×

ศิลปะ ธรรมชาติ และป่าเขา ‘Khao Yai Art Forest’ แกลเลอรีในธรรมชาติที่เขาใหญ่

23.02.2025
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • จากตอนแรกที่เป็นเพียงผืนดินเปล่าๆ ไม่มีชีวิต กลับได้รับการคืนชีพด้วยงานศิลปะที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ นี่คือจุดกำเนิดของ ‘Khao Yai Art Forest’ พื้นที่ที่ใช้งานศิลปะเข้ามาเยียวยาป่าเขาและตัวเรา เพื่อเชื่อมโยงทุกคนให้กลับไปใกล้ชิดกับธรรมชาติ

จากตอนแรกที่เป็นเพียงผืนดินเปล่าๆ ไม่มีชีวิต กลับได้รับการคืนชีพด้วยงานศิลปะที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ นี่คือจุดกำเนิดของ ‘Khao Yai Art Forest’ พื้นที่ที่ใช้งานศิลปะเข้ามาเยียวยาป่าเขาและตัวเรา เพื่อเชื่อมโยงทุกคนให้กลับไปใกล้ชิดกับธรรมชาติ

 

พื้นที่ Reception

 

พื้นที่ Reception

 

Fog Landscape #48435 โดย ฟูจิโกะ นากายะ (Fujiko Nakaya) 

 

Maman โดย Louise Bourgeois

 

Khao Yai Art Forest เป็นโครงการศิลปะแห่งใหม่ที่จะเรียกว่าแกลเลอรีในธรรมชาติก็คงไม่ผิด เพราะผลงานทุกชิ้นตั้งอยู่ทั่วพื้นที่โครงการ ทุกคนจึงจะได้เดินสัมผัสธรรมชาติตั้งแต่ทางเข้าซึ่งเป็นพื้นที่ต้อนรับ ก่อนออกเดินทางไปบนเส้นทางซึ่งโครงการสร้างขึ้นมาเพื่อให้พวกเราได้ซึมซับทั้งความสวยงามของป่า และงานศิลปะที่ชวนให้รู้สึกสงบ สดชื่น และได้แรงบันดาลใจ

 

ผลงานที่จัดแสดงอยู่มีหลายชิ้น ซึ่งชิ้นงานไฮไลต์ที่เราอยากให้ทุกคนได้เห็นด้วยตาเปล่าก็คือ ‘Fog Landscape #48435’ โดยศิลปินชาวญี่ปุ่น ฟูจิโกะ นากายะ (Fujiko Nakaya) ที่ร่วมมือกับสถาปนิกเชิงพื้นที่ในการสร้างเนินสูงสลับต่ำขึ้นมาบนพื้นที่เปล่า เพื่อให้ไอหมอกฟุ้งและไหลไปตามแรงโน้มถ่วงธรรมชาติ อีกทั้งชิ้นงานนี้ยังเป็นผลงานชิ้นใหญ่ที่สุดที่ศิลปินเคยทำมาตลอดชีวิตของเขาด้วย

 

โดยไอหมอกที่เห็นเป็นละอองน้ำซึ่งโครงการจะเปิดเป็นช่วงเวลา เราแนะนำให้มาช่วงเย็นจะได้เห็นบรรยากาศเย็นๆ สงบนิ่ง แต่ถ้าหากใครอยากได้รูปสวยๆ กลับไปด้วย เราว่าตอนกลางวันก็สวยไม่แพ้กัน

 

 

‘Maman’ แมงมุมยักษ์ของ Louise Bourgeois ที่นำมาตั้งอยู่ใจกลางแปลงข้าว งานชิ้นนี้ศิลปินสร้างขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปี 1999-2002 และนำมาจัดแสดงในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นครั้งแรก หากทุกคนได้เห็นงานชิ้นนี้ใกล้ๆ จะพบว่าศิลปินสร้างแมงมุมเพศเมียที่มีไข่อยู่ด้านใน เพื่อสื่อถึงความเป็นแม่ในฐานะผู้ปกป้องและผู้สร้าง รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ของการเยียวยาความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และธรรมชาติด้วย

 

 

อีกชิ้นงานหนึ่งคือ ‘K-BAR’ บาร์ค็อกเทล 6 ที่นั่งโดยศิลปินดูโอ้ Elmgreen & Dragset ที่สร้างสถานที่แห่งนี้ขึ้นมาเพื่อระลึกถึงเพื่อนผู้จากไป ทุกคนสามารถแวะมานั่งดื่มที่บาร์แห่งนี้ได้ ทว่าบาร์เปิดทุกวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนเท่านั้น และมีแก้วซิกเนเจอร์คือ Dry Martin

 

 

นอกจากนี้ยังมีชิ้นงานอย่าง Madrid Circle ซึ่งอยู่ด้านบนสุดของเนินเขา, GOD หินสลัก 2 ก้อนที่มีคำว่าพระเจ้าซ่อนอยู่ด้านใน เป็นผลงานท้าทายความเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น, Two Planets Series วิดีโอที่ให้เรานั่งชมท่ามกลางป่า และ Pilgrimage to Eternity งานประติมากรรม 10 ชิ้นที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ และหากนำมาประกอบกันจะกลายเป็นเจดีย์ 

 

 

Khao Yai Art Forest เน้นสร้างประสบการณ์ผ่านศิลปะและธรรมชาติ เมื่อมาที่นี่ทุกคนจะไม่ได้เดินชมแค่ศิลปะเพียงอย่างเดียว แต่ยังได้เข้าใกล้ธรรมชาติในรูปแบบใหม่ที่ชวนให้รู้สึกได้รับการเยียวยาด้วย นอกจากนี้ใครที่อยากมานั่งชิมอาหารท่ามกลางป่าไม้ ที่นี่ก็มีมื้อพิเศษทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็นให้จองเช่นกัน โดยฝีมือของ เชฟหนุ่ม-วีระวัฒน์ ตริยเสนวรรธน์ แห่งร้านอาหาร Samuay & Sons จังหวัดอุดรธานี

 

 

ตอนนี้โครงการเปิดให้เข้าชมแล้ว ทุกวันพฤหัสบดี-ศุกร์ เวลา 12.30-18.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น.

 

บัตรเข้าชมมี 4 ราคา ได้แก่

  • บัตรเข้าชมฟรี: ชมได้เฉพาะพื้นที่ Reception และผลงาน Maman (เปิดให้เข้าชมถึงเดือนพฤษภาคม 2568 เท่านั้น)
  • บัตรเข้าชมพื้นที่เต็มรูปแบบ ราคา 500 บาท
  • บัตรเข้าชมพื้นที่เต็มรูปแบบ + อาหารกลางวัน ราคา 1,800 บาท 
  • บัตรเข้าชมพื้นที่เต็มรูปแบบ + อาหารค่ำ ราคา 2,200 บาท 

 

หมายเหตุ:

  • อาหารกลางวัน เริ่มเวลา 13.00-14.00 น. (วันพฤหัสบดี-ศุกร์) และ 12.00-13.00 น. (วันเสาร์-อาทิตย์) 
  • อาหารค่ำ: เริ่มเวลา 17.00-18.30 น. (วันพฤหัสบดี-อาทิตย์)
  • ช่วงเวลาเปิดให้ชมหมอก (Fog Forest Experience) เวลา 16.00 น. (วันพฤหัสบดี-ศุกร์) และ 11.30 น. / 16.00 น. (วันเสาร์-อาทิตย์)
  • แนะนำให้เตรียมเสื้อผ้าและรองเท้าที่เหมาะสำหรับการเดินในป่ามาด้วย

 

ซื้อบัตรหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ www.khaoyaiart.com/art-forest/exhibitions

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising