เชื่อว่า BLINK ถ้าได้ดูสารคดี BLACKPINK: Light Up the Sky แล้วน้ำตาต้องมา! เพราะขนาดว่าคนดูทั่วไปที่ไม่ได้รู้จักพวกเธอมากนัก ยังจำชื่อ เจนนี่ ลิซ่า จีซู และโรเซ่ ได้ขึ้นใจหลังดูจบ ด้วยเหตุผลว่าผู้กำกับ แคโรไลน์ ซูห์ ถ่ายทอดแง่มุมที่สะท้อนความเป็นคนธรรมดา ทำให้เรื่องราวใกล้ตัวคนดูมากขึ้น ทั้งยังได้เข้าใจข้างในจิตใจของหญิงสาวสี่คน ที่ไม่คิดไม่ฝันว่าวันหนึ่งจะกลายมาเป็นต้นแบบให้ผู้คนมากมาย และยืนอยู่ในจุดที่แสงไฟจับจ้องที่สุด
BLACKPINK: Light Up the Sky คือสารคดีเล่าเรื่องราวของศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปที่ดังที่สุดในตอนนี้ และเชื่อว่าผู้คนมากกว่า 193 ประเทศทั่วโลกที่สารคดีออกอากาศผ่านทาง Netflix คงจะมีคำถามคล้ายๆ กัน คือพวกเธอดังขนาดนี้ได้อย่างไร มีแฟนอยู่แทบทุกชาติทุกภาษา ชีวิตเปลี่ยนไปขนาดไหน บรรยากาศหลังเวทีเป็นอย่างไรในวันขึ้นโชว์ Coachella หนึ่งในเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก
สารคดีเลือกเดินตามเรื่องราวของวงตั้งแต่เริ่มต้น เมื่อ YG Entertainment วางแผนสร้างวงผู้หญิงอีกครั้ง หลังความสำเร็จของ 2NE1 ด้วยการเฟ้นหาเด็กผู้หญิงจากหลายประเทศไปเป็นศิลปินฝึกหัด จากผู้หญิงนับสิบๆ คน ฝึกซ้อมอย่างหนักตลอดเวลาหลายปี ผ่านการแข่งขัน โชว์พลัง เฟ้นหาเคมีที่เหมาะสม จนเหลือสี่สมาชิกที่ได้เดบิวต์ในปี 2016
“เราต้องทำให้ได้ตามมาตรฐานของเขาทุกๆ ด้าน ซ้อม 14 ชั่วโมงต่อวัน” – เจนนี่
“ต้องเรียนเต้น 3-4 คลาสและซ้อมทุกวัน ต้องเรียนร้องเพลงกับครูอีก 2-3 คน เป็นช่วงที่หนักมากๆ” – จีซู
“ทุกๆ สิ้นเดือน ผู้บริหารและโปรดิวเซอร์ทุกคนจะเข้ามา…หลังการประเมินเราจะถูกให้คะแนน คนไหนได้เอ คนไหนได้บี และคนไหนได้ซี จำได้ว่าต้องส่งเพื่อนสนิทของเรากลับบ้านทุกเดือน เพราะพวกเธอถูกคัดออกจากการทดสอบ” สี่สาว BLACKPINK เล่าย้อนไปถึงการเป็นศิลปินฝึกหัด ที่พวกเธอใช้เวลาแต่ละวันไปกับการฝึกซ้อมซ้ำๆ และแทบจะไม่มีช่วงชีวิตวัยรุ่นในแบบเด็กสาวคนอื่นๆ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่พวกเธอยินดีแลกมากับความฝันที่หวังไว้
ความที่สมาชิกล้วนเติบโตจากคนละวัฒนธรรมจากการใช้ชีวิตในประเทศต่างๆ แต่ด้วยอายุที่ไล่เลี่ย ความรักในดนตรี และความมุ่งมั่นอย่างเหลือเชื่อ พวกเธอจึงกลายเป็นทีมเวิร์กที่ลงตัว ทั้งยังมีความโดดเด่นในคาแร็กเตอร์ของตัวเอง จีซู พี่สาวคนโตของวงที่มีไหวพริบและอารมณ์ขัน, เจนนี่ แรปเปอร์สาวที่มีบุคลิกสุดเฟียร์ซบนเวที แต่กลับมีน้ำเสียงอันนุ่มนวล, โรเซ่ เด็กสาวจากออสเตรเลียที่มีน้ำเสียงไพเราะเป็นเอกลักษณ์ และ ลิซ่า ราชินีแห่งการเต้น ผู้สร้างสีสัน เสียงหัวเราะ และเป็นพลังงานบวกให้กับเพื่อนร่วมวงเสมอ
ความพิเศษของสารคดี BLACKPINK: Light Up the Sky คือการเปิดเผยให้เราได้เห็นแง่มุมที่บอบบาง และแสนจะเป็นผู้หญิงปกติธรรมดาของสี่สาว เจนนี่ ลิซ่า จีซู และโรเซ่ ในแบบที่ไม่คาดคิดว่าศิลปินเกาหลีที่อยู่หนาแน่นใต้กฎเหล็กของค่าย จะเผยให้เห็นตัวตนออกมาอย่างจริงใจ นอกจากนี้ ภายใต้รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ที่ได้เห็นผ่านตามาตลอด ข้างในของพวกเธอก็มีเรื่องที่สั่นสะเทือนไม่ต่างจากคนอื่นๆ
“จำได้ว่าเดบิวต์แล้วหนูกลับไทยครั้งแรก เพราะว่าเด็กๆ ไทยเขาเห็นว่าหนูเป็นคนไทย…เขาอยากเป็นเหมือนพี่ลิซ่า อยากเป็นแบบพี่ลิซ่า…แต่คือจริงๆ แล้ว หนูเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าหนูเป็นตัวอย่างที่ดีพอไหม หนูจะต้องทำอย่างไรไม่ให้เขาผิดหวัง” ลิซ่า ตอบภาษาไทยในประเด็นนี้ แววตามองเห็นความรู้สึกที่ปลาบปลื้มปะปนความไม่มั่นใจ เพราะเอาเข้าจริงๆ เธอก็เป็นเด็กผู้หญิงที่รักการเต้นรำ จนได้ไปเป็นศิลปินฝึกหัดที่โซลตอนอายุ 14 ปี ได้เดบิวต์ เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และกลายเป็นความฝันของเด็กผู้หญิงมากมาย น้ำหนักความคาดหวังจึงเพิ่มมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่ต่างกัน สมาชิกในวงล้วนมีช่วงเวลาที่หนักหนา กับชื่อเสียง เงินทอง และความสำเร็จที่ถาโถมเข้ามาในวันที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของทุกสิ่ง การที่เราได้รู้จักตัวตนพวกเธอผ่านสารคดีเรื่องนี้ ไม่ต่างจากการมองเห็นพลังผู้หญิงที่สื่อสารออกมา ผู้หญิงธรรมดาที่มีความสุขก็ยิ้ม มีความทุกข์รับมือไม่ไหวก็ร้องไห้เหมือนๆ กัน
“บางวันเราก็เหมือนมนุษย์ปกติที่มีความสุขสุดๆ บางวันเราก็เศร้า” – เจนนี่
“ฉันรักการอยู่บนเวที เพราะเป็นเวลาที่ฉันรู้สึกมีชีวิตชีวาที่สุด แต่พอกลับมาที่โรงแรม ฉันกลับรู้สึกว่างเปล่า…และนั่นเป็นตอนที่ฉันรู้ตัวว่าคิดถึงบ้าน” -โรเซ่
ไม่ใช่แค่ในพาร์ตของตัวศิลปิน สารคดียังเปิดมุมมองเรื่องงานเพลงที่มีหัวเรี่ยวหัวแรงหลักคือ Teddy Park โปรดิวเซอร์ของ BLACKPINK ที่ทำงานด้วยกันตั้งแต่เปิดตัวเพลง Boombayah และ Whistle (2016) มาจนถึงสตูดิโออัลบั้ม The Album (2020) เราได้เห็นการทำงานในห้องอัดที่เปิดอิสระให้พวกเธอในการสร้างสรรค์ การทดลอง การทำซ้ำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และเห็นมิติอีกแง่มุมของ BLACKPINK ที่เป็นคนดนตรีตัวจริง ไม่ใช่แค่เกิร์ลกรุ๊ปที่สวยงามแค่เพียงฉากหน้า
Teddy Park มีส่วนสำคัญในการสร้างพวกเธอให้กลายเป็น BLACKPINK อย่างในทุกวันนี้ ทั้งเรื่องดนตรี และการเป็นพี่ชายที่พร้อมสนับสนุนน้องสาวให้เดินทางไปจนสุดปลายความฝัน ภาพสี่สาวกระโดดหันหลังใส่กรอบติดอยู่ในห้องอัด เหมือนเป็นคำอธิบายกลายๆ ว่าเขาคือคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของพวกเธอ
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือการปูพื้นให้คนดูค่อยๆ เข้าใจในการเกิดขึ้นของ BLACKPINK การได้เห็นความยากลำบากในการฝึกฝน รวมถึงพัฒนาการของดนตรี K-Pop ความสำเร็จที่เกิดจากการทุ่มเททำงานอย่างหนักจากผู้คนในอุตสาหกรรมดนตรี และทุ่มทุกอย่างที่ตัวเองมีลงไปในนั้นหมดแล้ว สิ่งนี้ทำให้เห็นชัดเจนว่าดนตรี K-Pop ไม่ได้กลายมาเป็นแนวเพลงสากลของโลกยุคใหม่เพราะความบังเอิญใดๆ
อย่างหนึ่งที่ BLACKPINK บอกเอาไว้ในสารดคีเรื่องนี้ คือการ “สนุกไปกับมัน” สนุกไปกับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นระหว่างทาง พวกเธอเลือกจะสนุกไปกับมัน หัวเราะ ร้องไห้ไปกับมัน และพยายามเป็นตัวเองเพื่อส่งต่อความฝัน แรงบันดาลใจ พลังงานที่สดใสไปให้ถึงผู้คนทั่วโลก
คุณจะเป็น BLINK หรือไม่รู้จัก BLACKPINK เลยก็ตาม การได้ชมสารคดี BLACKPINK: Light Up the Sky จะเป็นช่วงเวลาที่ไฟในตัวพลุ่งพล่าน สัมผัสได้ถึงแรงผลักดันกันและกันของพวกเธอ ที่แข็งแรง ส่งต่อมาถึงใจเราได้ ทั้งยังเป็นภาษาสากลนอกเหนือความเป็นเกาหลี เอเชีย ตะวันตก หรืออะไรไปแล้ว นี่แหละคือ BLACKPINK สีชมพูที่เข้มแข็งตัวแทนหญิงสาวแห่งโลกยุคนี้
คลิปวิดีโอ: เมื่อ BLACKPINK ได้ดูตัวอย่างภาพยนตร์สารคดี BLACKPINK: Light Up the Sky อย่างเป็นทางการ
ภาพ: Netflix, YG Entertainment
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
แคโรไลน์ ซูห์ ผู้กำกับภาพยนตร์สารคดี BLACKPINK: Light Up the Sky เธอเป็นผู้ผลิตภาพยนตร์สารคดีอิสระ ทำงานในวงการภาพยนตร์ โทรทัศน์ และโฆษณา มากมาย ในชีวิตการทำงานกว่า 20 ปี ซูห์ได้กำกับ โปรดิวซ์ และเป็นผู้อำนวยการสร้างซีรีส์และภาพยนตร์จำนวนไม่น้อย โดยผลงานกำกับเรื่องแรกของเธอคือภาพยนตร์สารคดี Frontrunners ในปี 2008
สำหรับการร่วมงานกับ Netflix ซูห์ได้ดัดแปลงหนังสือขายดีของ ซามิน นอสราต เรื่อง Salt, Fat, Acid, Heat ร่วมกับ Jigsaw Productions ของ อเล็กซ์ กิบนีย์ ให้กลายเป็นสารคดีซีรีส์ความยาว 4 ตอน และเธอยังได้ร่วมกับ Jigsaw ในการสร้าง-กำกับสารคดีสั้นเรื่อง The 4%: Film’s Gender Problem ให้กับ Epix เกี่ยวกับการขาดแคลนผู้กำกับหญิงในวงการฮอลลีวูด
นอกจากนี้ ซูห์ยังมีผลงานกับ RadicalMedia ในฐานะผู้อำนวยการสร้างและผู้กำกับสารคดีซีรีส์ Iconoclasts ออกอากาศทาง Sundance Channel