REN Cafe and Goods คาเฟ่สเปเชียลตี้มัทฉะ ที่ดีทั้งรสชาติและบรรยากาศ

จริงอยู่ที่ย่านเจริญกรุงมีคาเฟ่คิวต์ๆ เก๋ๆ อยู่เต็มไปหมด แต่ REN Cafe and Goods เป็นหนึ่งในคาเฟ่ไม่กี่ร้านที่โดดเด่นและจริงจังมากเรื่องมัทฉะ แถมยังมาพร้อมมู้ดแอนโทนสบายๆ ชวนให้อยากแวะมานั่งจิบชาได้ตลอดวัน จนเราต้องขอยกให้ที่นี่เป็นหนึ่งในเช็กลิสต์ที่อยากชวนทุกคนรีบตามไปเช็กอินกันให้ไว

The Vibe

มาท สาริทธิ์ หนึ่งในทีมผู้ก่อตั้ง เล่าให้เราฟังว่าพวกเขาตั้งใจให้ REN เป็นคาเฟ่ที่ไม่ใช่เพียงแวะมาถ่ายรูปเพียงอย่างเดียว พวกเขาจึงจริงจังมากในการสร้างบรรยากาศร้านให้ออกมาดี ไม่หวือหวาแต่เต็มไปด้วยความผ่อนคลายตามแบบฉบับของร้านชา เพราะอยากให้ลูกค้าแวะกลับมาที่ร้านบ่อยๆ

ร้านไม่ได้ตกแต่งอะไรมากเป็นพิเศษ ยังคงสภาพอาคารปูนเปลือยดิบๆ ของตึกเดิมไว้อยู่ โดยเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้จะเน้นโทนสีเขียวและไม้

ไฮไลต์ของร้านอยู่ที่มุมริมหน้าต่างบริเวณชั้น 2 โดยชั้นนี้จะมีต้นไม้รายล้อมอยู่รอบด้าน คล้ายกับเป็นคาเฟ่ที่มีสวนขนาดย่อมอยู่ด้านใน แถมยังมีแสงธรรมชาติลอดผ่านเข้ามาจากกระจกบานใหญ่ทั้ง 2 ฝั่ง ชวนให้รู้สึกสงบ เหมือนได้ตัดความวุ่นวายจากโลกภายนอก

The Taste

อย่างที่เกริ่นไปก่อนหน้า REN Cafe and Goods เป็นร้านที่เน้นทั้งบรรยากาศและรสชาติเครื่องดื่ม พวกเขาจึงใส่ทั้งคุณภาพและความพิถีพิถันในทุกๆ เมนู โดยผงมัทฉะและโฮจิฉะที่ร้านเลือกใช้ล้วนนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นทั้งสิ้น

อย่างเช่น Ren (190 บาท) แก้วนี้เป็นมัทฉะลาเต้ที่ใช้ผงมัทฉะเกรดพรีเมียมจากจังหวัดมิเอะ พอลองดื่มสัมผัสได้ถึงความอูมามิ และความครีมมี่ของตัวชา เราว่าแก้วนี้เป็นเมนูเบสิกที่รสชาติไม่ได้เบสิกเลยนะ

Matcha Black Sesame (180 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ เบสคือมัทฉะยาเมะที่ใช้ผงมัทฉะจากเมืองยาเมะ ให้รสสัมผัสมันคล้ายถั่ว มีความขมเล็กน้อย พอดื่มพร้อมกับส่วนผสมอื่นๆ ในแก้วอย่างงาดำและนมโอ๊ตแล้วเข้ากันได้ดีมากๆ เป็นแก้วที่เราว่าน่าสนใจ ดื่มสนุก เพราะมีเท็กซ์เจอร์ของงาดำให้เคี้ยวเล่นด้วย

แต่ถ้าใครรู้สึกว่ามัทฉะอาจหนักเกินไป เราแนะนำให้ลองสั่ง Kaze (110 บาท) แก้วนี้เป็นโฮจิฉะลาเต้ที่ใช้ผงโฮจิฉะจากเมืองยาเมะ รสชาที่ได้มีความเบากว่ามัทฉะ แต่เด่นด้วยกลิ่นสโมกหอมๆ เหมาะเป็นแก้วเริ่มต้นสำหรับใครที่อยากลองดื่มโฮจิฉะเป็นครั้งแรก

ส่วนเมนูขนมหวานของ REN จะเน้นรสชาติที่ไม่หวานเกินไป สามารถกินได้เรื่อยๆ อย่างเช่น Matcha Basque Cheesecake (180 บาท) บาสก์ชีสเค้กที่ฐานด้านล่างเป็นมัทฉะรสหวาน ตัดกับความเปรี้ยวของชีสเค้กได้ลงตัว

Strawberry Shortcake (220 บาท) เมนูเนื้อเนียนนุ่มที่หากลองใช้ช้อนตักลงไปจะเจอกับเลเยอร์เค้กที่เรียงอยู่สวยงาม ด้านบนท็อปด้วยสตรอว์เบอร์รีชิ้นโตให้ความสดชื่น ตัวเค้กหวานกำลังดี กินคู่กับมัทฉะเข้มๆ แล้วเข้ากันมาก

Good for

ไม่ต้องถึงขั้นเป็นมัทฉะเลิฟเวอร์ เราว่าใครมีโอกาสแวะมาที่นี่ก็ต้องติดใจ ด้วยบรรยากาศร้านที่ไม่วุ่นวายเกินไป มีทั้งเครื่องดื่มและขนมรสชาติดีให้เลือกเพียบ แถมยังอยู่ในย่านเจริญกรุงที่สามารถไปเดินเล่นต่อได้อีก

หรือหากวันไหนใครอยากหาร้านนั่งพัก แวะจิบชาอ่านหนังสือ ชวนเพื่อนมานั่งคุยกันสบายๆ ที่นี่ก็เหมาะเลย