สำหรับหลายคนวันดีๆ อาจเริ่มต้นไม่ได้หากขาดกาแฟ ทุกวันนี้เพียงแค่กาแฟชงหรือกาแฟซองอาจไม่เพียงพอตอบใจของนักชิมกาแฟอีกต่อไป เพราะเหล่า Home Barista ต่างสรรหาเมล็ดกาแฟคุณภาพและเหล่าอุปกรณ์มากมาย เพื่อมาสนองจิตวิญญาณแห่งความเป็นคอกาแฟของตัวเอง (และอาจจะคนรอบๆ ตัวด้วย)

การออกแบบพื้นที่รองรับกิจกรรมกาแฟเหล่านี้ให้ลงตัวจึงเป็นเรื่องจำเป็น วันนี้เราจึงอยากขอแนะนำแนวทางการจัดพื้นที่กาแฟให้เหล่าคนรักกาแฟได้รู้ถึงแนวทางการจัดสรรพื้นที่ และการเลือกวัสดุที่น่าใช้กับมุมกาแฟโปรดของคุณ ก็นี่มันพื้นที่พิเศษของคุณนี่ จะธรรมดาไปได้อย่างไร

กาแฟเลิฟเวอร์สาย Slow

เริ่มต้นด้วย Slow Bar หรือการทำกาแฟแบบละเมียดละไม มักเป็นจุดเริ่มต้นของคนที่เริ่มหลงเข้าไปในโลกของการทำกาแฟ เพราะเพียงแค่คุณมีดริปเปอร์ กระดาษกรอง เมล็ดกาแฟ เครื่องบดมือหมุน และกาดริป เท่านี้คุณก็สามารถชงกาแฟแสนอร่อยได้เทียบเท่ากับร้านชั้นนำแล้ว (ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของคุณด้วยนะ) การออกแบบพื้นที่ให้กับสาย Slow จึงเน้นบรรยากาศของความสุนทรียะเป็นสำคัญ

• อาจเลือกเป็นเคาน์เตอร์โล่งๆ ที่จะสามารถวางแผ่อุปกรณ์ทั้งหมดได้ในทุกครั้งที่จะเริ่มชง

• การเก็บวางอาจมีเชลฟ์เหนือเคาน์เตอร์สำหรับจัดเก็บอุปกรณ์จำเป็นให้หยิบใช้ได้โดยสะดวก ถ้าออกแบบให้อยู่ติดกับหน้าต่างหรือระเบียงด้วยยิ่งได้บรรยากาศ เพราะในเวลาที่คุณกำลังดริปนั้นมักใช้เวลาประมาณ 3-4 นาที ระหว่างที่รอกาแฟค่อยๆ สกัดออกมา ถ้ามีทิวทัศน์ดีๆ ให้ได้ผ่อนคลายไปด้วยน่าจะวิเศษ

• สาย Slow นั้นมักไม่มีอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้ามากมายนัก จึงทำให้โยกย้ายได้สะดวก เมื่อใช้งานเสร็จสามารถยกนำไปล้างเก็บที่ซิงก์ และเช็ดให้แห้งเก็บขึ้นเชลฟ์โชว์พร้อมกับของสะสมอื่นๆ ให้ทุกๆ คนได้เห็นความเป็นกาแฟเลิฟเวอร์ก็เข้าที

• ท็อปโต๊ะไม้บนโครงขาแบบลอยตัวคือตัวเลือกที่ดีของคนที่เพิ่งเริ่มเข้ามาสู่วงการกาแฟเลิฟเวอร์ เผื่อเปลี่ยนใจย้ายที่ก็ทำได้ไม่ยาก ทั้งอุปกรณ์ก็ยังไม่มากนัก วันไหนเบื่อๆ อยากปรับมุมไปส่วนอื่นของบ้านก็ง่ายดาย

กาแฟเลิฟเวอร์สาย Speed

เมื่อผ่านกาแฟดริปมาแล้วหลายคนมักจะขยับขยายไปหาเครื่องชงที่สามารถทำเมนูได้หลากหลายขึ้นอย่างที่เรียกกันว่า Espresso Machine ทุกวันนี้มีเครื่องชงมากมายในท้องตลาด ซึ่งสามารถชงกาแฟได้เกือบเทียบเท่ากับร้านชั้นนำเลยทีเดียว อาจจะแตกต่างไปบ้างในแง่ของการรองรับการชงต่อเนื่องในปริมาณมาก แต่สำหรับ Home Barista แล้ว นอกจากเช้า กลางวัน เย็น เราก็คงจะไม่ได้ชงกาแฟต่อวันมากไปกว่านี้สักเท่าไร เครื่องกึ่งโปรแบบหัวเดียวก็นับได้ว่าเหลือจะเพียงพอ

• การออกแบบพื้นที่ให้กับเครื่องชงนั้นก่อนอื่นเลยต้องรู้ก่อนว่าเราจะใช้เครื่องชงระดับไหน ขนาดและความแข็งแรงของโต๊ะรองรับควรจะเป็นเท่าไร ในส่วนนี้แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้มาซึ่งเครื่องชงที่ตรงใจ และสำหรับคนที่จริงจัง ขนาดและความสูงของเครื่องจะมีผลต่อการกำหนดความสูงของบาร์และชั้นวางด้วยเช่นกัน

• คนที่คลั่งความเป็น Speed Bar ก็มักยืนกินอยู่ที่บาร์นั้นนั่นแหละ อาจออกแบบให้มีเก้าอี้สตูลสูงสักตัวหรือสองตัว เผื่อจะชวนคนอื่นๆ มาร่วมชิมหน้าบาร์ไปด้วยกัน

• ความสนุกของเครื่อง Espresso Machine คือในความเป็นมาตรฐานเดียวกัน เช่น เครื่องระบบ E61 จะมีชุดแต่งมากมายให้เลือกปรับแต่งเครื่องตามความชอบและความถนัดของเรา บ่อยครั้งที่คนสาย Speed Bar จะนำเอาชุดแต่งที่ไม่ได้ใช้มาวางอวดความเป็นกาแฟเลิฟเวอร์ตามพื้นที่ต่างๆ ในบ้านเพื่อเป็น Conversation Starter เกี่ยวกับเรื่องกาแฟ

• ท็อปหินอ่อน หินเทียมที่เข้ากับชุดครัว และยังได้ความแข็งแรงเพียงพอต่อการวางเครื่องชง Espresso จะทำให้เรามั่นใจได้มากขึ้น อาจมีขอบเคาน์เตอร์ที่ยกขึ้นบริเวณมุมผนัง ซึ่งจะช่วยให้สามารถเก็บกวาดผงกาแฟได้โดยง่ายอีกด้วย

กาแฟเลิฟเวอร์สาย Mixologist

กาแฟก็รัก การดื่มก็เลิฟ! ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่ทำทั้งสองอย่างไปเลยเล่า ก็เพราะในโลกของการผสมผสานเครื่องดื่มนั้นยังมีเครื่องดื่มอีกหลายตัวเลยที่สามารถนำกาแฟไปเป็นส่วนประกอบของเครื่องดื่มได้ ออกแบบพื้นที่กาแฟไม่ว่าจะเป็นสาย Speed หรือสาย Slow ตามคำแนะนำข้างบนแล้ว เพิ่มเติมชั้นวางส่วนผสมต่างๆ รวมทั้งชั้นเก็บอุปกรณ์บาร์เข้าไปด้วย

• เมื่อมีเครื่องดื่มหลากหลายประเภทมากขึ้น ชั้นวางและตู้เก็บก็ต้องมากตามมา นำตู้เย็นมาไว้ใกล้มือเพื่อสะดวกในการหยิบส่วนผสม และอาจมีซิงก์อยู่ใกล้ๆ ในพื้นที่เดียวกัน ก็นับได้ว่าไม่เกินความจำเป็นไปนัก

• พื้นที่สำหรับประกอบเครื่องดื่มนั้นอาจจะต้องใหญ่ขึ้นสักหน่อยตามความซับซ้อนของเมนู จังหวะจากตู้เย็นผ่านซิงก์ไปที่ส่วนพื้นที่ประกอบเครื่องดื่ม ต่อเนื่องไปถึงโซนกาแฟนั้น สามารถใช้กฎสามเหลี่ยมของการทำงานครัวมาประยุกต์ โดยเปลี่ยนจากเตาไฟเป็นเครื่องกาแฟแทน จะทำให้สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นและลงตัวอย่างแน่นอน
• เลือกใช้วัสดุท็อปเคาน์เตอร์เป็นสเตนเลสจะทำให้ทำความสะอาดได้ง่าย และทนทานต่อการใช้งานในระยะยาวอีกด้วย

กาแฟเลิฟเวอร์สายเพื่อนเยอะ กาแฟดีก็ต้องแบ่งปัน

สายนี้คือคนที่มีประสบการณ์กาแฟมาพอสมควรแล้ว อุปกรณ์เยอะ เมล็ดกาแฟก็แยะ จะชิมจะชงคนเดียวก็กระไรอยู่ ซื้อเมล็ดมามากมายกินคนเดียวก็คงไม่ทัน ถ้าอย่างนั้นชวนเพื่อนๆ มาเป็นกาแฟเลิฟเวอร์ด้วยกันเสียเลย ก็ความสุขนั้นเป็นเรื่องที่ควรแบ่งปัน และมันสนุกกว่าเวลาได้กินกาแฟอร่อยๆ ไปพร้อมกับเพื่อนฝูง จริงไหมล่ะ!

• ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่กาแฟแบบใดในข้อข้างต้นก็สามารถเป็นสิ่งนี้ได้ แต่สิ่งสำคัญที่เพิ่มเข้ามาคือโต๊ะตัวใหญ่สำหรับจัดงาน Taste Cupping หรือชงแข่งกันเพื่อวัดว่าใครทำได้อร่อยกว่าก็สนุกไม่เลว เพราะสำหรับคอกาแฟแล้ว การได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อประสบการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นคือความสนุกของพวกเขาเลยล่ะ
• เลือกชุดโซฟาสำหรับการเอกเขนกระหว่างวัน ชั้นหนังสือเกี่ยวกับกาแฟไว้หาข้อมูลมาถกเถียงพูดคุย เป็นมุมสนุกของกลุ่มเพื่อนในวันว่างได้อย่างดี
• การให้แสงที่ตรงกับแสงธรรมชาติเพื่อให้มองเห็นสีของกาแฟได้อย่างชัดเจน และอาจมีอุปกรณ์มาตรฐานในการทำ Cupping หรือเพียงแค่หาชุดถ้วยเซรามิกที่เหมือนๆ กันไว้สักชุดหนึ่ง จะช่วยให้กิจกรรมสนุกขึ้นไปอีกขั้น
• โต๊ะใหญ่สำหรับการ Taste Cupping ควรมีความสูงเท่าบาร์สูง หรืออาจเลือกเป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่ปรับระดับขาได้ เพื่อจะได้เหมาะกับการก้มลงชิมกาแฟบนโต๊ะนั่นเอง รวมทั้งขนาดก็อาจเลือกให้ใหญ่พอที่จะแผ่อุปกรณ์ทั้งหมดบนโต๊ะได้ แต่ก็ต้องสัมพันธ์กับพื้นที่โดยรอบของห้องเพื่อสามารถเดินผ่านไปรอบโต๊ะได้โดยสะดวก

กาแฟเลิฟเวอร์สายสะดวก

และก็มาถึงแนวทางการจัดพื้นที่แบบสุดท้ายของเรา ก็คนมันชอบกาแฟ แต่ไม่มีเวลา และก็ไม่ได้มีที่มากมาย งั้นนี่เลย! สะดวกสุดๆ กาแฟแคปซูล!!

• ทุกวันนี้มีโรงคั่วมากมายที่ได้นำเสนอกาแฟแคปซูลจากเมล็ดที่พวกเขาเลือกเอง มีตั้งแต่กาแฟคุณภาพไปจนถึงเกรดสเปเชียลตี้ ข้อดีของระบบแคปซูลคือง่าย ใช้พื้นที่น้อย และแทบไม่ต้องการการดูแลรักษาแต่อย่างใด

• เครื่องชงกาแฟแคปซูลนั้นมีหลากหลายขนาด แต่สามารถหาเครื่องคุณภาพในขนาดที่สามารถเข้าไปอยู่ในชั้นหนังสือก็ยังได้ หรือจะวางไว้บนโต๊ะก็ไม่ต่างอะไรกับลำโพงหนึ่งตัวเลย เวลาต้องการกาแฟก็สามารถเปิดเครื่องจนพร้อมใช้ได้ภายในไม่กี่นาที ถ้าไม่เรียกว่าสะดวกก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว

และนี่ก็คือแนวทางการออกแบบพื้นที่สำหรับความเป็นคอกาแฟอย่างเราๆ และไม่ว่าคุณจะเป็นกาแฟเลิฟเวอร์สายไหน สุดท้ายเราก็คือคอกาแฟเหมือนๆ กัน และก็น่าจะหวังให้วงการกาแฟนั้นพัฒนาไปได้เรื่อยๆ ซึ่งนั่นก็แปลว่าเราจะมีกาแฟที่อร่อยขึ้นให้เลือกซื้อหากันในอนาคต อุดหนุนเกษตรกรไทย อุดหนุนโรงคั่วไทย เพื่อให้พวกเขามีกำลังใจพัฒนา สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนมีความสุขกับมุมกาแฟของคุณ และแน่นอนกับกาแฟแก้วโปรดในมือคุณด้วยเช่นกัน

ภาพประกอบ: SKUNK MAN