ความรักเป็นสิ่งที่งดงาม แต่บางครั้งก็นำความเจ็บปวดมาให้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราพบว่าตัวเองไม่ใช่คนที่เขารัก ไม่ว่าจะทำดีแค่ไหนก็ไม่เคยเพียงพอ ความรู้สึกนี้ช่างหนักหน่วงและสร้างบาดแผลในใจได้ลึกเหลือเกิน แล้วถ้าเราเองตกอยู่ในสถานการณ์เหล่านี้เสียเองจะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจความรักในโลกของความจริงที่ไม่เพ้อฝัน เพื่อที่เราจะได้กล้าดึงใจตัวเองกลับมาอยู่ในที่ที่เหมาะสมและไม่เจ็บปวดจนเกินไป LIFE จะพาผู้อ่านไปค้นหาวิธีเหล่านั้นพร้อมๆ กัน
จากทฤษฎีสามเหลี่ยมแห่งความรักของ Robert Sternberg อาจารย์ภาควิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยเยล ความรักประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก นั่นคือ ความสนิทสนม ความใคร่หลง และความผูกพัน หากขาดองค์ประกอบใดไป ความสัมพันธ์ก็ลงตัวได้ยาก
นอกจากนี้ความรักยังเกี่ยวข้องกับสารเคมีในสมองอย่างโดพามีนที่ให้ความรู้สึกพึงพอใจ อีพิเนฟรินที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นเมื่อเจอคนที่ชอบ และออกซิโทซินที่เสริมสร้างความผูกพัน อย่างไรก็ตามหากอีกฝ่ายไม่ได้มีความรู้สึกเดียวกัน สารเคมีเหล่านี้ก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้
เมื่อพบว่าไม่ว่าจะทุ่มเททำดีเพียงใดก็ไม่อาจเปลี่ยนใจอีกฝ่ายได้ สิ่งที่ควรทำคือหยุดและถอยออกมา อย่าฝืนความรู้สึกตัวเองด้วยความหวังลมๆ แล้งๆ การพยายามเกินหน้าเกินตาจะยิ่งสร้างความกดดันและทำให้รู้สึกแย่ลงเรื่อยๆ จนอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตในระยะยาว
แทนที่จะมุ่งความสนใจไปที่การเอาใจคนที่ไม่ได้รักเรา ลองหันมารักตัวเองให้มากขึ้น ใส่ใจตัวเอง และทำในสิ่งที่ทำให้มีความสุข ไม่ว่าจะเป็นงานอดิเรก การเดินทางท่องเที่ยว หรือการใช้เวลากับคนที่รักและเข้าใจเรา การเรียนรู้ที่จะเติมเต็มตัวเองและพึ่งพาความสุขจากภายในจะช่วยให้เราแข็งแกร่งและมีคุณค่าในสายตาตัวเองมากขึ้น
จงจำไว้ว่าคุณคือคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องได้รับการยอมรับหรือเป็นที่รักของใครสักคน ขอเพียงแค่เรารักตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม เข้าใจคุณค่าของตัวเอง และเดินหน้าต่อไปบนเส้นทางของตัวเองอย่างมั่นใจ สุดท้ายแล้วความสุขและรักแท้จะเป็นสิ่งที่เราค้นพบได้จากข้างในเสมอ
เมื่อเราพบว่าตัวเองไม่ใช่คนที่เขารัก ไม่ว่าจะทำดีแค่ไหนก็ไม่เคยเพียงพอ ความรู้สึกนี้ช่างหนักหน่วงและสร้างบาดแผลในใจได้ลึกเหลือเกิน
จากทฤษฎีสามเหลี่ยมแห่งความรักของ Robert Sternberg ชี้ว่า ความรักประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก คือ ความสนิทสนม ความใคร่หลง และความผูกพัน หากขาดองค์ประกอบใดไป ความสัมพันธ์ก็ลงตัวได้ยาก
ความรักยังเกี่ยวข้องกับสารเคมีในสมองอย่างโดพามีนที่ให้ความรู้สึกพึงพอใจ อีพิเนฟรินที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นเมื่อเจอคนที่ชอบ
และยังมีสารออกซิโทซินที่เสริมสร้างความผูกพัน หากเรารักใครแล้วอีกฝ่ายไม่ได้มีความรู้สึกเดียวกัน สารเคมีเหล่านี้ก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้
หากพบว่าการที่เรายอมทุ่มเททำดีเพียงใดก็ไม่อาจเปลี่ยนใจอีกฝ่ายได้ สิ่งที่ควรทำคือหยุดและถอยออกมา อย่าฝืนความรู้สึกตัวเองด้วยความหวังลมๆ แล้งๆ เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตในระยะยาว
แทนที่จะมุ่งความสนใจไปที่การเอาใจคนที่ไม่ได้รักเรา ลองหันมารักตัวเองให้มากขึ้น ใส่ใจตัวเอง และทำในสิ่งที่ทำให้มีความสุข
เรียนรู้ที่จะเติมเต็มตัวเองและพึ่งพาความสุขจากภายใน จะช่วยให้เราแข็งแกร่งและมีคุณค่าในสายตาตัวเองมากขึ้น
จงจำไว้ว่าคุณคือคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องได้รับการยอมรับหรือเป็นที่รักของใครสักคน
จงเดินหน้าต่อไปบนเส้นทางของตัวเองอย่างมั่นใจ สุดท้ายแล้วความสุขและรักแท้จะเป็นสิ่งที่เราค้นพบได้จากข้างในเสมอ
อ้างอิง: