ควรรีโนเวตทั้งหมด หรือจริงๆ แค่แต่งเพิ่มก็พอ?
เชื่อว่าหลายคนคงเคยมองเข้าไปในห้องเดิมๆ ที่เคยใช้ชีวิต แล้วรู้สึกแอบเบื่อนิดๆ “อยู่มาตั้งหลายปี น่าจะถึงเวลาปรับปรุงอะไรบ้าง” พอถึงเวลาเริ่มทำก็มีคำถามว่า จะรีโนเวตใหญ่เลยดีไหม อุตส่าห์ทำทั้งที หรือแค่ปรับห้องนิดหน่อย เปลี่ยนสไตล์ก็น่าจะพอแล้ว วันนี้เราเลยอยากแนะนำข้อดีแต่ละด้าน ทั้งการรีโนเวต และการตกแต่งห้องใหม่ ว่ามีอะไรบ้าง พร้อมทริกว่า ถ้าตัดสินใจทำ ควรคำนึงถึงอะไร หรือว่าวิธีการไหนที่ลงทุนน้อย แต่ได้ห้องใหม่
ทำทั้งที รีโนเวตไปเลย
ข้อดีของการตัดสินใจรีโนเวตคือ การได้พื้นที่ใหม่ๆ สภาพแวดล้อมใหม่ๆ แต่ยังสามารถเก็บบางสิ่งบางอย่างจากห้องเดิมไว้ได้ หากคุณตัดสินใจรีโนเวต สิ่งที่ควรรู้มีดังนี้
1. กำหนดจุดประสงค์และปลายทางที่ชัดเจน
ขั้นแรกเลยเราควรรู้ว่าจะรีโนเวตเพื่ออะไร เช่น ขยายพื้นที่ เปลี่ยนการใช้งาน เพื่อจะได้คุยกับทีมช่างอย่างถูกต้อง และคุมงบประมาณให้ไม่บานปลาย และทางที่ดีควรหาตัวอย่างหรือสไตล์ห้องว่าชอบแบบไหน หลังรีโนเวตห้องเสร็จจะได้ไปหาซื้อเฟอร์นิเจอร์ได้ถูกต้อง
2. ตัดสินใจให้ชัดว่าอยากเก็บส่วนไหน
เพราะเสน่ห์ของการเลือกรีโนเวตแทนการสร้างใหม่คือ การเก็บองค์ประกอบบางอย่างของห้องเดิมไว้ เช่น ช่องเปิด ผนัง เป็นต้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องตัดสินใจว่าจะเก็บหรือทุบอะไร
3. ดูโครงสร้างและกฎหมาย
สิ่งนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับเราโดยตรง แต่ควรปรึกษาทีมที่จะเข้ามารีโนเวตว่า แบบที่เราต้องการมันทำได้ไหม ทุบผนังตรงนี้ได้หรือเปล่า มันติดโครงสร้างหรือไม่ เพื่อความแข็งแรงและความปลอดภัย และอย่าลืมเช็กข้อกฎหมายหากต่อเติมอาคารก่อนสร้างด้วย
จริงๆ แค่ลองตกแต่งห้องใหม่ก็น่าจะพอ
แต่สำหรับใครที่รู้สึกว่าการรีโนเวตห้องเป็นเรื่องใหญ่ ใช้เวลานาน คุณอาจจะเหมาะกับแค่การปรับลุคห้อง ตกแต่งห้องใหม่นิดหน่อย เพราะข้อดีคือ งานไม่บานปลาย ใช้เวลาไม่นาน บางทีไม่ต้องง้อช่างด้วย อันที่จริงการแต่งห้องใหม่ก็มีวิธีง่ายๆ หลายวิธี ซึ่งเราลิสต์ไอเดียมาให้ ดังนี้
1. ลองจัดเลย์เอาต์ห้องใหม่ด้วยการขยับเฟอร์นิเจอร์
วิธีนี้ง่ายที่สุด ไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว นั่นคือการลองวางเลย์เอาต์ห้องใหม่ด้วยการขยับเฟอร์นิเจอร์ แค่ทดลองบิดเฟอร์นิเจอร์ เช่น โซฟา ตู้ บางทีเราอาจจะได้ห้องรูปแบบใหม่ที่ชอบ แต่ควรคำนึงถึงความเหมาะสมในการใช้งานด้วย เช่น ขนาดพอดีหรือไม่ แสงทึบไปหรือไม่ อากาศถ่ายเทหรือเปล่า เป็นต้น
2. คุมโทนสีห้องด้วยหลักการ 60-30-10
อีกวิธีที่ง่ายแต่อาจจะซับซ้อนขึ้นมานิดหนึ่งคือการคุมโทนสีห้อง ขั้นแรกเราต้องกำหนดพาเลตต์ที่ชอบ จากนั้นใช้ทฤษฎีการคุมโทนสีแบบ 60-30-10 มาช่วยในการควบคุมปริมาณโทนสีให้เหมาะสม อธิบายง่ายๆ คือ แบ่งภาพรวมของห้องเป็น 100%
สัดส่วน 60% ของพื้นที่ทั้งหมดควรเป็นสีอ่อน และควรอยู่บนพื้น ผนัง
30% ต่อมาควรใช้สีกลางๆ ส่วนนี้มักอยู่ในเฟอร์นิเจอร์ขนาดกลางๆ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ พรม ผ้าม่าน
และ 10% สุดท้ายจะเป็นสีเข้ม เช่น สีดำ แดง น้ำเงิน ส่วนใหญ่มักอยู่ในของตกแต่งที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก เช่น แจกัน กรอบรูป
3. จัดแสงสว่างตามการใช้งาน
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้อารมณ์ของห้องเปลี่ยนไปคือไฟส่องสว่างในห้อง แค่ลองเปลี่ยนสีหลอดไฟจากโทนเย็นไปโทนอุ่น อารมณ์ของห้องก็เปลี่ยนไปได้ แต่ก็ควรคำนึงถึงความเหมาะสมในการใช้งานด้วย เช่น ห้องอ่านหนังสือ ห้องดูหนัง ก็ใช้ไฟคนละแบบ
4. ซื้อบ้านที่รีโนเวตแล้ว
แต่ถ้ารู้สึกว่าการรีโนเวตบ้านวุ่นวาย มีหลายขั้นตอน การซื้อบ้านที่ทำเสร็จแล้วก็เป็นทางออกที่ดี ถ้าใครที่สนใจ เราอยากให้ลองไปดูบ้านของ Homerun Proptech บริษัทในเครือ AP (Thailand) ที่สร้างตัวเลือกใหม่ ‘บ้านและคอนโดตกแต่งใหม่พร้อมอยู่’ เขาคัดบ้านและคอนโดมิเนียมทำเลดี ราคาดี ตกแต่งใหม่ ให้คุณลากกระเป๋าพร้อมเข้าอยู่ได้เลย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.homerunproptech.com/
[Content in partnership with AP]