ทางการอินเดียรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คน จากผลกระทบของฟ้าผ่าที่เกิดขึ้นในหลายสิบเขตของรัฐพิหารและรัฐอุตตรประเทศ ทางตอนเหนือของประเทศ เมื่อวานนี้ (25 มิถุนายน)
โดยในรัฐพิหาร มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 83 คน บาดเจ็บกว่า 20 คน จากฟ้าผ่าที่เกิดขึ้นใน 22 เขตทั่วทั้งรัฐ ในจำนวนนี้ 13 คน ถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตในเขตโคปาลคัญชะ ซึ่งกรมจัดการภัยพิบัติแห่งรัฐพิหารเปิดเผยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่าครั้งนี้สูงที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ในรัฐอุตตรประเทศที่อยู่ใกล้เคียง ทางการยืนยันว่าพบผู้ถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 คน โดยฟ้าผ่าและพายุฝนฟ้าคะนองที่เกิดขึ้น ยังก่อให้เกิดความเสียหายแก่ต้นไม้และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ด้วย
ทางด้านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ได้ทวีตข้อความหลังทราบข่าว แสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนี้ พร้อมยืนยันว่าทางการกำลังเร่งส่งความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ประสบภัย
ขณะที่ทางการรัฐพิหารประกาศยืนยันว่าจะจ่ายเงินชดเชยให้แก่ครอบครัวผู้ถูกฟ้าผ่าเสียชีวิต รายละ 5,300 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 163,000 บาท
ขณะเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นประกาศเตือนสภาพอากาศเลวร้ายและฟ้าผ่าเช่นนี้ว่าจะยังคงเกิดขึ้นอีก ซึ่งทางการได้เตือนไปยังประชาชนให้ระมัดระวังและหลบอยู่ภายในบ้านหรือที่ร่มแล้ว
ที่ผ่านมา อินเดียและหลายประเทศในเอเชียใต้มักเผชิญฟ้าผ่ารุนแรงบ่อยครั้งในช่วงฤดูมรสุม ระหว่างเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ข้อมูลจากสำนักงานบันทึกอาชญากรรมของอินเดีย รายงานว่ามีผู้ถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตถึง 2,885 คน ในปี 2017 และ 2,357 คน ในปี 2018 ซึ่งกรณีการเสียชีวิตจากฟ้าผ่า บ่อยครั้งมักเกิดกับเกษตรกรที่ออกมาทำงานในไร่นา เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับเพาะปลูกพืชผลในช่วงใกล้ฤดูมรสุม
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: