×

ส่อง 7 เทรนด์สุขภาพที่จะมาแรงยิ่งขึ้นในปี 2025

01.01.2025
  • LOADING...
เทรนด์สุขภาพ

ก้าวเข้าสู่ปีใหม่ทีไร เรื่องสุขภาพมักจะติด 1 ใน 3 เป้าหมายอันดับต้นๆ ที่เราตั้งไว้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดูแลรูปร่าง ลดน้ำหนัก หรือปรับลดและละพฤติกรรมอะไรบางอย่าง เพื่อสุขภาพองค์รวมที่ดีขึ้น แต่ต่อให้ไม่มีเรื่องของ New Year’s Resolutions เข้ามา เราก็เชื่อว่าประเด็นเรื่องสุขภาพยังคงเป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสำคัญ ด้วยการเติบโตของตลาดสุขภาพทั่วโลกจากปี 2019 ที่ขยายตัวจาก 4.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 6.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 อันเป็นผลมาจากพฤติกรรมของผู้คนที่เปลี่ยนไปหลังยุคโควิด ซึ่งคาดว่าตลาดจะเติบโตถึงเกือบ 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2028 เลยทีเดียว

 

งานนี้เราเลยรวบรวม 7 เทรนด์สุขภาพในปี 2025 มาฝากผู้อ่านชาว LIFE ทุกคน มาดูกันว่าเทรนด์ไหนจะมาแรงจนฉุดไม่อยู่กันบ้าง

 

 

  1. Longevity ฉันจะไม่ยอมแก่!

 

การมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอกยังคงเป็นเทรนด์ที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสำหรับชาว Millennials ที่เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพมากขึ้น ด้วยความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกายตัวเอง รวมไปถึงปัญหาสุขภาพที่เห็นจากคนในครอบครัว 

 

ดังนั้นคนกลุ่มนี้จึงจะมองหาวิธีการดูแลสุขภาพในเชิงป้องกัน (Preventive) เพื่อให้ตัวเองมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืนและดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้ความสำคัญกับอาหารเสริม, ทำ IF (Intermittent Fasting), ดริปวิตามิน, พึ่งพาทรีตเมนต์ชะลอวัย ใช้เสียงหรือความเย็นอย่าง Ice Bath บำบัดร่างกาย เป็นต้น

 

 

  1. AI-Fitness เทรนกับ AI ที่ไหนก็ได้

 

ตั้งแต่ยุคโควิดที่เราติดแหง็กอยู่กับบ้านก็เห็นได้ชัดเจนว่าอุตสาหกรรมฟิตเนสมีการปรับตัวมากขึ้น และหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องการเปิดเทรนนิ่งออนไลน์ ซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคยาวมาถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะยุคนี้ที่ AI ดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันเราไปเสียแล้ว 

 

ผู้คนหันมาใช้ AI หรือแอปพลิเคชัน ในการวางแผนออกกำลังกายกันมากขึ้นด้วยความสะดวก อยู่ที่ไหน เวลาใด ก็ออกกำลังกายได้ แถมราคายังเข้าถึงง่ายกว่าการจ่ายค่าสมาชิกในยิมเป็นประจำเสียอีก

 

แต่อย่างไรก็ตาม การใช้ AI ก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากสรีระและพื้นฐานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน นี่อาจเป็นจุดที่ทำให้เทรนเนอร์ในเวอร์ชันมนุษย์ยังคงเป็นที่ต้องการในแวดวงฟิตเนสอยู่เสมอ

 

 

  1. Wearable Health Tech ล้ำกว่าเดิม

 

ยุคนี้เราไม่ได้สวมใส่สมาร์ทวอทช์แค่เอาไว้นับก้าวเดินเท่านั้น แต่เราให้ความสำคัญกับสุขภาพในเชิงลึกกว่านั้น เราจึงเห็นได้ว่า Wearable Health Tech รุ่นใหม่มักมีฟังก์ชันของการตรวจวัดความเครียด ระดับน้ำตาลในเลือด และความดัน ที่ล้วนวัดผลได้ง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น ถือเป็นอีกความก้าวหน้าที่ช่วยให้เราต่างรับมือกับปัญหาสุขภาพที่ไม่คาดคิดได้ดียิ่งขึ้น 

 

 

 

  1. Gut Health สุขภาพลำไส้สำคัญกว่าที่คิด

 

Microbiome หรือจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในลำไส้ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ถูกกล่าวถึงไม่น้อยในช่วงที่ผ่านมา ผลวิจัยเผยว่า Microbiome ในลำไส้เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญต่อสุขภาพโดยรวม โดยมีบทบาทสำคัญต่อกระบวนการย่อยอาหารไปจนถึงผลกระทบต่อสุขภาพจิต ซึ่งปีนี้คาดว่าเราจะได้เห็นการพัฒนาของผลิตภัณฑ์จำพวก Probiotic และ Prebiotic ที่มีคุณภาพสูงมากขึ้นในท้องตลาดกันอย่างแน่นอน

 

 

  1. Weight Management นวัตกรรมช่วยลดน้ำหนักเยอะขึ้น

 

ถ้าลองเสิร์ชวิธีลดน้ำหนักในปัจจุบัน คุณจะเจอกับสารพันนวัตกรรมตั้งแต่กิน ฉีด ยันผ่า ซึ่งเราย้ำอยู่เสมอว่าวิธีลดน้ำหนักที่ช่วยให้สุขภาพดีอย่างยั่งยืนคือการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย แต่ก็ต้องยอมรับว่าปัจจุบันมีนวัตกรรมมากมายที่ช่วยพิชิตรูปร่างที่หมายปองได้ง่ายยิ่งขึ้น 

 

การใช้ยาที่ควบคุมโดยแพทย์อย่าง GLP-1 ที่ยังคงเป็นกระแสอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหมู่คนดังฮอลลีวูด หรือการเข้าโปรแกรมลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ที่ตรวจวัดตั้งแต่ค่าเลือดไปจนถึงฮอร์โมน เพื่อโปรแกรมลดน้ำหนักระยะยาว

 

 

  1. Women’s Health โลกตื่นตัวกับสุขภาพผู้หญิงมากขึ้น

 

ในอดีตสุขภาพของผู้หญิงมักเป็นประเด็นที่ไม่ถูกหยิบยกมาเป็นกรณีศึกษาเมื่อเทียบกับผู้ชาย แต่ในปีนี้เราจะเห็นได้ว่าโลกให้ความสำคัญกับสุขภาพผู้หญิงมากขึ้นด้วยความครอบคลุมของบริการด้านสุขภาพ เช่น โปรแกรมสุขภาพสำหรับวัยทอง โปรแกรมฝากไข่ และโปรแกรมตรวจสุขภาพฮอร์โมน 

 

 

  1. Genomic Wellness วางแผนดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล

 

การวางแผนดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคลอย่างการตรวจพันธุกรรม จะเป็นที่นิยมและแพร่หลายในปีนี้มากขึ้น เนื่องด้วยประสิทธิภาพในการรักษาที่ตรงจุดและแม่นยำ ทั้งยังเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากการแพ้ยาได้ดี 

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X