ต้องบอกว่าเราเป็นคนหนึ่งที่ตั้งหน้าตั้งตารอรถไฟขบวนใหม่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ‘SRT Royal Blossom’ อดีตขบวน ‘Hamanasu’ จากฮอกไกโด ที่การรถไฟฯ บ้านเรารับมอบและนำมาชุบชีวิตใหม่ให้กลายเป็นขบวนรถไฟท่องเที่ยวหรูหรา และเปิดวิ่งอย่างเป็นทางการในเที่ยวปฐมฤกษ์ เส้นทางท่องเที่ยว กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี แบบ One Day Trip เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (17 สิงหาคม)
Why here?
ขบวนรถไฟสีแดงต่อพ่วงเข้ากับหัวรถจักร จอดรอผู้โดยสารอยู่ชานชาลาที่ 5 สถานีรถไฟหัวลำโพง ภายนอกแต่งแต้มด้วยสีแดงเบอร์รีคาดลายสีทอง ด้านหน้าและด้านข้างประดับสัญลักษณ์ดอกราชพฤกษ์ บนหน้าปัดนาฬิกาเลขโรมันที่เข็มนาฬิกาชี้ไปที่ตัวเลข 13 (XIII) วางคู่ตัวอักษรสีทอง ‘State Railway of Thailand Royal Blossom Since 2022’
ตู้ขบวน Hamanasu ได้รับมอบทั้งหมด 10 คัน แต่ปรับปรุงเสร็จเพียงไม่กี่คันเท่านั้น เราจึงเห็น SRT Royal Blossomเปิดให้บริการเพียงแค่ 5 คัน แบ่งออกเป็น Group Car ห้องโดยสารแบบกลุ่ม จำนวน 1 คัน ด้านในมีเพียง 4 ห้อง มีเก้าอี้นั่งแบบพิเศษ สามารถรองรับได้ห้องละ 4-6 คน ถ้าเป็นขบวนรถไฟปกติเทียบเท่ากับ First Class
ตามติดด้วย Passenger Car ห้องโดยสารแบบรวม จำนวน 3 คัน แต่ละคันนั่งได้ 48 ที่นั่ง มีสีเบาะแตกต่างกันไป ได้แก่ สีแดง สีเขียว และสีฟ้า พื้นรถไฟเป็นสีน้ำตาล ผนังเป็นไม้สนซีดาร์ ลักษณะที่นั่งมีทั้งแบบหันหน้าเข้าหาหน้าต่างเพื่อชมวิว และแบบเบาะหันหน้าเข้าหากันเพื่อทำกิจกรรมกลุ่ม
สุดท้าย Leisure Car หรือรถเสบียง ตั้งอยู่บริเวณหัวขบวนหรือท้ายขบวน ขึ้นอยู่กับหัวรถจักร ตู้นี้การรถไฟฯ แปลงรถให้กลายเป็นคาเฟ่เคลื่อนที่ เสิร์ฟเมนูชาและกาแฟหลากหลายเมนู
Worth it
ด้วยความเป็นรถไฟท่องเที่ยว ซึ่งเป็นโปรแกรมทัวร์ท่องเที่ยวที่จัดขึ้นโดยการรถไฟฯ ทำให้ทริปนี้ไม่ว่าจะกิน ดื่ม เที่ยว ตลอดวัน ดูแลโดยการรถไฟฯ ทั้งหมด
SRT Royal Blossomออกจากสถานีเวลา 06.00 น. ตามตาราง โดยจอดรับผู้โดยสาร 4 สถานี ก่อนมุ่งหน้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี นักท่องเที่ยวที่ร่วมทริป ถ้าไม่สะดวกขึ้นที่หัวลำโพง สามารถขึ้นได้ที่สถานีชุมทางบางซื่อ บางบำหรุ ชุมทางตลิ่งชัน และศาลายา ผู้โดยสารทุกคนจะได้ชุดข้าวกล่องห่อด้วยผ้าขาวม้าเป็นอาหารเช้า นั่งกินชมวิวระหว่างรถไฟเคลื่อนขบวน
ส่วนใครที่หิวกาแฟหรืออยากหาอะไรเย็นๆ ดื่ม แนะนำให้เดินไปยังตู้เสบียง ที่นี่มีชาและกาแฟหลากหลายเมนูให้บริการ เมนูยอดฮิต ได้แก่ ชาไทยเย็นเฉาก๊วย สามารถบอกระดับความหวานได้ นอกจากนี้ยังมีเมนูซิกเนเจอร์ที่หากินได้ที่ SRT Royal Blossom เท่านั้น คือ ชามะนาวรอยัลบลอสซัม (70 บาท) และ กาแฟเย็น รอยัลบลอสซัม (70 บาท) ซึ่งเป็นน้ำมะนาวกุหลาบ ผสมชามะนาวรอยัลบลอสซัม ท็อปด้วยเอสเพรสโซช็อต
ทริปนี้ SRT Royal Blossom จอดให้เราเที่ยว 2 จุด เพื่อตามรอยทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ จุดแรกเป็นบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว และจุดที่ 2 บริเวณถ้ำกระแซ หลังจากนั้นจะจอดที่สถานีกาญจนบุรีแล้วเปลี่ยนเป็นรถโค้ช พาเราไปล่องแพในแม่น้ำแควใหญ่ และเที่ยววัดทั้งหมด 2 แห่ง ได้แก่ ‘วัดถ้ำพุหว้า’ วัดโถงถ้ำขนาดใหญ่ที่ด้านหน้ามีลักษณะเป็นปราสาทหินแบบขอมโบราณ และ ‘วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ’ วัดจีนนิกายมหายานที่มีองค์ประธานเป็นพระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือ แกะสลักจากไม้สูง 12 เมตร
Good for
เราว่าใครที่อยากเปิดประสบการณ์การนั่งรถไฟ หรืออยากเปิดใจลองเที่ยวรถไฟไทย แนะนำให้ลองขบวนนี้ ส่วนใครที่ชื่นชอบการนั่งรถไฟเที่ยวอยู่แล้ว เราเชื่อว่าคุณจะชอบมากกว่าที่เคย ตอนนี้ SRT Royal Blossomเปิดให้บริการเป็นรถไฟท่องเที่ยวเท่านั้น ทั้งขบวนรองรับผู้โดยสารได้ทั้งหมด 156 ที่นั่ง และจะเปิดให้จองเป็นรอบๆ ตามแต่เส้นทางท่องเที่ยวที่เปิดให้บริการ ซึ่งผู้สนใจสามารถดูโปรแกรมและข่าวสารได้ที่เพจ www.facebook.com/pr.railway หรือ www.railway.co.th
SRT Royal Blossom
Location: เส้นทางท่องเที่ยว กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี
Budget: ที่นั่งปกติสนนราคาที่ 1,799 บาทต่อที่นั่ง (รวมอาหาร 3 มื้อ + โปรแกรมท่องเที่ยว)
Tel.: 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
Facebook: www.facebook.com/pr.railway
Website: www.railway.co.th