×

เป็นคนผอม แต่ลงพุง ลดอย่างไรถึงจะเวิร์ก?

19.02.2024
  • LOADING...
ผอมแต่ลงพุง

อีกหนึ่งปัญหาที่หลายๆ คนต้องเผชิญคือทำไมเวลาที่ลดน้ำหนักถึงจุดหนึ่ง จนถูกทักว่าผอมแล้วผอมอีก แต่พอมาก้มดูที่พุง ก็ยังเป็นคนที่มีพุงอยู่ตลอด ไม่เคยหายไปไหน พยายามลดต่อก็ไม่มีทีท่าว่าพุงจะยุบลงสักที เพราะแม้ตัวจะผอมแต่พุงก็ยังมีอยู่ดี แล้วปัญหาแบบนี้มันเกิดจากอะไรกัน? และจะมีวิธีกำจัดพุงออกไปได้อย่างไร หมอจะพาไปค้นหาคำตอบด้วยกัน

 

ที่มาของพุงก็คือไขมัน แล้วไขมันในร่างกายคืออะไร 

ไขมันเป็นสารอาหารที่สำคัญชนิดหนึ่งของร่างกาย ทำหน้าที่ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นส่วนประกอบหนึ่งของเยื่อหุ้มเซลล์ เป็นส่วนประกอบสำคัญของฮอร์โมนหลายชนิด ช่วยทำละลายให้วิตามินต่างๆ เพื่อให้ดูดซึมมาใช้ในร่างกายได้ ช่วยในการสังเคราะห์วิตามินดีจากชั้นใต้ผิวหนัง และที่สำคัญยังจัดเป็นแหล่งพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของร่างกายเลยทีเดียว ต้นกำเนิดของไขมันในร่างกายนั้นได้มาจากสารอาหารประเภทไขมันที่เรากินเข้าไป และยังแปลงสภาพมาจากสารอาหารอื่นๆ โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรตที่เกินความจำเป็นอีกด้วย ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ถ้ามีปริมาณมากเกินที่ร่างกายจะนำไปใช้ก็จะถูกสะสมในรูปของไขมันตามส่วนต่างๆ เพื่อเป็นแหล่งพลังงานสำรองนั่นเอง



โดยตำแหน่งที่ไขมันจะไปสะสมนั้นจะแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ

  1. ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) เป็นไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ใต้ชั้นผิวหนังในบริเวณทั่วไป มักพบได้หนาแน่นที่ต้นแขน ต้นขา สะโพก และหน้าท้อง โดยทั่วไปไขมันชนิดนี้จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ แต่หากมีปริมาณมากจะส่งผลให้รูปร่างและสัดส่วนของร่างกายเปลี่ยนไปจากปกติ และมีความหย่อนคล้อยได้ง่าย โดยส่วนมากไขมันส่วนนี้จะถูกสะสมจากสารอาหารที่เรากินมากเกินไป 
  2. ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) เป็นไขมันส่วนเกินใต้ชั้นกล้ามเนื้อหน้าท้องลงไป โดยจะสะสมภายในช่องท้อง เยื่อบุช่องท้อง หรืออาจจะพอกที่อวัยวะภายในต่างๆ เช่นที่ตับ (เป็นที่มาของชื่อภาวะ ‘ไขมันเกาะตับ’ นั่นเอง) ไขมันชนิดนี้เป็น 1 ในตัวบ่งชี้ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในคนทั่วไป และส่วนมากไขมันชนิดนี้จะสะสมมากเมื่อมีอาการออกกำลังกายหรือเผาผลาญไม่เพียงพอ


พุงของเราคือไขมันส่วนไหนของร่างกาย?

พุงหรือไขมันหน้าท้องของคนเราจะประกอบด้วยไขมันใต้ผิวหนังบริเวณหน้าท้องและไขมันในช่องท้องที่หากมีปริมาณมากก็จะดันออกมาทางหน้าท้องคล้ายลูกโป่งเป็นลักษณะพุงยื่นนั่นเอง ดังนั้นคนที่พุงยื่นจึงจำเป็นต้องมีอาการคุมอาหารและออกกำลังกายเพื่อให้สามารถลดพุงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

 

ทำไมส่วนอื่นผอมแล้วยังมีพุงได้?

การลดน้ำหนักเพื่อหุ่นสวยนั้นคนส่วนมากใช้การคุมอาหาร และการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น การเดินเร็ว การวิ่ง การปั่นจักรยาน หรือการเต้นแอโรบิก เมื่อสามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอเป็นหลักเดือนก็จะได้ผลดี กล่าวคือ น้ำหนักตัวลดลง ไขมันที่สะสมตามส่วนต่างๆ ก็จะเริ่มลดลง แต่พอถึงจุดหนึ่งกลับพบว่าการลดลงนั้นเริ่มเข้าสู่สภาวะคงที่ ซึ่งก็มักจะยังคงเหลือไขมันหน้าท้องทำให้เรารู้สึกรำคาญใจอยู่ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุดังต่อไปนี้

 

การงดอาหารมากเกินไป

ทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะการขาดอาหาร (Starvation) ทำให้ยังคงเก็บสะสมพลังงานในรูปของไขมันเอาไว้เพื่อความอยู่รอด


การคุมอาหารที่ผิดวิธี

เช่น การเน้นคุมที่ปริมาณอาหารและแคลอรีน้อยๆ โดยที่ไม่ได้มีความสมดุลของชนิดสารอาหารที่กิน เช่น เน้นกินเป็นแป้ง น้ำตาล หรือไขมันเลวเป็นสัดส่วนที่มากกว่าโปรตีน ซึ่งถึงแม้ว่าปริมาณแคลอรีที่นับได้ไม่มากเกินที่เราใช้ไปในแต่ละวัน แต่ปริมาณของสารอาหารนั้นมากเกินกว่าความสามารถในการดูดซึมและนำไปใช้ จึงถูกจัดเก็บในรูปของไขมันส่วนเกินได้


การออกกำลังกายที่มากเกินไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อออกกำลังกายอย่างหนักในช่วงเวลาที่คุมอาหารอย่างเคร่งครัด การคาร์ดิโออย่างหนักนั้นจะทำให้ร่างกายมีการใช้พลังงานมากขึ้นและในเวลาเดียวกันก็ต้องใช้งานกล้ามเนื้อมากขึ้นด้วย ทำให้มีการสลายของกล้ามเนื้อเพื่อนำพลังงานมาใช้ในสัดส่วนมากขึ้น และไขมันจึงถูกใช้ไปในสัดส่วนที่น้อยลงนั่นเอง รวมถึงสาเหตุแวดล้อมอื่นๆ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การนอนหลับไม่เพียงพอ และความเครียด เป็นต้น

 

วิธีจัดการภาวะผอมลงพุง และ Skinny Fat

การจัดการภาวะผอมลงพุง และ Skinny Fat ต้องเริ่มจากการปรับวิธีการกินอาหารโดยการไม่อดอาหาร และกินอาหารที่ครบหมู่ในปริมาณสัดส่วนที่พอเหมาะ ไม่กินอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งมากจนเกินไป ปรับการนอนพักผ่อนให้เพียงพอต่อวัน และปรับการออกกำลังกายให้เหมาะสม

 

ทั้งนี้ แนะนำให้มีการออกกำลังกายแบบเวตเทรนนิ่งเข้ามาร่วมกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอด้วย เพื่อให้ร่างกายมีมวลกล้ามเนื้อที่มากขึ้น เพิ่มอัตราการเผาผลาญสารอาหารที่เรากินเข้ามาในแต่ละวัน และยังช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานได้ดี คงทนต่อการออกกำลังกายหนักๆ มากขึ้น เพื่อลดโอกาสกล้ามเนื้อสลายได้อีกด้วย

 

การออกกำลังกายเฉพาะส่วนช่วยลดสัดส่วนของส่วนนั้นได้หรือไม่?

มีความเชื่อที่ว่าหากเราต้องการลดหน้าท้องให้ออกกำลังกายเวตหน้าท้องเยอะๆ เพื่อให้มีซิกซ์แพ็กโดยไม่จำเป็นต้องเวตจุดอื่นๆ หรือคาร์ดิโอก็ได้ ความเชื่อนี้อาจจะไม่ได้ถูกต้องซะทีเดียว เนื่องจากการที่เราจะมีซิกซ์แพ็กได้นั้นจะต้องมีเปอร์เซ็นต์ของไขมันในร่างกายที่น้อย ซึ่งหมายถึงไขมันใต้ผิวหนังทุกๆ ส่วนในร่างกายก็ควรน้อยไปด้วยกัน ดังนั้นหากไม่ได้มีการคุมอาหารที่เหมาะสม และไม่ได้ออกกำลังกายคาร์ดิโอเพื่อเผาผลาญพลังงาน และกล้ามเนื้อมัดใหญ่ของร่างกายไม่ได้รับการเวตเทรนนิ่งด้วยแล้ว อัตราการเผาผลาญไขมันส่วนเกินก็จะน้อย ซึ่งทำให้ยังคงมีพุงหรือไขมันปกคลุมกล้ามเนื้อหน้าท้องอยู่ดี อย่างไรก็ตาม การเวตเทรนนิ่งหน้าท้องจะทำให้เมื่อเรามีอาการคุมอาหารและออกกำลังกายจนได้ผล ก็จะทำให้มีซิกซ์แพ็กที่สวยงามแน่นเฟิร์มได้นั่นเอง


สรุป

หากเราประสบปัญหาผอมแต่มีพุงหรือมี Skinny Fat ให้กลับมาลองดูโปรแกรมการกินและออกกำลังกายของเราว่าเข้าข่ายของสาเหตุที่ทำให้เกิด Skinny Fat ข้างต้นหรือไม่ หากพบว่ามีความเสี่ยงก็ลองปรับโปรแกรมให้ถูกต้องสมดุล ไม่มีวิธีไหนที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไปแล้วจะดี เนื่องจากร่างกายของเราก็ต้องรักษาสมดุลของตัวเองอยู่เสมอ แต่หากพบว่าไม่เข้าข่ายในข้อไหนเลย อาจจะมาลองพิจารณาว่าเราได้ทำโปรแกรมคุมอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอหรือไม่ และที่สำคัญที่สุดของทุกกรณี ขอให้อย่าลืมดูแลในเรื่องของการพักผ่อน รวมถึงการจัดการความเครียดให้เหมาะสม ก็จะสามารถช่วยจัดการปัญหาผอมแต่มีพุงได้อย่างยั่งยืน

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising