“สะบายดี” คำแรกที่เราถูกทักทายเมื่อได้เจอกับโชเฟอร์ยืนต้อนรับพร้อมรอยยิ้มที่สนามบิน ก่อนที่จะพาเราขึ้นรถพร้อมเสิร์ฟตะกร้าขนมหม้อทอดและเห็ดทอด ขนมอันเลื่องชื่อของหลวงพระบาง นั่งจกขนมกินเพลินๆ 10 กว่านาทีเราก็เดินทางถึง Sofitel Luang Prabang
Why here?
โรงแรมระดับ 5 ดาวแห่งนี้เคยเป็นที่พักของผู้ว่าการฝรั่งเศสในช่วงทศวรรษ 1900 สะท้อนถึงความหรูหราท่ามกลางมรดกทางวัฒนธรรมของลาว เรียกว่าใครที่มาก็จะได้สัมผัสกับกลิ่นอายฝรั่งเศสและเอกลักษณ์ความสวยงามแบบลาวดั้งเดิมไปพร้อมๆ กัน
ทันทีที่เรามาถึงก็ได้รับการต้อนรับที่แสนอบอุ่นกับพิธีบายศรี (Baci Ceremony) โดยบรรดาผู้ใหญ่และผู้อาวุโสที่นั่งคอยเราในสวนภายในโรงแรม พิธีนี้จะเป็นเหมือนการอวยพรให้บรรดาแขกผู้เข้าพักมีความเป็นอยู่ที่มีความสุขสงบ ปลอดภัยตลอดทริป
เริ่มแรกเราจะได้รับการสวมสไบ จากนั้นผู้ใหญ่จึงนำสวดขอพรแล้วผูกสายสิญจน์ให้จนครบ จุดที่น่าขันคือหลังจากที่เราได้รับการผูกสายสิญจน์แล้ว ผู้ใหญ่จะรินเหล้าข้าวเหนียว 50 ดีกรีใส่จอกไว้ แล้วร้องเพลงตามธรรมเนียม หน้าที่ของเราคือต้องคล้องแขนกับเพื่อนที่มาด้วยแล้วยกจอกดื่มตอนที่ร้องถึงคีย์เวิร์ดที่ผู้ใหญ่กำหนด
ตอนนั้นผู้ใหญ่ถามเราว่า “แซ่บบ่?” เราจึงตอบไปตามความสัตย์จริงหลังได้สัมผัสถึงความร้อนแรงของเหล้าข้าวเหนียวที่ไหลผ่านลำคอสู่ท้อง “แซ่บบบ” สิ้นสุดคำตอบ วงบายศรีก็ดังสนั่นไปด้วยเสียงหัวเราะ “แซ่บก็เอาไปอีกจอก” ผู้ใหญ่ในวงตอบพร้อมอธิบายถึงธรรมเนียมการดื่มเหล้าข้าวเหนียวในวงบายศรี หากใครไม่อยากโดนซ้ำอีกจอกให้ตอบว่า “พอดีๆ” แทน
หลังจากเพลิดเพลินกับขนมหวานมงคลหน้าตาคล้ายคลึงขนมไทยในพิธีแต่รสชาติหวานน้อยกว่าเกือบครึ่ง ก็ถึงเวลาเดินทางไปล่องเรือบนแม่น้ำโขงชมพระอาทิตย์ตก (Sunset Cruise at Mekong River)
นี่คือหนึ่งในกิจกรรมไฮไลต์ที่ทาง Sofitel Luang Prabang ภาคภูมิใจนำเสนอเป็นพิเศษ และต้องบอกว่าเราเองก็ประทับใจถึงขีดสุดไม่แพ้กัน เรือลำที่เราล่องไปเป็นเรือแบบไพรเวตที่มอบประสบการณ์แบบพรีเมียม ตัวเรือถูกแบ่งออกเป็นสองชั้น โดยโซนด้านล่างจะมีโต๊ะรองรับสำหรับดินเนอร์ มีโซนที่นั่งด้านหน้าให้เอนกายรับลมพร้อมทำคอนเทนต์แบบสวยๆ
แต่ถ้าอยากได้วิวสวยหลักล้านแนะนำให้ขึ้นไปที่ชั้นสองของเรือ เพราะคุณจะได้สัมผัสกับสายลมเย็นๆ พลางยลความสงบของผืนแม่น้ำโขง และพระอาทิตย์ตกดินที่ทำให้ผืนฟ้าตรงหน้าสวยงามดุจภาพวาด งานนี้จะมากับคนรักสองต่อสองก็โรแมนติก จะมากับก๊วนเพื่อนซี้ก็สนุกฟีลกู๊ดกันถ้วนหน้า
หลังจากดื่มด่ำกับอาหารต้นตำรับลาวขนานแท้พลางจิบดริงก์เย็นๆ จนท้องฟ้าเริ่มมืด…มีหรือจะกลับเข้าห้องพักและรีบเข้านอน ต้องไปฮอปกันต่อกับบาร์เพื่อลองดริงก์ท้องถิ่นกันหน่อย
เราแวะไปที่ Nagini by 3 Nagas บาร์ตรงข้ามโรงแรม 3 Nagas ในย่าน Sakkaline ที่ให้กลิ่นอายเมืองเก่าในสไตล์โอเรียนทัล
Nagini เป็นบาร์ที่มีเสน่ห์มากๆ เราสามารถนั่งโต๊ะริมถนนพลางดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำได้แบบสบายๆ ไม่มีพลุกพล่าน ในส่วนของ Signature Cocktail (9 ดอลลาร์) ที่ได้ลองก็เรียกว่าประทับใจ ทำถึง เข้าใจง่าย
หลังจากที่ดื่มด่ำกับบรรยากาศจนหนำใจแล้วก็ถึงเวลานอนเก็บแรงก่อนไปลุยกิจกรรมในวันใหม่ ห้องพักสำหรับเราในทริปนี้เป็นแบบ Garden Suite ห้องขนาด 55 ตารางเมตร ที่กว้างขวางเหลือเฟือ มีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน
มินิบาร์ที่นี่มีทั้งชาและกาแฟท้องถิ่นให้ลอง บนโต๊ะมีผลไม้ ชาสมุนไพร และขนมลาวต้อนรับเผื่อหิวกลางดึก (กระซิบว่ามะม่วงที่นี่อร่อยหวานฉ่ำมาก) ด้านนอกยังมีสวนสำหรับแวะไปนั่งพักผ่อนหย่อนใจและยังมีอ่างให้นอนแช่ตัวชมดาวอีกด้วย
หัวถึงหมอนคืนแรกก็สลบไสล รู้ตัวอีกทีก็วาร์ปมาอยู่ที่ตลาดสดยามเช้ากับเชฟของโรงแรม มิชชันแรกของเราในวันนี้คือการจ่ายตลาดเพื่อนำวัตถุดิบมาใช้สำหรับ Cooking Class ในสายวันนี้ ใช่แล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลต์ของโรงแรมคือการจัดคลาสเรียนทำอาหารลาวแท้ๆ
นอกจากอาหารสดแล้ว ตลาดก็ยังมีขายขนมท้องถิ่นและของฝากทำมือมากมาย
บรรยากาศตลาดในยามเช้านั้นไม่ร้อนอย่างที่คิด เราเลยสามารถเดินจากตลาดพลางชมเมืองแบบชิลๆ ไปกินอาหารเช้าที่โรงแรม 3 Nagas ที่เราแวะไปเมื่อคืนได้แบบสบายตัว
หลังจากอิ่มท้องแล้วก็เตรียมมุ่งหน้าสู่น้ำตกตาดกวางสี (Kuang Si Waterfall) สถานที่สำหรับเรียนทำอาหารของเรา คุณอ่านไม่ผิดหรอก ทางโรงแรมจะพาเราไปตั้งครัวกันที่หน้าน้ำตกกันจริงๆ
เรียกว่าเป็นประสบการณ์ความแปลกใหม่ที่ได้มากางโต๊ะทำครัวท่ามกลางธรรมชาติ (และเหล่านักท่องเที่ยว) เหมือนได้มาแข่งรายการมาสเตอร์เชฟแล้วมีกองเชียร์โฉบมาให้กำลังใจอยู่ตลอด
เมนูที่เชฟยกมาทำวันนี้มีทั้งพะแนงไก่ เมี่ยงลุยสวน หมกเห็ด และไก่วุ้นเส้นพันตะไคร้ทอด ซึ่งถือว่าเป็นจานที่ครองใจเราขั้นสุด หากสังเกตดูแต่ละจานจะเห็นถึงการใช้ผักและสมุนไพรเป็นส่วนประกอบเสียส่วนใหญ่ ซึ่งเรามองว่าเป็นเสน่ห์ของอาหารลาวเลยล่ะ และพอได้กินท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติในบริเวณที่วิวดีที่สุดแล้วด้วยยิ่งทำให้ได้อรรถรสมากขึ้นไปอีก
หลังอิ่มท้องก็ถึงเวลาย่อยด้วยการปั่นจักรยานชมเมืองสักหน่อย ซึ่งทางโรงแรมจะมีจักรยานให้บริการพร้อมไกด์ที่จะพาเราท่องไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวัดเชียงทอง วัดเก่าแก่ที่สร้างมานานกว่า 400 ปี ชมวิวบนพระธาตุพูสี ลัดเลาะตามตรอกซอกซอยต่างๆ ที่ทำให้เราได้ซึมซับเสน่ห์ของหลวงพระบางมากขึ้น
อะไรจะดีไปกว่าการปิดท้ายทริปคืนสุดท้ายที่หลวงพระบางด้วยมื้ออาหารแสนอร่อย จากคืนก่อนหน้าที่ได้ดินเนอร์บนเรือก็ว่าโรแมนติกแล้ว ค่ำคืนนี้โรแมนติกยิ่งกว่ากับดินเนอร์สุดไพรเวตที่ 3 Nagas Garden โต๊ะอาหารถูกจัดวางท่ามกลางบึงที่รายล้อมไปด้วยแสงเทียนและโคมที่ส่องแสงระย้าด้านบน เหมาะกับการมาเดตกับคนพิเศษเป็นที่สุด
ในส่วนของอาหารที่เราได้ลิ้มลองในค่ำคืนนี้ก็เรียกว่ามีแต่จานเลื่องชื่อ ไม่ว่าจะส้มตำหลวงพระบางที่กินพร้อมข้าวเหนียวดำนึ่งมาร้อนๆ แล้วต้องอุทานว่า “แซ่บหลาย” ลาบหมูทอดก้อนโตของที่นี่ก็จัดว่าเด็ดจนอยากขอสูตรไปทำเอง ถือเป็นมื้อส่งเข้านอนที่อิ่มท้องอิ่มใจจริงๆ
โปรแกรมในวันสุดท้ายของเราที่หลวงพระบางเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะทาง Sofitel Luang Prabang ได้เตรียมกิจกรรมล่าสมบัติ ‘The Legend of The Lost Treasure’ มาให้เราได้ร่วมสนุก แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เลยต้องขอเติมพลังยามกับไลน์อาหารเช้าที่โรงแรมสักหน่อย
เราสามารถเดินไปตักไลน์อาหารหรือจะสั่งเป็นเซ็ตแล้วให้พนักงานมาเสิร์ฟให้ก็ได้เช่นกัน ซึ่งเชฟผู้กุมความอร่อยของที่นี่ยังเป็นเชฟชาวไทยอีกด้วย
ดูผิวเผินอาจจะคิดว่าจานนี้เป็นผัดไทย แต่ความจริงคือผัดหมี่ลาว ซึ่งถือเป็นจานที่เราอยากแนะนำให้สั่งมาก รสชาติจะออกไปในทางเค็มนำ แต่พอบีบมะนาวและกินกับน้ำพริกแล้วอร่อยมาก เชื่อว่าจะเป็นรสชาติที่ถูกปากคนไทยไม่น้อย
ระหว่างที่อิ่มเอมกับอาหารเช้าก็ยังมีเสียงดนตรีเพราะๆ จากขิมบรรเลงให้ฟังกันแบบเคลิ้มๆ
ตุนเสบียงในท้องพร้อมแล้วก็ถึงเวลาออกล่าสมบัติ หากคุณเป็นคนที่ชอบถอดรหัสลับหรือปลดล็อกปริศนา เชื่อเถอะว่าคุณจะชอบเกมนี้จริงๆ สิ่งที่คุณจะได้รับจากทางโรงแรมมาคือกระเป๋าหนึ่งใบที่มีไดอารีที่เต็มไปด้วยเรื่องราว คำใบ้ คำถาม และแผนที่ที่จะนำคุณไปสู่สมบัติในท้ายที่สุด
ภาพ: Sofitel Luang Prabang
ความสนุกของกิจกรรมนี้คือความตื่นเต้นและลุ้นระทึกในการถอดรหัสตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้คุณได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของหลวงพระบางไปพร้อมๆ กัน
เราจะไม่ขอใบ้ว่าระหว่างทางคุณจะเจอกับโจทย์อะไรบ้าง แต่ขอสปอยล์ตอนจบว่าถ้าตอบถูกหมดทุกข้อ คุณจะได้หีบสมบัติแสนอร่อยนี้เป็นรางวัล
Worth it
เรียกว่าเป็นการได้สัมผัสวิถีชีวิตและการผจญภัยแบบลาวขนานแท้ ตั้งแต่การรับพรจากผู้ใหญ่ในพิธีมงคล การดินเนอร์แสนสงบบนเรือพลางชมพระอาทิตย์ตกดินที่เราแนะนำมากเป็นพิเศษ การได้ลองทำอาหารท้องถิ่น เที่ยวชมเมืองแบบสโลว์ไลฟ์ สนทนากับคนท้องถิ่นอย่างเป็นกันเอง ร่วมภารกิจล่าสมบัติสนุกๆ ถือเป็นทริปที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่ดีและอบอุ่นตั้งแต่ต้นจนจบ
ภาพ: Sofitel Luang Prabang
Good for
ใครที่อยากสัมผัสเสน่ห์ของหลวงพระบาง เข้าใจในประวัติศาสตร์ความเป็นมาของที่นี่มากขึ้น รวมไปถึงการกินดีอยู่ดีแบบเหนือระดับ ลองมาเช็กอินที่ Sofitel Luang Prabang ดูสักครั้ง เราเชื่อว่าคุณจะสนุกกับกิจกรรมที่ทางโรงแรมจัดเตรียมให้เหมือนเรา
Sofitel Luang Prabang
Address: Ban Mano, Luang Prabang, Democratic Republic Lao
Tel: +856 7126 0777
Website: https://www.sofitel-luangprabang.com/
Facebook: https://www.facebook.com/SofitelLuangPrabang
Instagram: https://www.instagram.com/sofitelluangprabang/
Map:
ภาพ: วริศรา ลิ้มอนันตระกูล, Sofitel Luang Prabang