ถ้าพูดถึงรองเท้าวิ่งตระกูล BLAST ของ ASICS หลายคนน่าจะคุ้นชื่อ NOVABLAST หรือ SUPERBLAST กันดีอยู่แล้ว ในฐานะรุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความเด้ง ใส่สบาย และใส่ง่าย จนแทบไม่อยากถอด แต่ปีนี้ ASICS จัดหนักกว่าเดิมด้วยปล่อยมาสองรุ่นพร้อมๆ กัน เริ่มด้วย ASICS MEGABLAST™ ที่เปิดตัวในคอลเลกชัน Tokyo Collection ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากสนามกีฬาแห่งชาติ (National Stadium) ที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน World Athletics Championships Tokyo 2025 พร้อมพี่น้องร่วมสายอย่าง SONICBLAST™ ที่ออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ MEGABLAST™ รุ่นนี้จะแตกต่างด้วยฟีลลิ่งที่ “นุ่ม เด้ง และเต็มแรงส่ง” โดยไม่ต้องพึ่งแผ่น ASTROPLATE™ เหมือน SONICBLAST™
เพราะหัวใจของ MEGABLAST™ คือโฟม FF TURBO™ SQUARED Foam ซึ่งเป็นโฟมตัวท็อปที่พัฒนาให้เด้งกว่าเดิมจากรุ่นก่อน ให้ฟีลที่เด้งมากและการซัปพอร์ตที่ชัดเจนตั้งแต่ก้าวแรก พอวิ่งแล้วรู้สึกเท้าดีดกลับในทุกจังหวะการลงเท้า โดยเฉพาะตอนเร่งเพซ ตัวรองเท้ามี stack สูงราว 45 มม. ที่ส้น และ 37 มม. ที่หน้าเท้า ส่วนดร็อปอยู่ที่ 8 มม. จึงให้ความมั่นคงแต่ยังรู้สึกคล่อง น้ำหนักเพียง 224 กรัม (ขนาด US 9) ซึ่งถือว่าเบามากสำหรับรองเท้าที่มีคูชชันหนาขนาดนี้ เราใส่วิ่งยาว ๆ แล้วไม่รู้สึกแบกน้ำหนักเพิ่มเลย
ความรู้สึกหลังใส่จริง
ต้องบอกว่า MEGABLAST™ ทำได้ดีตั้งแต่การวิ่งแบบ Recovery วิ่งไม่เร็วมากไปจนถึงวิ่งสับๆ แบบเทมโป้ มีการตอบสนองที่ไว ยิ่งเร่งยิ่งรู้สึกว่ารองเท้าช่วยส่งแรงกลับในทุกก้าว เราชอบฐานรองเท้าที่กว้างและมั่นคง ทำให้จังหวะลงเท้าไม่โคลง แม้ stack จะสูงมากก็ตาม ส่วนความเด้งของรุ่นนี้เราว่าสูงกว่า SUPERBLAST แบบรู้สึกได้ แต่ก็แลกมาด้วยเสถียรภาพที่ลดลงเล็กน้อย วัสดุ Engineered woven mesh ที่ใช้ทำ Upper เบา โปร่ง และระบายอากาศได้ดี โปร่งจนแทบเห็นถุงเท้าเลยทีเดียว เหมาะกับอากาศเมืองไทย เราลองใส่วิ่ง 15–20 กิโลเมตรยังไม่รู้สึกอับเท่าไรนัก
เหมาะกับใคร
สำหรับเราแล้วในฐานะที่ใส่ SUPERBLAST 2 มาก่อน เมื่อมาลองรุ่นนี้ยิ่งรู้สึกว่าเข้าขาดีมาก ไม่ต้องปรับสไตล์การวิ่งเท่าไรนัก ให้ฟีลลิ่งที่คล้ายคลึงกัน ได้ทั้งวิ่งอีซี่และอยากจะหวด ถือเป็นรองเท้าอเนกประสงค์ที่พกพาไปได้ทุกสถานการณ์ เพราะมันทั้งเด้ง นุ่ม และมั่นคงในคู่เดียว เหมาะกับคนที่อยากได้รองเท้าสำหรับซ้อมทุกวัน วิ่งยาว หรือวิ่งเทมโป้แบบไม่ต้องเปลี่ยนคู่
สนนราคาประมาณ 8,200 บาท อาจดูแรง แต่เมื่อเทียบกับความรู้สึกสบาย ความทน และแรงส่งที่ได้ เราว่ามันคือความคุ้มค่าที่เราสามารถหยิบใส่ได้ทุกสถานการณ์ จะบอกว่าสำหรับใครที่รักฟีลเด้งๆ แบบ BLAST รุ่นนี้อาจกลายเป็นรองเท้าที่คุณไม่อยากถอดเลยก็ได้
ภาพ: นราสิทธิ์ เกษาประสิทธิ์