ลิโอเนล เมสซี อาจเปลี่ยนใจอยู่กับบาร์เซโลนาต่อไปอีก 1 ปี หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกับทางสโมสร รวมถึงปรึกษา ฮอร์เก เมสซี ผู้เป็นทั้งพ่อและเอเจนต์ โดยเหตุผลสำคัญคือ การที่ไม่อยากให้เรื่องถึงขั้นใช้การต่อสู้ทางกฎหมายเพื่อย้ายออกจากทีม
ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังวัย 33 ปี แจ้งต่อบาร์ซาอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านระบบ Burofax ว่าต้องการที่จะย้ายออกจากทีมทันที โดยใช้เงื่อนไขพิเศษในการย้ายอย่างอิสระที่ทำไว้กับสโมสร ซึ่งทางด้านบาร์ซายืนกรานว่า เงื่อนไขดังกล่าวใช้ไม่ได้ หากจะย้ายออกจากทีมจะต้องจ่ายเงินค่าปลดสัญญาที่ 700 ล้านยูโรเท่านั้น ทำให้เกิดการเจรจาขึ้นตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา ก่อนจะมีการพูดคุยกันต่อเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดีที่ 3 กันยายน)
ในการพูดคุยล่าสุด ทางด้านบาร์ซายืนยันว่า จะไม่เจรจาใดๆ ในเรื่องของการย้ายออกจากสโมสรของเมสซี และดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ที่อยู่กับสโมสรมากว่า 20 ปีจะต้องอยู่กับทีมจนครบสัญญาในปี 2021 ซึ่งทำให้เมสซีเริ่มเกิดความลังเลใจ โดยรายงานของ Marca สำนักข่าวสเปนระบุว่า กัปตันทีมบาร์ซาไม่ต้องการใช้ทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่คือ การนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อแตกหักกันกับสโมสร แม้จะเชื่อว่าจะเป็นฝ่ายชนะหากต่อสู้ในชั้นศาลจริง
นอกจากนี้สโมสรที่อยู่ในข่ายที่สนใจอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และปารีส แซงต์ แชร์กแมง เริ่มเกิดอาการลังเล โดยทั้งสองสโมสรต้องการรอให้เมสซีพูดคุยกับบาร์ซาให้รู้เรื่องก่อน เนื่องจากไม่ต้องการถูกโยงเข้าสู่การต่อสู้ในชั้นศาลด้วย
ทางด้าน โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสรบาร์ซา ได้เสนอสัญญาฉบับใหม่ที่จะยืดระยะเวลาออกไปจากเดิม 2021 เป็นปี 2022 ซึ่งเป็นสัญญาฉบับที่มีการพูดคุยกันไว้เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ โดยในเงื่อนไขจะมีการอนุญาตให้เมสซีย้ายออกจากทีมได้ตามต้องการหลังจบฤดูกาลหน้า แต่หากเมสซีไม่ต่อสัญญาและอยู่ครบสัญญาเดิมในปีหน้า ก็จะได้รับเงินโบนัสก้อนโตจากการอยู่จนครบสัญญาถึง 70 ล้านยูโร
ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวจากสเปนว่า ตำรวจแคว้นคาตาลันได้ตั้งข้อหาบาร์โตเมว เกี่ยวกับการคอร์รัปชันในการว่าจ้างบริษัท 13 Ventures เอเจนซีที่ทำหน้าที่ด้านโซเชียลมีเดียของสโมสรด้วยงบถึง 1 ล้านยูโร ซึ่งสูงกว่าราคาตลาด 6 เท่า
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
