×

คุยสบายๆ กับ ยุทธชัย จรณะจิตต์ ถึงทิศทางใหม่ของ OZO โรงแรมไวบ์สนุก ที่คอลแลบกับ Greyhound Original

โดย THE STANDARD LIFE
18.06.2024
  • LOADING...
OZO

สำหรับสายไลฟ์สไตล์ ไม่น่าจะมีใครไม่รู้จัก OZO แบรนด์โรงแรมไวบ์สนุกในเครือออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ที่ตอนนี้ขยายอาณาจักรไปถึง 5 แห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และล่าสุดเพิ่งร่วมงานกับ Greyhound Original แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของไทยในการออกแบบยูนิฟอร์มใหม่ทั้งหมดให้กับพนักงานโรงแรม   

 

วันนี้เราจึงอยากพูดคุยกับ ท็อป-ยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป (ONYX Hospitality Group) บริษัทบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ต และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึงทิศทางของแบรนด์ OZO ที่ต่อไปจะมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น สนุกและครีเอทีฟมากขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าไลฟ์สไตล์ที่อยากหลีกหนีจากความจำเจ และมองหาสถานที่พักที่เข้าใจความต้องการของพวกเขาอย่างแท้จริง 

 

OZO

ท็อป-ยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป (ONYX Hospitality Group) 

 

นี่จึงเป็นที่มาของการคอลลาบอเรชันกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำอย่าง Greyhound Original เพื่อออกแบบยูนิฟอร์มสำหรับพนักงานในโรงแรม OZO ที่ถอด DNA ความสนุกสนานในแบบฉบับของ OZO เข้ากับความเท่สุดคูลของ Greyhound Original ได้อย่างลงตัว และเพื่อให้เข้าใจถึงความหมายของการคอลลาบอเรชันครั้งนี้ยิ่งขึ้น เราจึงได้ชวน บี-บดินทร์ อภิมาน ดีไซเนอร์ จาก Greyhound Original มาร่วมพูดคุยในครั้งนี้ด้วย    

 

 

เราอยากเริ่มต้นจากการให้คุณท็อปเล่าให้ฟังหน่อยว่า ONYX Hospitality Group คือใคร และกำลังทำอะไรอยู่

 

ยุทธชัย: ONYX Hospitality Group เป็นบริษัทบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ต และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ แบบครบวงจร เรามี Core Brand 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ อมารี (Amari), โอโซ่ (OZO), ชามา (Shama) และโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ (Oriental Residence) ซึ่งมี Property ครอบคลุมภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ปัจจุบันเรามีโรงแรม รีสอร์ต และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ประมาณ 40 แห่งกระจายตัวอยู่ในไทย จีน ฮ่องกง มาเลเซีย บังกลาเทศ และลาว ซึ่งเราเป็นทั้งเจ้าของโรงแรมเอง รวมถึงรับบริหารจัดการให้ 

 

ล่าสุดเราเห็นแบรนด์ OZO มีความเคลื่อนไหวค่อนข้างมาก อยากรู้ว่าวาง Identity ของแบรนด์ OZO อย่างไร และอะไรที่ทำให้แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ 

 

ยุทธชัย: OZO เริ่มจากการเป็นแบรนด์ระดับ Mid-Scale นำเสนอห้องพักขนาดพอดีๆ ที่มีฟังก์ชันครบครัน โลเคชันดี สะดวกต่อการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว ตอนนี้ในเมืองไทยเรามี OZO ทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่ OZO นอร์ธ พัทยา, OZO เฉวง สมุย, OZO ภูเก็ต และอีก 2 แห่งในประเทศมาเลเซีย ได้แก่ OZO จอร์จทาวน์ ปีนัง และ OZO เมดินี ที่กำลังจะเปิดเร็วๆ นี้ รวมทั้งหมด 5 แห่ง และเรามีแผนจะขยายการเปิด OZO ไปยังทำเลสำคัญอื่นๆ อีกในอนาคตอันใกล้นี้ครับ 

 

จริงๆ เราเปิดตัวแบรนด์ OZO ครั้งแรกเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ผลตอบรับจากนักท่องเที่ยวก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จากแบรนด์ที่ไม่มีใครรู้จัก กลายเป็นแบรนด์โรงแรมที่แขกให้ความไว้วางใจเลือกกลับมาพักซ้ำมาโดยตลอด ก็ถือเป็นเรื่องที่พนักงาน OZO ภูมิใจ

 

สำหรับตอนนี้ หลังจากสถานการณ์โควิดดีขึ้น การท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศฟื้นตัว เราก็อยากจะ Relaunch แบรนด์ OZO ขึ้นมาใหม่เพื่อตอกย้ำความเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ มีความสนุกและ Vibrant ในแบบของ OZO โดยคอนเซปต์แบรนด์ OZO ที่เราต้องการเน้นย้ำให้ลูกค้ารับรู้ในวันนี้จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างให้ OZO เป็นแบรนด์โรงแรมคอนเซปต์สนุกๆ ที่มอบความสุขและรอยยิ้มแบบไร้ขีดจำกัด OZO จะเปรียบเหมือน ‘สนามเด็กเล่น’ ที่พร้อมจุดประกายและตอบรับทุกโจทย์ความสนุกในแบบต่างๆ ของผู้เข้าพัก 

 

OZO

โรงแรม OZO นอร์ธ พัทยา 

 

ด้วยดีไซน์ที่ลงตัวในทุกรายละเอียด ผสานความเรียบง่ายที่ใช้งานได้จริงเข้ากับความสดใสมีชีวิตชีวา ภายใต้ 3 แนวคิดหลักในการออกแบบคือ ให้คุณได้นอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ (เตียง OZO หลับสบายมากกกก…ต้องลอง!) เชื่อมต่อโลกเทคโนโลยีได้รวดเร็ว และสร้างแรงบันดาลใจให้คุณได้ค้นหาความสุขของตนเอง 

 

ที่ OZO เราอยากให้ลูกค้าที่เข้ามาพักเป็นตัวเองได้เต็มที่ จะร้อง เล่น เต้น ก็ทำได้สุดเหวี่ยง หรือนอนอ่านหนังสือสบายๆ รีชาร์จรอยยิ้มให้ตัวเอง ก็ได้ทั้งนั้น เพราะทุกวันที่ OZO คือช่วงเวลาดีๆ ที่ทำให้คุณมีความสุขและยิ้มได้กับตัวเอง

 

ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่เราเปิดตัว OZO ในภาพลักษณ์ใหม่ที่ได้ทำการคอลลาบอเรชันกับแบรนด์อย่าง Greyhound Original เพื่อออกแบบยูนิฟอร์มให้พนักงาน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นแรกของเราภายใต้การนำเสนอ Vibe ใหม่ของ OZO เป็นสิ่งที่เราอยากยกระดับประสบการณ์เข้าพัก และทำให้ตรงกับทิศทางของแบรนด์ OZO ที่เป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ที่มีทั้งความ Fun และ Vibrant  

 

OZO

 

ทำไมถึงให้ความสำคัญกับการคอลลาบอเรชันตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการรีแบรนด์?

 

ยุทธชัย: ผมว่าคอลลาบอเรชันมันเหมือนเราเป็นเพื่อนกัน แบรนด์ใหญ่ๆ ส่วนใหญ่จะทำแค่โปรโมตหรือแคมเปญ แต่สำหรับเรา เราอยากจะให้มันเป็น Long-Term Relationship ผมคิดว่าคนไทยเก่งในการดีไซน์ ซึ่งผมก็อยากจะ Explore เช่นกัน เพราะคนไทยไม่ได้เก่งแค่เรื่องอาหาร แต่เรายังมีงานดีไซน์ดีๆ ที่ทำจากบริษัทของไทยและผลิตโดยคนไทย 

 

เลยเลือกแบรนด์แฟชั่นอย่าง Greyhound Original เป็นแบรนด์แรก?



ยุทธชัย: OZO เป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ เราเป็นแบรนด์โรงแรมก็จริง แต่เป็นแบรนด์โรงแรมที่มีความคิดสร้างสรรค์และคิดนอกกรอบ ซึ่งผมมองว่า Greyhound Original เป็นแบรนด์ไทยที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีความครีเอทีฟและสนุกเช่นเดียวกับ OZO 

 

เขาเป็นแบรนด์ที่มี Personality ผมมองว่าถ้าผมยืนถ่ายรูปกับคุณบี ผมรู้สึกว่าผม Outdate สุดๆ (หัวเราะ) ด้าน Personality ผมสู้คุณบีไม่ได้เลย อินเนอร์ของคนที่ใส่ชุด Greyhound ต้องมี Personality ที่แตกต่างจากคนอื่น ดังนั้นยูนิฟอร์มใหม่ที่เราออกแบบ ผมเชื่อว่ามันแหวกแนว คือมันเป็น Very unconventional hotel uniform ไม่มีโรงแรมไหนที่จะออกแบบยูนิฟอร์มแบบนี้อีกแล้ว นอกจาก OZO 

 

คุณบดินทร์รู้สึกอย่างไรบ้างตอนที่ OZO  ติดต่อมาให้คอลแลบกันเพื่อออกแบบยูนิฟอร์ม 

 

บดินทร์: ตื่นเต้นมาก เพราะก่อนหน้านี้ที่ Greyhound เองก็เคยออกแบบยูนิฟอร์มให้กับองค์กรต่างๆ เช่นกัน แต่นั่นไม่ใช่การคอลลาบอเรชัน เป็นเหมือนการจ้างงานปกติมากกว่า แต่การคอลแลบระหว่าง OZO และ Greyhound ครั้งนี้สนุกตรงที่ยูนิฟอร์มจะยังมีตัวตนของทั้งสองแบรนด์ เช่น เรื่องสีของโรงแรมที่เรานำมาใช้กับยูนิฟอร์ม รวมไปถึง Energy ของแบรนด์ OZO ที่คุณท็อปสร้างไว้ ฯลฯ ส่วนของแบรนด์ Greyhound เรามีกราฟิกต่างๆ ในสไตล์ Greyhound ดังนั้นทั้งสองแบรนด์ก็ต้องมาเจอกันและหาจุดร่วมตรงกลาง ซึ่งผมมองว่าเป็นความท้าทาย และความสนุกที่ได้ทำ  

 

ทั้งสองแบรนด์ต่างมี DNA ที่ค่อนข้างชัดเจน อยากรู้ว่าเรามีจุดร่วมอย่างไรในการทำงานครั้งนี้ 

 

บดินทร์: สำหรับผม การคอลแลบเป็นการเอาตัวตนของทั้งสองฝั่งมาเจอกัน อาจมีจุดเชื่อมในเรื่องของความเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ อันนี้เป็นสิ่งที่คล้ายๆ กัน เราเป็นคนที่สนใจเรื่องความคิดสร้างสรรค์ Greyhound Original จะมีความเป็นแฟชั่นมากกว่า เพราะเป็นแบรนด์เสื้อผ้า ส่วน OZO จะมีความเป็นไลฟ์สไตล์มากกว่า และมีเรื่องของ Energy พนักงานที่ต่างออกไป เราเลยกลับมาเขย่าจุดร่วม จนเกิดเคมีใหม่ๆ ที่ทำให้เกิดภาพใหม่ OZO จะดูเป็น Greyhound เลยก็ไม่ใช่ เพราะยังมีความเป็นตัวตนของเขาอยู่  

 

ยุทธชัย: ผมมองว่า OZO อยากเท่เหมือน Greyhound (หัวเราะ) ต้องบอกว่า พนักงานของ OZO แตกต่างจากพนักงานของแบรนด์หลักอื่นๆ ที่ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป มีอยู่ในพอร์ต คือแบรนด์ Amari, Shama และ Oriental Residence เพราะพนักงาน OZO ค่อนข้างจะสะท้อนบุคลิกสนุกสนานของแบรนด์ได้ชัดเจน ตอนนี้เราสร้างวัฒนธรรมหรือ Personality ของแต่ละแบรนด์ใหม่เพื่อให้แมตช์กับการตอบโจทย์ตลาดของลูกค้าที่ไม่เหมือนกัน เราต้องวางกลยุทธ์การตลาดเพื่อให้กลุ่มลูกค้าที่เรา Target ไว้ แมตช์กับ Brand Personality ซึ่งเราก็อยากให้ Personality ของลูกค้าเองกำหนดแบรนด์ด้วย ไม่ใช่ว่าลูกค้า OZO เป็นลูกค้าที่แบบวัยรุ่นจ๋าหรือวัยเกษียณ ลูกค้าของเราหลากหลาย ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เราอาจต้องค่อยๆ ดู ค่อยๆ เลือกที่จะผลักดันสร้าง Personality ของแบรนด์ร่วมกับ Greyhound ผมเชื่อว่ากลุ่มลูกค้าจะชัดขึ้นในการทำการตลาด จนถ้าเขามาที่พัทยา ภูเก็ต หรือสมุย เขาจะมองแบรนด์เราเป็น Top of Mind

 

OZO

 

คอนเซปต์ของการออกแบบยูนิฟอร์มเป็นอย่างไร

 

บดินทร์: เราดูฟังก์ชันต่างๆ ของ OZO ว่ามีอะไรบ้าง รวมถึง Tagline ของแบรนด์ OZO คือ ‘Unpack. Good. Vibes.’ มันมีเซนส์ของความเซอร์ไพรส์อยู่ มีความตื่นเต้นอะไรบางอย่างอยู่ในนั้น ตอนแรกที่ออกแบบมาก็ไม่ใช่ว่าผ่านเลย เพราะแม้คาแรกเตอร์ของแบรนด์ OZO จะชัดเจนมากว่าเป็นแบรนด์ที่สนุกและมีสีสัน แต่ก็ต้องเขย่ากันหลายรอบกว่าจะถ่ายทอดความสนุกและมีสีสันนั้นออกมาเป็นยูนิฟอร์มที่พนักงานจะอยากใส่ ที่สำคัญต้องใส่แล้วทำงานสะดวกด้วย

 

เรื่องของสีสัน ตอนแรกเราก็ไม่ได้กล้าหาญในการใช้สีขนาดนั้น แต่ OZO มีจุดยืนที่ชัดเจนและเข้าใจตัวเอง เขารู้ว่าเขาต้องการอะไร เขาก็เอาสิ่งเหล่านั้นมากางให้เราดู แล้วบอกว่านี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการ อะไรเป็นสิ่งที่เขาขาดไม่ได้ 

 

ในช่วงเริ่มต้นเราอาจลังเลในการใช้สี เพราะมันไม่ใช่โซนของเรา แต่พอผสมกันมันก็กลายเป็นสีใหม่ๆ แล้วสีสันพวกนี้มีความร่วมสมัย เราอยากให้มันทันสมัยและไปในทาง Unisex แม้แต่เรื่องสรีระก็ต้องง่ายกับการใส่ด้วย เพราะไม่ว่าจะผอมหรือเจ้าเนื้อหน่อยก็ใส่แล้วดูดีได้ ทุกอย่างมัน Unisex และ Oversize มีความรีแลกซ์ที่เข้ากับความเป็น OZO และมีระดับความยาวของชุดที่เหมาะกับคนเอเชีย  

 

 

น่าจะรวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมด้วย?  

 

บดินทร์: เรื่องการเลือกเนื้อผ้าจะเป็นเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานไปเลย เพราะเรามีโจทย์ในเรื่องของอากาศของภูมิภาคเอเชีย เนื้อผ้าที่ใช้ก็จะเป็นคอตตอนผสม เพราะระบายความร้อนได้ดี และมีเรื่องของความทนทานที่พนักงานทุกคนต้องใส่ชุดในการทำงานทุกวัน เรื่องสีที่ต้องสดใสคงทน ไม่ใช่ซัก 10 ครั้งแล้วกลายเป็นสีซีด ไม่สวย เราเลยเลือกใช้ผ้าโพลีเอสเตอร์มาผสม แม้ต้องซักบ่อยสีก็ยังสดใส เนื้อผ้ายับยากจึงไม่ต้องรีดมาก นอกจากนี้เรายังทวิสต์ไอเดียเอากราฟิกมาผสมอยู่ในฟังก์ชันของชุดด้วย  

 

ครั้งแรกที่ได้เห็นดราฟต์แรกรู้สึกอย่างไรบ้าง 

 

ยุทธชัย: แฮปปี้ ผมรู้สึกว่าพนักงานเองก็แฮปปี้นะ เขารู้สึกว่ามี Energy ขึ้น เวลาที่เขาใส่เสื้อผ้าที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์ มีสีสันที่สดใสฉูดฉาด ซึ่งเป็นสีที่อยู่ในแบรนด์ของ OZO สิ่งที่ผมคิดว่าคุณบีส่งต่อมาได้ดีคือเรื่องความยืดหยุ่น คือไม่ว่าพนักงานจะมีรูปร่างหรือความสูงแบบไหน ใครใส่ยูนิฟอร์มนี้ก็จะดูเท่ มีสไตล์ เพราะความโอเวอร์ไซส์ มันเป็นยูนิฟอร์มที่ทำให้คนอยากถ่ายรูปด้วย ผมว่าแขกหลายคนเห็นก็ยิ้มนะ

 

 

ถือว่างานคอลแลบครั้งนี้น่าจะตอบโจทย์ทิศทางของแบรนด์ที่วางไว้กับ OZO ได้เลยไหม

 

ยุทธชัย: ผมรู้สึกได้ว่ามันมี Energy มีชีวิตชีวา จากนี้เราต้องเทสต์ต่อว่า พนักงานใส่แล้วจะเป็นอย่างไร และมีอะไรที่ต้องพัฒนาอีกในครั้งต่อๆ ไป ซึ่งการคอลแลบจะไม่ได้จบแค่ชุดยูนิฟอร์ม แต่ยังต่อยอดสู่สิ่งอื่นๆ อีก เช่น Merchandise ต่างๆ

 

นอกจากยูนิฟอร์มแล้ว OZO ยังมีแผนที่จะร่วมงานกับแบรนด์อื่นๆ อีกไหม

 

ยุทธชัย: ตอนนี้เราก็เวิร์กกับ น้องระริน ธรรมวัฒนะ จากแบรนด์ไอศกรีม Guss Damn Good เขาเป็นเพอร์เฟกชันนิสต์ทางด้านคราฟต์ไอศกรีม เราเลยชวนมาร่วมสร้างสรรค์รสชาติใหม่เป็นรสชาติพิเศษเฉพาะสำหรับ OZO ถึงสองรสชาติ เป็นไอศกรีมไวบ์สนุกๆ รสแรกชื่อว่า Good Vibes ตัวนี้จะเป็นซอร์เบต์แตงโมที่ตัดรสด้วยเกลือ อร่อยสดชื่น สมชื่อ Good Vibes และอีกรสชื่อ Cheat Day เป็นบานอฟฟี่ที่ซ่อนเซอร์ไพรส์สนุกๆ ไว้ ซึ่งทั้งสองรสจะจำหน่ายที่โรงแรม OZO และที่หน้าร้านของ Guss Damn Good ด้วยครับ

 

ถามว่าการคอลแลบจะต่อยอดได้อย่างไรบ้าง คือถ้าพูดถึงงานคราฟต์มันไปต่อได้หลายอย่างมาก ไอศกรีม เบียร์ และอื่นๆ เต็มไปหมด อาจรวมไปถึงฝั่งศิลปิน นักดนตรี นักแต่งเพลง และงานอาร์ตต่างๆ ที่เราต้องค่อยๆ เลือกว่าจะไปในรูปแบบไหน โดยส่วนตัวผมอยากสนับสนุนศิลปินไทย และมีแนวคิดว่า ไม่ว่าจะไปคอลแลบกับแบรนด์ใด ผลลัพธ์ที่ได้ก็ควรจะวิน-วินกันทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่แค่ทุ่มเงินอย่างเดียวแล้วบอกว่านี่คือการคอลแลบ

 

ผมเชื่อว่าแบรนด์คอมเมอร์เชียลมันต้องวิน-วิน และทั้งสองแบรนด์ต้องไปด้วยกันได้ เลยต้องใช้เวลาในการคัดเลือกหน่อย 

 

OZO

 

หลังจากนี้มองภาพว่าในอนาคตอันสั้น OZO จะเติบโตต่อไปอย่างไร

 

ยุทธชัย: แน่นอนในเรื่อง Brand Personality มันต้องชัดขึ้น เป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างแมตช์ได้ดีกับกลุ่มทาร์เก็ตที่เราอยากสร้างขึ้นมา แบรนด์ OZO อาจต้องไดนามิกหน่อยในเรื่องของดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง, PR หรือการคอลลาบอเรชันกับบล็อกเกอร์ อินฟลูเอ็นเซอร์ ฯลฯ ซึ่งเราต้องทำแบบต่อเนื่อง ไม่สามารถทำระยะสั้นๆ เท่านั้น ผมจึงมองว่าการสร้างแบรนด์ OZO เป็นเรื่องสนุกแบบระยะยาวเลยก็ว่าได้ โดยมีหัวใจสำคัญคือ เราอยากให้แขกทุกท่านสนุกไปกับแบรนด์ OZO เพราะนี่เป็นแบรนด์ที่สนุกและมีสีสัน อยากให้ Tagline ที่ว่า Unpack. Good. Vibes. เป็นสิ่งที่แขกทุกท่านรู้สึกได้จริงๆ เพราะทุกคนย่อมมีความสนุกในแบบของตัวเอง เราอยากให้คุณสัมผัสความสนุกนั้นผ่านทุกๆ มิติของแบรนด์ OZO ครับ

 

ภาพ: OZO

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising