นิวยอร์ก ลอนดอน ปารีส โคเปนเฮเกน คุณคิดว่าเมืองไหนที่ชาวมิลเลนเนียลยุคนี้ต่างเทใจให้มากที่สุด? คำตอบได้แก่ ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส
เมื่อล่าสุดผลการสำรวจของเว็บไซต์ให้บริการด้านการท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง Müv Travel ได้ปล่อย 30 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวที่ชาวมิลเลนเนียลอยากไปเยือนมากที่สุด ผ่านการสำรวจสมาชิกที่กำลังอยู่ในวัยนี้ พบว่า อันดับหนึ่งตกเป็นของลิสบอน เมืองหลวงของประเทศโปรตุเกส โดยสิ่งที่ชาวมิลเลนเนียลให้ความสำคัญในยุคนี้ ได้แก่ สถานที่นั้นๆ จะต้องสร้างความจดจำและมีเอกลักษณ์ มีกิจกรรมท้องถิ่นให้ทำ และให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน จึงไม่น่าแปลกใจที่เมืองอันดับ 1 จะตกเป็นของลิสบอน เมืองเก่าแก่ที่ทั้งตึกสวย มากประวัติศาสตร์ ไนต์ไลฟ์เด่น แถมยังมีชายหาดให้เที่ยวอีกด้วย
ลิสบอน (Lisbon) เป็นเมืองหลวงของโปรตุเกส ริมมหาสมุทรแอตแลนติก อยู่ติดกับประเทศสเปน เมืองนี้มีประชากรทั้งหมดราว 2.9 ล้านคน และมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนในปี 2018 กว่า 4.5 ล้านคน โดยช่วงเวลาที่เหมาะสม ได้แก่ ช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม และกันยายนถึงตุลาคม หากนั่งจากสนามบินนั่งเข้าเมืองใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น หากใครเลือกนั่งรถไฟใต้ดินก็จ่ายเพียง 1.5 ยูโรต่อเที่ยว ซึ่งนับว่าถูกมาก
อ้างอิง: worldpopulationreview.com/world-cities/lisbon-population/
ความดีงามของเมืองนี้คือ อาคารบ้านเรือนที่ยังคงสถาปัตยกรรมเก่า แม้ไม่หรูหราโอ่อ่าเหมือนเมืองอื่นๆ ในยุโรป แต่ก็มีเสน่ห์ที่ไร้การปรุงแต่ง การเที่ยวเมืองให้สนุกคือการเดินเข้าตรอกนั้นออกตรอกนี้ เที่ยวชมเมืองสีสันสดใส หรือนั่งรถรางสีเหลือง (Tram) ที่สร้างความจดจำจนกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำเมือง ซึ่งสังเกตได้จากโปสการ์ดรูปรถราง หรือแม่เหล็กติดตู้เย็นรูปรถรางในร้านขายของชำร่วย
ไม่ใช่แค่เมืองไทยที่มีตุ๊กตุ๊ก เพราะลิสบอนเองก็มีเหมือนกัน เมื่อตุ๊กตุ๊กได้กลายมาเป็นหนึ่งในพาหนะที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการ เพราะความที่ซอกแซกได้ โดยเฉพาะในจุดที่เดินเท้าไม่ไหว เช่น ย่านประวัติศาสตร์อย่าง Alfama หรือ Graça แม้จะโดนประชากรค่อนแคะว่า ยานพาหนะคันนี้สร้างความสกปรกและส่งเสียงดังไปหน่อยก็ตาม แต่ปัจจุบันก็เริ่มเปลี่ยนมาใช้ระบบไฟฟ้ากันบ้างแล้ว
ใครไม่กลัวความสูงต้องมาขึ้นลิฟต์กลางแจ้งสุดเจ๋ง Elevador de Santa Justa ตั้งอยู่บนถนน Rua de Santa Justa ที่ได้รับการออกแบบโดย Raul Mernier de Ponsard ที่ได้ออกแบบลิฟต์เหล็กแห่งนี้ในสไตล์โกธิก ปัจจุบันได้กลายมาเป็นจุดชมวิวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มองไปเห็นวิวโดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นปราสาท Sao Jorge ย่าน Baixa โรงละคร รวมถึงแม่น้ำ Targus แต่ต้องก็แลกกับคิวที่ต่อกันยาวเหยียดกว่าจะได้ขึ้น
อีกหนึ่งสถานที่สำคัญ หอคอยแห่งเบเลม (Torre de Belem) ที่ไม่ว่าใครต้องมาเยือน ก่อนหน้านี้หอคอยแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ทำหน้าที่เป็นประภาคารและป้อมปราการ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Tagus ที่มีสะพานเชื่อมต่อกัน ใครมาย่านนี้ถือว่าไม่เสียเที่ยว เพราะบริเวณโดยรอบมีสิ่งก่อสร้างสำคัญหลายแห่ง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนสมัยก่อนถึงสร้างป้อมปราการไว้ตรงนี้
จากโรงงานที่ถูกปล่อยให้รกร้างได้ถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ เป็นสถานที่สุดคูลอย่าง LXFactory ย่านเก๋ที่กลายเป็น Creative Area สำหรับพื้นที่แสดงงานศิลปะ มีร้านรวงและร้านอาหารฮิปๆ ให้มาชิม รวมถึงตลาดคนเดินทุกวันอาทิตย์ที่มีของวินเทจมากมายมาจำหน่าย ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า วางขายกันอย่างคึกคัก
ไฮไลต์ของ LXFactory อยู่ที่ร้านหนังสือสวยติดอันดับโลกอย่าง Ler Devagar ที่ผันตัวจากการเป็นร้านหนังสือ วางจำหน่ายหนังสือจากทั่วโลก มาเป็นแหล่งแฮงเอาต์ที่คุณสามารถเข้าไปอ่านหนังสือเล่นได้ด้วย เพราะภายในร้านมีพื้นที่สำหรับจิบชา กาแฟ เรื่อยไปถึงเคล้าไวน์สักแก้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่ทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่อาจไม่ได้เป็นคอหนังสือตัวยง แต่ก็ขอมาที่นี่สักครั้งในชีวิต
ขนมยอดนิยมของลิสบอนต้องยกให้ ‘ทาร์ตไข่’ หรือที่ภาษาโปรตุเกสเรียกว่า Pastel de nata ซึ่งดูจากหน้าตาแล้วไม่ต่างจากทาร์ตไข่เจ้าดังที่วางขายในบ้านเราสักเท่าไร นั่นก็เป็นเพราะแท้จริงแล้ว ทาร์ตไข่มีต้นกำเนิดจากเมืองลิสบอนนี่เอง ก่อนเผยแพร่และได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศแถบเอเชียอย่างฮ่องกงและมาเก๊า ส่วนเจ้าดังของที่นี่ ได้แก่ ร้าน Pastéis de Balém ที่เก่าแก่และยังคงรสชาติแบบต้นตำรับทาร์ตไข่โปรตุเกสเอาไว้อย่างเหนียวแน่น จนตอนนี้ขายดิบขายดี กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปอีกหนึ่งเช็กอิน
อย่างที่บอกว่า ไนต์ไลฟ์ของลิสบอนนั้นครึกครื้นเป็นที่สุด โดยเฉพาะย่าน Bairro Alto ที่มีบาร์รายเรียง สามารถเลือกได้ว่าจะนั่งด้านในหรือด้านนอก คอยมองดูผู้คนเดินผ่าน หรือจะเลือกเข้าร้านอาหารสไตล์ทาปาส ซึ่งเมนูดังของสเปน แต่ที่นี่เรียกว่า Petiscos ที่เสิร์ฟอาหารมาเป็นจานเล็กๆ ไว้กินเป็นกับแกล้มคู่กับเครื่องดื่มอย่างไวน์ เบียร์ และค็อกเทล
ภาพ: Shutterstock
อ้างอิง: