สาวๆ หลายคนคงเคยเจอปัญหาผิวแห้งกร้าน คันยุบยิบ หรือแม้แต่ลอกเป็นขุย โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยแบบนี้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะมาทำความรู้จักกับ Body Oil ฮีโร่โปรดักต์ตัวจริงที่จะมาช่วยกอบกู้ผิวของทุกคนให้กลับมาเนียนนุ่มชุ่มชื่นอีกครั้ง
จังหวะทองของการทาออยล์
ความลับอยู่ที่การเลือก ‘จังหวะ’ ที่ใช่ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือหลังอาบน้ำทันที ขณะที่ผิวยังชื้นๆ อย่าเช็ดตัวจนแห้งสนิท ปล่อยให้ผิวหมาดๆ แล้วค่อยๆ นวด Body Oil วนเป็นวงกลม เพราะนี่คือช่วงที่รูขุมขนเปิดกว้าง พร้อมซึมซับความชุ่มชื่นได้ดีที่สุด
เทคนิคการเลือก Body Oil ให้เหมาะกับสภาพอากาศ
- วันที่อากาศแห้งและเย็น เลือกออยล์ที่มีส่วนผสมของ Argan Oil หรือ Jojoba Oil ที่อุดมด้วยวิตามินอี ช่วยล็อกความชุ่มชื่นได้ยาวนาน
- วันที่อากาศร้อนอบอ้าว ใช้ออยล์เนื้อเบาอย่าง Grape Seed Oil หรือ Sweet Almond Oil ที่ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
- วันที่มีแดดจัด มองหา Body Oil ที่ผสม Rosehip Oil หรือ Marula Oil ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากแสงแดด
ทริกเล็กๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Body Oil
แทนที่จะทาออยล์เพียงอย่างเดียว ลองผสม Body Oil 2-3 หยดลงในโลชั่นที่ใช้ประจำ นวดเบาๆ จนซึมเข้าผิว วิธีนี้จะช่วยให้ผิวได้รับทั้งความชุ่มชื่นและสารบำรุงที่เข้มข้นในคราวเดียว เหมาะมากสำหรับวันที่สภาพอากาศแปรปรวน
สัญญาณเตือนว่าคุณควรเพิ่มความถี่ในการใช้ Body Oil
- ผิวเริ่มคัน หรือรู้สึกตึง
- มองเห็นริ้วรอยขาวๆ บนผิว
- ผิวดูหมองคล้ำ ขาดความกระจ่างใส
- รู้สึกว่าผิวแห้งกร้านแม้ทาครีมบำรุงแล้ว
ข้อควรระวังที่ไม่ควรมองข้าม
แม้ Body Oil จะดีต่อผิว แต่ก็ไม่ควรทาหนาจนเกินไป เพราะอาจทำให้เสื้อผ้าเปื้อน และระวังการใช้ออยล์บริเวณที่โดนแดดโดยตรง ควรทาในตอนกลางคืนหรือก่อนสวมเสื้อผ้าแทน และเคล็ดลับสุดท้ายที่เราอยากแนะนำ คือให้ลองเก็บ Body Oil ไว้ในห้องน้ำขณะอาบน้ำอุ่น ไอน้ำจะช่วยอุ่นออยล์ให้มีอุณหภูมิที่พอเหมาะ ทำให้ซึมซาบสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น และอย่าลืมว่าการดื่มน้ำให้เพียงพอก็สำคัญไม่แพ้การบำรุงผิวจากภายนอก ด้วยเทคนิคเหล่านี้ รับรองว่าผิวของทุกคนจะนุ่มชุ่มชื่น พร้อมรับมือกับทุกสภาพอากาศได้อย่างสบายๆ แม้อากาศจะแปรปรวนแค่ไหน ผิวสวยของคุณก็ยังอยู่ในเกณฑ์ควบคุมได้แน่นอน
ภาพ: Courtesy of Kora Organics