 2562 เขต 5 จังหวัดร้อยเอ็ด สังกัดพรรคเพื่อไทย ได้รับ 58,842 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนสูงเป็นอันดับที่ 1 ของจังหวัด

 

จิราพรเคยเป็นรองโฆษกพรรคเพื่อไทย และมีความโดดเด่นการทำงานเป็นผู้แทนราษฎรในสภา และในการเลือกตั้งสมัยที่ 2 เมื่อปี 2566 เธอชนะการเลือกตั้งโดยได้รับคะแนนเสียง 61,288 คะแนน ซึ่งสูงที่สุดในประเทศ 

 


 

21. พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 

 

 

พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ เป็นบุตรชายของ ชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา มีพี่ชายชื่อ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอล ครูใหญ่แห่งภูมิใจไทย และน้องชายชื่อ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์​ จันทร์โอชา จนทำให้สังคมมองว่า การเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีครั้งนี้เพราะนามสกุล ‘ชิดชอบ’  

 

พล.ต.อ. เพิ่มพูน รับราชการตำรวจตั้งแต่ปี 2527 ในรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้บังคับการกองตรวจราชการ 2 จเรตำรวจ ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง กทม. 

 

ส่วนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกเด้งไปเป็นผู้อำนวยการจเรตำรวจ เมื่ออยู่ในยุครัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกขยับให้มารับตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร. และเกษียณอายุราชการปี 2564

 


 

22. พิพัฒน์ รัชกิจประการ

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน 

 

 

พิพัฒน์ รัชกิจประการ แกนนำพรรคภูมิใจไทย เป็นสามีของ นาที รัชกิจประการ แม่ทัพภาคใต้ของพรรคภูมิใจไทย และเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมันเครือพีที นามสกุลรัชกิจประการมีความสนิทสนมกับนามสกุลชิดชอบมาอย่างยาวนาน และอยู่ภายใต้สังกัดพรรคภูมิใจไทยจนถึงปัจจุบัน

 

ในปี 2562 พรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาลประยุทธ์ พิพัฒน์ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในโควตาของพรรคภูมิใจไทย

 


 

23. ศุภมาส อิศรภักดี

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

 

 

ศุภมาส อิศรภักดี เคยเป็นโฆษกพรรคและเป็นอดีตคนไทยรักไทย เคยเป็น สส. กทม. เขต 13 หลักสี่ พรรคไทยรักไทย ในการเลือกตั้งปี 2544 และ 2548 แต่ในปี 2554 พ่ายให้กับ สุรชาติ เทียนทอง จากพรรคเพื่อไทย

 

จากนั้นปี 2557 ได้ลงสมัครในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ลำดับที่ 9 แต่ไม่มีการเลือกตั้ง และในปี 2562 ได้รับเลือกตั้งเป็น สส. บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย

 


 

24. ชาดา ไทยเศรษฐ์

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

 

 

ชาดา ไทยเศรษฐ์ เจ้าพ่อแห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานี มาจากครอบครัวมุสลิมปาทาน อพยพมาจากปากีสถานตั้งแต่รุ่นปู่ เป็นพี่ชายของ มนัญญา ไทยเศรษฐ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา 

 

ชาดาเคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี จากนั้นในปี 2543 เข้าร่วมงานกับพรรคถิ่นไทย และปี 2550 ได้รับเลือกเป็น สส. จังหวัดอุทัยธานี สังกัดพรรคชาติไทย และปี 2554 สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา

 

ชาดาเคยถูกจับกุมในข้อหาจ้างวานฆ่า สมเกียรติ จันทร์หิรัญ เลขานุการของ ประแสง มงคลศิริ สส. พรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2546 แต่สุดท้ายศาลพิพากษายกฟ้องในปี 2548 และจากนั้นในปี 2561 ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย โดยปัจจุบันเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดอุทัยธานี

 


 

25. ทรงศักดิ์ ทองศรี 

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

 

 

ทรงศักดิ์ ทองศรี เป็นรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยคนที่ 1 เคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, ประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว, สภาผู้แทนราษฎร และเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ต่อมาในปี 2551 ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน และเขายังเป็นหนึ่งในสมาชิก สส. กลุ่ม 16 ด้วย

 

ในปี 2562 พรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เขาได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในโควตาพรรคภูมิใจไทย

 


 

26. สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

 

 

สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล ลูกชายของ สมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา เป็นหนึ่งในลูกหลานบ้านใหญ่อยุธยา ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในปี 2550 สังกัดพรรคพลังประชาชน มารับไม้ต่อจากพี่สาว สุวิมล พันธ์เจริญวรกุล อดีต สส. พรรคไทยรักไทย ที่ถอยจากวงการการเมือง จากนั้นในปี 2554 ได้รับการเลือกตั้งในสังกัดพรรคเพื่อไทย และปี 2562 ได้รับการเลือกตั้งเป็น สส. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สังกัดพรรคภูมิใจไทย 

 

ปัจจุบันเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 4 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พรรคภูมิใจไทย และเป็นรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยคนที่ 1 

 


 

27. นภินทร ศรีสรรพางค์ 

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

 

 

นภินทร ศรีสรรพางค์ เคยเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เคยเป็นสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดราชบุรีในปี 2543-2549 และเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในปี 2554-2556 

 

นอกจากนี้ยังเป็นอดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ็กโกรคอมเมอร์ส กรุ๊ป จำกัด รวมถึงผู้ดำเนินงานตลาดกลางผักและผลไม้ จังหวัดราชบุรี (ศรีเมือง)

 


 

28. ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 

 

ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า เริ่มต้นเส้นทางการเมืองกับพรรคไทยรักไทย ดูแลยุทธศาสตร์การเลือกตั้งกรุงเทพมหานครให้พรรค และในการเลือกตั้งปี 2562 ลงสมัคร สส. พะเยา พรรคพลังประชารัฐ และได้เป็น สส. ในการตั้ง ครม.ประยุทธ์ เขาถูกโจมตีเกี่ยวกับคดีในอดีต โดยได้รับฉายาที่เรียกกันทั่วไปว่า รัฐมนตรี ‘มันคือแป้ง’

 

ปี 2562 ร.อ. ธรรมนัส เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อนจะถูกปลดออกจากตำแหน่งในเวลาต่อมา จากนั้นออกจากพรรคพลังประชารัฐไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทยเป็นเวลาเกือบ 1 ปีเต็ม และกลับมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐอีกครั้ง หลังมีข่าวย้ายไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย แต่ไม่ได้ย้ายไปในที่สุด

 

ปัจจุบัน ร.อ. ธรรมนัส เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพะเยา และเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ 

 


 

29. สันติ พร้อมพัฒน์

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข 

 

 

สันติ พร้อมพัฒน์ เป็นรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐคนที่ 1 และเป็นอดีต สส. แบบแบ่งเขต จังหวัดเพชรบูรณ์ สังกัดพรรคความหวังใหม่ เป็นอดีต สส. แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคไทยรักไทย และอดีต สส. แบบสัดส่วน สังกัดพรรคพลังประชาชน

 

นอกจากนี้ สันติเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 

 

ในปี 2562 เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ และในปี 2566 เป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 2 พรรคพลังประชารัฐ

 

สันติถือว่ามีบทบาทอย่างยิ่งในฐานะแกนนำจังหวัดเพชรบูรณ์ เขาปรากฏตัวเป็นรัฐมนตรีมาโดยเสมอ และมีบทบาทของการอยู่เบื้องหลังพรรคพลังประชารัฐในหลายเรื่อง อาทิ อาคารสำนักงานต่างๆ 

 


 

30. อรรถกร ศิริลัทธยากร 

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 

 

อรรถกร ศิริลัทธยากร ชื่อเล่นว่า เบนซ์ เป็นบุตรชายของ ‘อิทธิ ศิริลัทธยากร’ อดีตผู้แทนฯ คนแปดริ้ว 5 สมัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในรัฐบาลชวน หลีกภัย ปัจจุบันเป็น สส. สมัยที่ 3 ในสมัยแรกอยู่กับพรรคเพื่อไทย และ 2 สมัยล่าสุดอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ เลือกตั้งรอบที่ผ่านมาเป็น สส. แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 16 และการเลือกตั้งหนนี้เขาเปลี่ยนมาลง สส. เขต 2 ฉะเชิงเทรา และได้รับเลือกให้เป็น สส. เพียงหนึ่งเดียวของพรรค จากพื้นที่เลือกตั้งทั้งหมด 4 เขต ถูกรายล้อมไปด้วยพรรคแดงและพรรคส้ม 

 

ที่ผ่านมา ‘อรรถกร’ ทำหน้าที่ในพรรคพลังประชารัฐในฐานะกรรมการบริหารพรรค และทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรในสัปปายะสภาสถานเป็นอย่างดีและคล่องแคล่วมาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว เขาไม่มีก๊วน โดยสามารถทำงานได้กับทุกคนทุกกลุ่ม ส่วนรัฐบาลชุดปัจจุบันเขาเป็นวิปรัฐบาลตัวแทนพรรค เป็นตัวหลักงานสภาที่แม่นข้อบังคับต่างๆ เป็นอย่างดี 

 

หลายคนต่างวิเคราะห์ตรงกันว่า พล.อ. ประวิตร ได้มอบตำแหน่งเสนาบดีให้เขาเพื่อตอบแทนในฐานะคนทำงานจริงของพรรค ทำงานได้อย่างไร้รอยต่อ ไร้ความขัดแย้ง ตั้งใจทำงานการเมือง เป็นคนรุ่นใหม่ตามสโลแกนพรรค ‘อนุรักษนิยมทันสมัย’

 


 

31. พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

 

 

ปุ้ย-พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ในวัย 43 ปี เป็น สส. นครศรีธรรมราช สมัยแรกเมื่อปี 2550 ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับเลือกตั้งเรื่อยมา ทั้งการเลือกตั้งทั่วไปปี 2554 และ 2562 ก่อนลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์มาลงสมัคร สส. นครศรีธรรมราช ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ และได้รับเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 4

 

โดยในครั้งนี้พิมพ์ภัทราได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในโควตาของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งมาจากโควตาสัดส่วน สส. ภาคใต้ที่เป็น สส. ที่สมัยมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ถือเป็นการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีครั้งแรกของพิมพ์ภัทรา

 


 

32. สุทิน คลังแสง 

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

 

 

สส. จังหวัดมหาสารคาม ฉายา ‘ผู้แทนติดดิน’ เนื่องจากเป็นคนอยู่ง่ายกินง่าย เข้ากับชาวบ้านทุกระดับ จบปริญญาตรีจากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาสารคาม ปริญญาโทสาขาไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และปริญญาเอกด้านปรัชญา Magadh University ประเทศอินเดีย นอกจากนั้นยังผ่านการศึกษาอบรมหลักสูตรการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยจากสถาบันพระปกเกล้า

 

สุทินเคยเป็นครูสอนเด็กพิการ หูหนวก ตาบอด เกือบ 20 ปี ก่อนย้ายมาทำงานวิจัยสายสังคมศาสตร์ ขณะกำลังจะไปเรียนต่อต่างประเทศได้เจอกับ อดิศร เพียงเกษ ทำให้เปลี่ยนเส้นทางเข้าสู่สายการเมือง เรียนรู้จากอดิศรและพ่อใหญ่ แคล้ว นรปติ ทำให้มีความสนใจอยากเป็น สส.

 

ในปี 2544 สุทินได้รับเลือกเป็น สส. บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ต่อมาย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชาชนในปี 2548 ก่อนถูกตัดสิทธิทางการเมืองเนื่องจากยุบพรรค และย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อไทย ในปี 2563 ได้รับเลือกเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ปัจจุบันได้รับเลือกเป็น สส. บัญชีรายชื่อของพรรค ลำดับที่ 9 

 

ล่าสุดสุทินมีรายชื่อในโผรัฐมนตรีของ เศรษฐา ทวีสิน หลายตำแหน่ง ก่อนจะมาจบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการนำพลเรือนมาคุมกองทัพ โดยสุทินจะนับเป็นคนแรกที่จะเข้ารับตำแหน่งนี้ในฐานะพลเรือน นอกเหนือจากนายกรัฐมนตรี 5 ท่านที่เป็นพลเรือนควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

 


 

33. สุชาติ ชมกลิ่น 

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

 

 

สุชาติ ชมกลิ่น ชื่อเล่นว่า เฮ้ง มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ปัจจุบันเป็น สส. บัญชีรายชื่อ และเป็นรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็น สส. มาตั้งแต่ปี 2554 ติดต่อกัน 3 สมัย 

 

สำหรับสุชาติ บารมีทางการเมืองของเขาเริ่มก่อตัวหลังการเลือกตั้งปี 2562 โดยการกวาดต้อนผู้นำท้องถิ่นหลายแห่งเข้าสู่สังกัด และขึ้นสู่จุดสูงสุดในวงการการเมือง โดยได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในวันที่ 5 สิงหาคม 2563 ภายใต้สังกัดพรรคพลังประชารัฐ 

 

จากนั้น ปี 2565 สุชาติได้ยื่นหนังสือลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ ย้ายพรรค เปิดตัวเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมลงสมัคร สส. แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 5 เพื่อสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 3

 


 

34. วราวุธ ศิลปอาชา 

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

 

 

วราวุธ ศิลปอาชา ชื่อเล่น ท็อป เป็นลูกชายคนสุดท้องของ บรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย และนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 กับคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านวิศวกรรมเครื่องกล (Mechanical Engineering) University College London ประเทศอังกฤษ และระดับปริญญาโทด้านไฟแนนซ์และการธนาคาร University of Wisconsin-Madison สหรัฐอเมริกา

 

เข้าสู่เส้นทางการเมืองตามบิดาโดยการเป็น สส. จังหวัดสุพรรณบุรี ในปี 2544, 2548 และ 2550 สังกัดพรรคชาติไทย ในปี 2551 ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคชาติไทย ซึ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค 

 

วราวุธได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในรัฐบาลของ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในปี 2557 จากนั้นปี 2562 ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า และเป็นกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

 


 

35. พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

 

 

พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง เป็นอดีตนายตำรวจที่ดำรงตำแหน่งสำคัญมาหลายตำแหน่ง เช่น อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI, เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. เริ่มต้นชีวิตการเมืองด้วยการก่อตั้งพรรคประชาชาติร่วมกับ วันมูหะมัดนอร์ มะทา โดยเขาเป็นเลขาธิการพรรค และลงสมัครเป็น สส. บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 2 ของพรรค แม้ว่าในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2562 พรรคประชาชาติจะได้รับเลือก สส. บัญชีรายชื่อเพียงลำดับเดียวคือ วันมูหะมัดนอร์ มะทา แต่ต่อมาได้ลาออกเพื่อเปิดทางให้ทวีขึ้นเป็น สส. แทน

 

ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2566 พรรคประชาชาติได้รับเลือกตั้ง สส. บัญชีรายชื่อ 2 คน ทำให้ทวีกลับเข้าสภาอีกครั้ง และพรรคประชาชาติประกาศเข้าร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย โดยทวีได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในโควตาพรรคประชาชาติ 

 


 

36. กฤษฎา จีนะวิจารณะ

ตำแหน่ง: รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง 

 

 

กฤษฎา จีนะวิจารณะ ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในโควตาสัดส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังลาออกจากปลัดกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา

 

กฤษฎาเคยดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ในกระทรวงการคลังหลายตำแหน่ง เช่น อธิบดีกรมศุลกากร อธิบดีกรมสรรพสามิต และผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง นอกจากนี้ยังเป็นกรรมการในบริษัทมหาชนต่างๆ เช่น บริษัท ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และคณะกรรมการ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน)​

 

สำหรับกฤษฎาคาดว่าจะมาช่วยขับเคลื่อนงานในกระทรวงการคลัง เนื่องจาก เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นั่งควบเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังด้วย

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X