กิน นอน เสพศิลป์ อิ่มวัฒนธรรม ที่ The StandardX, Bangkok Phra Arthit

เป็นที่ฮือฮาเมื่อ The StandardX แบรนด์รุ่นน้องของเชนโรงแรมดีไซน์เก๋อย่าง The Standard ที่มีสาขาแรกในเมลเบิร์น ขยายสาขามายังประเทศไทยภายใต้ชื่อ The StandardX, Bangkok Phra Arthit เมื่อได้มาสัมผัสด้วยตัวเองก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมถึงเลือกมาปักหลักในย่านเมืองเก่าของกรุงเทพฯ อย่างถนนพระอาทิตย์

Why here?

หากเปรียบเป็นคน The Standard คงเป็นภาพของสาวกแฟชั่นนิสต้าสไตล์จัดจ้านที่สนุกกับปาร์ตี้และสีสันในชีวิต ในขณะที่ The StandardX คือคนที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย แต่ยังคงให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะเรื่องของศิลปะและวัฒนธรรม

เมื่อเดินเข้ามาในตัวโรงแรมเลยอาจเข้าใจผิดในแวบแรกได้ว่าเราเดินเข้ามาในนิทรรศการงานศิลป์ ซึ่งเป็นความตั้งใจของทางโรงแรมที่จะจัดแสดงทั้งนิทรรศการหมุนเวียนและคอลเล็กชันถาวรจากศิลปินท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงในระดับสากล

โดยประเดิมกันที่ผลงานของ Gongkan และ MR.KREME สองศิลปินมากความสามารถ ที่ร่วมออกแบบลวดลายตกแต่งอาคารทั้งด้านริมถนนและริมแม่น้ำของโรงแรม ด้วยผลงานที่เป็นเอกลักษณ์และสะดุดตา

นอกจากนี้โรงแรมยังจะเปิดตัวโปรแกรม ศิลปินพำนัก (Artist-in-Residence) ซึ่งจะเป็นศูนย์บ่มเพาะศิลปินหน้าใหม่ พร้อมด้วยการจัดเวิร์กช็อป อีเวนต์ และการเสวนา ที่จะสร้างสรรค์การแลกเปลี่ยนทางศิลปะระหว่างแขกผู้เข้าพักและชุมชนท้องถิ่นไปในตัว

ในบริเวณอันใกล้ก็ยังมี The Box ช็อปขายของเก๋ๆ ที่เน้นงานคราฟต์ต่างๆ ตั้งแต่ของใช้ในชีวิตประจำวัน ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม ไปจนถึงสินค้าท้องถิ่น

ถัดมาก็จะเจอกับมุมร้านกาแฟเล็กๆ ที่ใช้เมล็ดกาแฟท้องถิ่นคุณภาพเยี่ยม และยังมีเบเกอรีที่หลากหลายให้บริการ

ที่นี่มีทั้งหมด 62 ห้องพัก ขนาดตั้งแต่ 30-46 ตารางเมตร แบ่งเป็น 4 ประเภท ตั้งแต่ Cozy King, Cozy Twin, King on the River ไปจนถึง King of Kings

ห้องประเภท King of Kings

ซึ่งห้องที่เราพักคือประเภท Cozy King ใหญ่เหลือเฟือสำหรับ Solo Traveler ไวบ์ในห้องถูกออกแบบในสไตล์มินิมัลแต่มีทุกอย่างครบ เตียงคิงไซส์, มุมมินิบาร์ที่มีกาแฟและชาเป็นของแบรนด์ The StandardX, แก้วทำมือจากขอนแก่น กาสำหรับดริปกาแฟจากน่าน และทีวีขนาด 43 นิ้ว

ในส่วนของห้องน้ำมีผลิตภัณฑ์อาบน้ำจากแบรนด์กรีนบิวตี้อย่าง Davines และ Amenities อื่นๆ ครบครัน

มีมุมโต๊ะทำงาน ตอบโจทย์สายแบกงานไปทำทั่วราชอาณาจักร ซึ่งโต๊ะที่เห็นยังเป็นโต๊ะที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล

นอกจากนี้ยังมีระเบียงส่วนตัวให้ออกไปนั่งเสพบรรยากาศเพลินๆ

ลองสำรวจท้องฟ้าแล้วเห็นได้ว่าทุกอย่างเป็นใจให้ออกไปเชยชมบรรยากาศรอบโรงแรม เลยไม่รอช้า กดลิฟต์ลงไปล็อบบี้ กระโดดพุ่งตัวขึ้นตุ๊กตุ๊กทัวร์เมือง

เชื่อเถอะว่าการได้นั่งปล่อยใจให้ลมพัดตีตัวไปตลอดการทอดสายตาชมเสน่ห์ย่านเมืองเก่า อย่างเช่น วัดพระแก้วหรือศาลหลักเมือง ก็เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ควรลองไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง

ก่อนจะไปดื่มด่ำกับมื้อค่ำ ขอแวะไปจิบอะไรเย็นๆ ที่ The Roof บาร์รูฟท็อปของทางโรงแรมกันสักหน่อย ที่นี่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรสชาติอันจัดจ้านของเม็กซิโก จึงไม่แปลกที่อาหารกินเล่นรวมถึงเมนูเครื่องดื่มถึงได้สะท้อนกลิ่นอายความเป็นเม็กซิกัน แต่ยังคงความเข้าถึงง่ายอยู่

ถัดจากตัวบาร์ยังมีโซนสระน้ำที่เราสามารถไปแช่ตัว หรือจะไปยืนทำคอนเทนต์บริเวณรอบๆ ยามพระอาทิตย์ตกก็ได้

กดลิฟต์ลงมาชั้นล่างสุด แล้วลัดเลาะออกจากล็อบบี้มายังด้านหลังของโรงแรม ก็จะพบกับร้านอาหารไทย BANG (แบง) ซึ่งนำเมนูอาหารไทยดั้งเดิมยอดนิยมมาตีความใหม่ผ่านการใช้วัตถุดิบท้องถิ่น

ภาพ: The StandardX, Bangkok Phra Arthit

บอกได้เลยว่าต่อให้คุณจะไม่ได้มาพักแรมที่นี่ ก็ขอให้แวะมาลิ้มลองดินเนอร์ของที่นี่สักครั้ง แล้วจะติดใจจนเก็บมาคิดถึงซ้ำๆ แบบเรา

เมนูที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ โรตีไก่ย่างกอ เสิร์ฟร้อนๆ เท็กซ์เจอร์ความนุ่มของแป้งเข้ากับไก่ที่ย่างมาฉ่ำๆ อย่างลงตัว, ส้มตำเจ้าพระยา ที่แค่เสิร์ฟมาก็ได้เสียงฮือฮาจากผู้ร่วมโต๊ะทุกชีวิต, น้ำพริกลงเรือ รสแซ่บจัดจ้านที่กินแล้วหยุดไม่ได้ และอีกมากมายที่ควรต้องมาเก็บให้ครบ

อิ่มท้องแล้วจะเข้านอนเลยก็คงจะต้องพึ่งยาลดกรด เลยขอแวะไปกินลมชมวิวต่อกับการล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจากตัวร้านอาหารเราสามารถเดินไปยังโป๊ะขึ้นเรือได้ในไม่กี่ก้าว

ภาพ: The StandardX, Bangkok Phra Arthit

การล่องเรือยามค่ำคืนเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เราควรมาสัมผัสด้วยตัวเองให้ได้สักครั้ง วัดวาอารามที่ว่าสวยแล้ว ตกดึกยิ่งสวยมากขึ้นไปอีก ถือเป็นการส่งท้ายค่ำคืนได้อย่างสวยงาม

เชื่อว่าอาหารเช้าของโรงแรมน่าจะเป็นสิ่งที่ใครหลายคนเฝ้ารอ ของที่นี่จะเสิร์ฟในร้าน BANG ในรูปแบบอะลาคาร์ต แต่แขกทุกคนสามารถสั่งได้ไม่อั้นจนกว่าจะอิ่ม

หากวันไหนที่มีแขกเข้าพักถึง 20 คน ทางโรงแรมก็จะเตรียมไลน์บุฟเฟต์ไว้ให้ด้วย

เมนูอาหารเช้ามีทั้งสไตล์เอเชียนและเวสเทิร์น แต่มาทั้งทีแนะนำให้ลองทั้งสองแบบ อย่างเช่น BANG Egg Benedict ไข่ซูวีด์สูตรพิเศษ ท็อปด้วยกะเพราไก่และซอสฮอลแลนเดสฉ่ำๆ เหมือนได้กินเบเนดิกต์ในเวอร์ชันไทยที่อร่อยไปอีกแบบ

Char Kway Teow ก๋วยเตี๋ยวผัดเส้นใหญ่สไตล์สิงคโปร์หอมเตะจมูก ตักกินกับกุนเชียงชิ้นเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ใต้กองทัพเส้นยิ่งอร่อย

Smoked Salmon Avocado Toast ซาวโดวจ์ท็อปด้วยแซลมอนรมควันและอะโวคาโด ใครที่เป็นบิ๊กแฟนของซาวโดวจ์บอกเลยว่าต้องสั่ง เพราะนี่เป็นสูตรลับของเชฟที่อบได้กรอบนุ่มหอมเนยกำลังดี ต่อให้อิ่มก็ต้องกินหมดชิ้น เพราะอร่อยจริงๆ

Worth it

เสพงานศิลป์ สร้างแพสชันใหม่ได้ทุกครั้งที่มาพัก
BANG ร้านอาหารไทยภายในโรงแรมที่สุดจะทำถึง
กิน ดื่ม เที่ยว ในย่านเมืองเก่าได้เต็มที่
ล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยาได้ใกล้แค่เอื้อม

Good for

ถ้าอินในเรื่องของศิลปะและวัฒนธรรม ที่นี่คือส่วนผสมที่ลงตัว ไวบ์ชิล สามารถคอนเน็กต์กับแหล่งท่องเที่ยวในย่านเมืองเก่าได้ในไม่กี่ก้าว ที่สำคัญคืออาหารไทยของโรงแรมอร่อยมาก รสชาติถูกปากคนไทยแน่นอน