ใครๆ ก็ใฝ่ฝันอยากมีผิวที่ดูใส เปล่งประกาย และสะท้อนแสงราวกับกระจก มันอาจฟังดูยากสำหรับคนที่ไม่ได้เกิดมามีพื้นฐานผิวที่เรียบเนียนสวย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะมันสามารถสร้างได้หากเราเข้าใจหลักการดูแลผิวที่ถูกต้อง
วันนี้ LIFE จึงรวบรวมเคล็ดลับจากแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก เพื่อไขความลับสู่ผิวโกลวใสที่มีสุขภาพดีของผิวจากภายในสู่ภายนอก ว่าจะต้องดูแลอย่างไรให้ได้ผิวในอุดมคติแบบนี้
การทำความสะอาดผิวคือพื้นฐานสำคัญสู่ผิวใส
แพทย์ผิวหนังมักเน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี ‘ผิวที่สะอาดหมดจดคือก้าวแรกสู่การมีผิวที่เปล่งประกาย’ จากข้อมูลของ American Academy of Dermatology (AAD) และ CMC Dubai บอกว่า การล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เป็นแนวทางทั่วไปที่แนะนำ
แต่หากคุณมีผิวแห้งหรือระคายเคืองง่าย อาจล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์เพียงวันละครั้งในตอนเย็นและใช้น้ำเปล่าในตอนเช้าแทน เพื่อรักษาน้ำมันตามธรรมชาติของผิว แนะนำให้ลองใช้โทนเนอร์เพื่อปรับสมดุลค่า pH และเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงต่อไป ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์ และเหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง
การผลัดเซลล์ผิว จุดเริ่มต้นของการเผยผิวใส
รู้ไหมว่าการผลัดเซลล์ผิว 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ช่วยลดการสะสมของเซลล์ที่ตายแล้ว ซึ่งทำให้ผิวดูหมองคล้ำ แต่ก็ไม่ควรผลัดเซลล์ผิวในวันที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเรตินอยด์หรือใช้สครับและกรดร่วมกัน เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ง่าย ควรเลือกใช้สครับเนื้อละเอียดหรือผลิตภัณฑ์ที่มี AHA / BHA ในความเข้มข้นที่อ่อนโยน เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การเติมความชุ่มชื้นคือกุญแจสำคัญของผิวโกลว
‘ผิวแห้งไม่สามารถสะท้อนแสงได้ดีเท่าผิวที่ชุ่มชื้น’ การเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มี Hyaluronic Acid สำหรับเพิ่มความชุ่มชื้นแบบล้ำลึก และ Ceramide เพื่อฟื้นฟูเกราะปกป้องผิว เป็นหัวใจสำคัญ และอย่าลืมเติมน้ำให้ร่างกายจากภายในด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอ ยิ่งในสภาพอากาศร้อนๆ ของเมืองไทยหรือระหว่างออกกำลังกาย ถึงแม้ไม่มีหลักฐานโดยตรงว่าการดื่มน้ำจะทำให้ผิวชุ่มชื้นในคนทั่วไปที่ดื่มน้ำเพียงพออยู่แล้ว แต่ก็ช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดีและลดโอกาสการขาดน้ำที่กระทบผิว
ใช้กันแดดเป็นเกราะป้องกันผิวจากความหมองคล้ำ
“ครีมกันแดดคือสิ่งที่ใกล้เคียงกับน้ำพุแห่งความเยาว์วัยมากที่สุด” คำกล่าวจาก AAD ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ ควรเลือกสูตร Broad-Spectrum ป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB มีค่า SPF30 ขึ้นไป และทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงหากต้องเผชิญแดดโดยตรง แม้จะอยู่ในร่มก็ไม่ควรละเลย เนื่องจากรังสี UVA สามารถทะลุกระจกได้
สารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อผิวกระจ่างใสและดูเด็ก
ผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินซีแบบเสถียร (Stable Vitamin C เช่น L-Ascorbic Acid) ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ กระตุ้นคอลลาเจน และปรับสีผิวให้เรียบเนียน ควรใช้วิตามินซีในตอนเช้าและตามด้วยครีมกันแดด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันผิวจากแสงแดดและมลภาวะ
การใช้เรตินอยด์ปรับผิวให้เรียบเนียน
เรตินอยด์เป็นสารที่มีงานวิจัยรองรับมากมายว่าช่วยผลัดเซลล์ผิว กระตุ้นคอลลาเจน และลดเลือนริ้วรอย
ควรเริ่มจากปริมาณน้อย (เช่น 0.025%) และใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้งก่อน เพื่อให้ผิวปรับตัว และควรใช้เฉพาะในตอนกลางคืน หลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกับ AHA / BHA ในวันเดียวกัน และอย่าลืมทาครีมกันแดดในเช้าวันถัดมา
ไลฟ์สไตล์ดีเท่ากับสุขภาพดี
อาหาร ผัก ผลไม้ วิตามินซี-อี โอเมก้า-3 และสารต้านอนุมูลอิสระ ล้วนส่งผลให้ผิวแข็งแรง การนอนหลับเพียงพอช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมผิวอย่างมีประสิทธิภาพ
ควรนอนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ส่วนการลดความเครียดก็ช่วยลดการอักเสบในผิว แนะนำให้หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และลดการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทั้งสองสิ่งส่งผลโดยตรงต่อความร่วงโรยของผิวหนัง อย่าลืมนะว่าผิวที่ใสโกลวอย่างยั่งยืนไม่ใช่เพียงแค่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ราคาแพง แต่คือความเข้าใจในหลักการดูแลผิวอย่างถูกต้องและการใส่ใจสุขภาพภายในอย่างต่อเนื่อง
หากคุณทำตามหลักที่แพทย์ผิวหนังแนะนำอย่างสม่ำเสมอ คุณจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เพียงแค่ผิว แต่ยังรวมถึงความมั่นใจที่ฉายออกมาจากตัวคุณด้วย
ภาพ: Shutterstock