เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ‘ลิซ่า BLACKPINK’ จะไม่ต่อสัญญาในการเป็นพรีเซ็นเตอร์กับค่ายโอเปอเรเตอร์เบอร์ 1 อย่าง AIS แม้ว่าจะยื่นเรื่องต่อไปแล้ว แต่ทางค่ายต้นสังกัดแจงว่า มีดีลใหญ่ที่อาจ ‘Conflict of Interest’ โดยมิได้เปิดเผยว่าเป็นแบรนด์อะไร
AIS ซึ่งปัจจุบันมีฐานลูกค้า 44.6 ล้านเลขหมาย แจ้งว่า ได้มีการยื่นข้อเสนอไปก่อนหน้านี้ประมาณ 3-4 เดือน ก่อนได้รับแจ้งยืนยันปฏิเสธการต่อสัญญาของ ลิซ่า จาก YG Entertainment เนื่องจากมีดีลกับรายใหญ่ที่มี Conflict of Interest กับ AIS
“ลิซ่าร่วมงานกับ AIS และเป็นตัวแทนของเราในการสื่อสารถึงความตั้งใจของ AIS ในการพัฒนาคุณภาพเครือข่ายทั้ง 4G และ 5G ที่ดีที่สุดเพื่อประเทศ ไปในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าและผู้บริโภคทุกกลุ่ม รวมไปถึงกลุ่มแฟนคลับของลิซ่าในต่างประเทศด้วย ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จและสร้างการรับรู้ได้อย่างดี” ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Lisa Effect: จาก Celine ถึงพลาญชัยหมูกระทะ เจาะปรากฏการณ์จับอะไรก็ ‘ปัง’ ของ ‘ลิซ่า BLACKPINK’
- ไตรมาสแรกท้าทายอย่างรอบด้าน ทำรายได้ AIS ลดลงเล็กน้อย ย้ำลงทุน 3-3.5 หมื่นล้าน ขยาย 5G ให้ได้ 85% ของประชากรทั้งประเทศ
- ทำไม AIS ถึงคว้า ‘เทนนิส พาณิภัค’ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก 2020 มาเป็น ‘แบรนด์แอมบาสเดอร์’ ประกบซูเปอร์สตาร์อีกนับ 10 คน
แหล่งข่าวที่อยู่ในแวดวงเอเจนซีให้ข้อมูลกับ THE STANDARD WEALTH ว่าหากต้องการจ้างลิซ่ามาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์จะอยู่ที่ประมาณ 1-2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34-67 ล้านบาท ซึ่งเป็นแค่ ‘ค่าตัว’ ยังไม่รวมรายจ่ายอื่นๆ อีก
“ราคาดังกล่าวถือเป็นราคาเบื้องต้นเท่านั้น บทสรุปแล้วจะต้องจ่ายที่เท่าไรก็อยู่ที่เงื่อนไขที่ตกลงกับค่าย เช่น แบรนด์ที่จะจ้างนั้นอยู่ในอุตสาหกรรมที่แข่งขันสูง ราคาก็อาจเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะค่ายต้องคิดค่าเสียโอกาสของศิลปินด้วย” แหล่งข่าวกล่าว “แต่หากต้องการจ้างทั้งวง ราคาก็จะเพิ่มไปประมาณ 30-40%”
เป็นที่ทราบกันดีว่าในหลายปีที่ผ่านมา วงการเพลงเกาหลีเติบโตและมีอิทธิพลต่อวงการเพลงระดับโลกเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ศิลปินเกาหลีหลายวงเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมสูงตามไปด้วย
โดยนอกจากความสามารถและรูปลักษณ์ที่สร้างความชื่นชอบและประทับใจกับแฟนคลับแล้ว ศิลปินเกาหลียังมีอิทธิพลในการสร้างความสนใจและกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมระหว่างแฟนคลับอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นการที่ AIS ดึงศิลปินเกาหลีเข้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้น เพื่อช่วยเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูทันสมัยตามกระแสโลก อีกทั้งยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้เป็นแบรนด์ระดับสากลยิ่งขึ้นอีกด้วย
สำหรับ AIS ได้มีการดึงศิลปินเกาหลีเชื้อสายไทยอย่าง ‘ลิซ่า BLACKPINK’ และ ‘แบมแบม GOT7’ มาเป็นตัวแทนในการสื่อสารภาพลักษณ์แบรนด์ AIS ในหลายๆ ด้านดังนี้
- สะท้อนภาพลักษณ์ความแข็งแกร่งและความสำเร็จระดับโลกของแบรนด์ สะท้อนถึงภาพลักษณ์แบรนด์ที่ AIS ยืนหนึ่งเป็นแบรนด์โทรคมนาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ทำให้ลูกค้าได้เห็นถึงบทบาทของทั้งแบรนด์และพรีเซ็นเตอร์ที่ต่างแสดงศักยภาพจนเป็นที่ยอมรับในระดับโลก และด้วยฐานแฟนคลับของลิซ่าและแบมแบมที่มีอยู่ทั่วโลก จะยิ่งสร้างพลังให้เกิดการรับรู้ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ในวงกว้างมากขึ้น ส่งเสริมให้แบรนด์ AIS เป็นที่รู้จักในระดับโลกได้อย่างดีผ่านการแชร์และการสร้างกระแสของแฟนคลับ
- ทำให้ AIS เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ทุกเพศ ทุกวัย เนื่องจากลิซ่าและแบมแบมถือเป็น Person of Consequence หรือบุคคลที่มีพลังกว้างไกลและขยายผลได้อย่างรวดเร็วในโลกโซเชียล ทาง AIS จึงมั่นใจว่าลิซ่าและแบมแบมจะมีพลังสื่อสารเข้าถึงคนทุกเจเนอเรชันได้มากที่สุด ทั้งพลังด้าน Brand Awareness ที่ก่อให้เกิดการรับรู้ไปทั่วโลก จนไปถึง Brand Engagement กับลูกค้าโดยเฉพาะบนช่องทางออนไลน์
“เมื่อ AIS ปล่อยแคมเปญออกไปจะมี Engagement และ Conversation โดยแบรนด์สามารถสร้างความสัมพันธ์อันดีและยาวนานผ่านการมอบสิทธิพิเศษและกิจกรรมพิเศษต่างๆ ให้กับเหล่าแฟนคลับ” ปรัธนากล่าว
ปัจจุบัน AIS ใช้พรีเซ็นเตอร์ 20 คน ภายใต้ #TEAMAIS5G ได้แก่ แบมแบม, แอลลี่, บิวกิ้น, พีพี, TRINITY, โอม ภวัต, นนน กรภัทร์, วิน เมธวิน, เจเจ, ต้าเหนิง, 4EVE และ ไอรีน Metaverse Human เน้นการสื่อสารในแคมเปญหลักคือการสื่อสารถึงเครือข่ายคุณภาพ AIS 5G และการนำประสบการณ์เครือข่ายคุณภาพ AIS 5G มาต่อยอดเป็นประสบการณ์ต่างๆ เพื่อผู้บริโภคและคนไทยทุกคน และนำมาต่อยอดในแคมเปญต่างๆ เช่น โอม นนน ต่อยอดใน GOMO 5G BY AIS และ #แดงเดือดที่ไทยต้องAIS หรือ เจเจ-ต้าเหนิง ที่ต่อยอดในแคมเปญ POWER OF AIS POINT
“โดยภาพรวมจะเห็นว่าแคมเปญ #TEAMAIS5G จะเน้นสื่อสารกับกลุ่มทีน แต่ก็จะเห็นว่ามีความหลากหลายของตัวแทนที่ตอบรับความหลากหลายของกลุ่มทีนเช่นกัน”
สำหรับพรีเซ็นเตอร์ท่านอื่นๆ AIS ก็ยังมีการร่วมงานกันโดยมีลักษณะเน้นไปที่แคมเปญเฉพาะ เช่น เวียร์ ศุกลวัฒน์ ในแคมเปญ AIS Fibre ที่ยังมีการทำการสื่อสารออกมาอย่างต่อเนื่อง หรือกลุ่มศิลปินไอดอลอย่าง BNK48 ได้แก่ เจน, มิวสิค, ปัญ, โมบายล์, เนย และ เจนนิษฐ์ ที่จะมาร่วมสร้างประสบการณ์การเชื่อมต่อที่ไร้ขีดจำกัดให้กับผู้บริโภคและคนไทยทุกคน
อย่างไรก็ตาม AIS ยืนยันถึงการเดินหน้าขยายโครงข่าย 5G ได้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัด คิดเป็น 78% ของพื้นที่ประชากร และตั้งเป้าว่าจะขยายให้ได้ถึง 85% ภายในปีนี้
เพื่อให้ลูกค้าเชื่อมั่นว่า AIS ลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล โดยเฉพาะโครงข่ายอัจฉริยะ 5G ที่ AIS เชื่อว่าจะเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญในอนาคตอันใกล้นี้ต่อการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่พฤติกรรมของผู้บริโภคไปจนถึงบริบททางสังคม และการเติบโตของประเทศด้วยระบบเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ Digital Economy
ภาพ: Han Myung-Gu / WireImage