×

ไอเดียการออกแบบบ้านที่ปรับเปลี่ยนได้ตามช่วงวัย

20.07.2024
  • LOADING...
การออกแบบบ้าน

ในปัจจุบันแนวคิด ‘บ้านที่เติบโตไปพร้อมกับเจ้าของ’ กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะในหมู่คนเมืองที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในระยะยาว แล้วเราจะทำอย่างไรให้บ้านมีความ Better of Age ไปพร้อมๆ กับเรา ที่นับวันจะยิ่งเติบโตขึ้นเรื่อยๆ การปรับบ้านหรือที่พักอาศัยตามแนวคิดนี้ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการย้ายบ้านหรือปรับปรุงบ้านบ่อยๆ แต่ยังช่วยสร้างความผูกพันระหว่างผู้อยู่อาศัยกับบ้านได้อย่างลึกซึ้งอีกด้วย LIFE จึงขอพาทุกคนไปรู้จักกับไอเดียการออกแบบบ้านที่ปรับเปลี่ยนได้ตามช่วงวัยของชีวิต

 

หัวใจสำคัญของบ้านที่เติบโตไปพร้อมกับเจ้าของ คือความยืดหยุ่นในการใช้งาน สถาปนิกและนักออกแบบภายในกำลังสร้างสรรค์พื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงชีวิต เช่น 

 

  1. ห้องทำงานที่สามารถปรับเป็นห้องนอนเด็กได้ในอนาคต
  2. พื้นที่โล่งที่สามารถกั้นเป็นห้องได้ด้วยผนังเลื่อน
  3. ห้องนั่งเล่นที่ออกแบบให้รองรับการใช้งานได้หลากหลาย ทั้งการพักผ่อน ทำงาน หรือออกกำลังกาย
  4. ห้องน้ำที่ออกแบบให้ใช้งานได้สะดวกในทุกวัย รวมถึงผู้สูงอายุ

 

อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญคือการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ปรับเปลี่ยนได้ เช่น โต๊ะที่พับเก็บได้ หรือเตียงที่สามารถยกขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้บ้านปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการที่อาจเปลี่ยนไปในอนาคต

 

นอกจากนี้อีกหนึ่งแนวคิดที่น่าสนใจคือ การเลือกใช้วัสดุที่มีความงามเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา หรือที่เรียกว่า ‘Wabi-Sabi’ ในปรัชญาญี่ปุ่น วัสดุเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทนทาน แต่ยังมีเสน่ห์ที่เพิ่มขึ้นเมื่อใช้งานไปนานๆ เช่น

 

  1. ไม้ วัสดุธรรมชาติที่มีลวดลายสวยงาม และยิ่งใช้นานยิ่งมีสีสันและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์
  2. หินธรรมชาติ ทั้งหินอ่อน หินแกรนิต หรือหินทราย ที่มีความทนทานและสวยงามตลอดกาล
  3. ทองเหลือง โลหะที่เมื่อเวลาผ่านไปจะเกิดคราบสนิมสีเขียวที่สวยงาม (Patina)
  4. เหล็กดิบ ที่จะเกิดสนิมสวยงามเมื่อเวลาผ่านไป สร้างลุคอุตสาหกรรมที่มีเสน่ห์

 

การเลือกใช้วัสดุเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างความสวยงามที่ยั่งยืน แต่ยังช่วยลดภาระในการบำรุงรักษาและการเปลี่ยนวัสดุบ่อยๆ อีกด้วย

 

สุดท้ายนี้ LIFE อยากบอกว่า บ้านที่เติบโตไปพร้อมกับเจ้าของไม่ใช่เพียงแค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นพื้นที่แห่งความทรงจำที่สะท้อนเรื่องราวชีวิตของผู้อยู่อาศัย การออกแบบบ้านในลักษณะนี้จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ทั้งในแง่ของคุณภาพชีวิตและมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ความยั่งยืนกำลังเป็นประเด็นสำคัญ การสร้างบ้านที่สามารถปรับตัวและเติบโตไปพร้อมกับเรา จึงไม่ใช่เพียงแค่เทรนด์การออกแบบ แต่เป็นวิถีชีวิตที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของความสุขส่วนตัว และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะบ้านที่ดีที่สุด คือบ้านที่เราสามารถอยู่อาศัยได้อย่างมีความสุขไปตลอดชีวิตนั่นเอง

 


แนวคิด ‘บ้านที่เติบโตไปพร้อมกับเจ้าของ’ กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนเมือง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว และสร้างความผูกพันระหว่างผู้อยู่อาศัยกับบ้าน

 

 

แนวคิด Wabi-Sabi ของญี่ปุ่น เน้นการใช้วัสดุที่มีความงามเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา ช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและมีเสน่ห์เฉพาะตัว เช่น โซฟาหนังแท้ที่ยิ่งใช้ยิ่งเห็นริ้วรอยและเพิ่มเสน่ห์มากขึ้น

 

 

ห้องนั่งเล่นและห้องน้ำควรออกแบบให้รองรับการใช้งานได้หลากหลายและสะดวกในทุกวัย รวมถึงการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ปรับเปลี่ยนได้เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน

 

การออกแบบพื้นที่อเนกประสงค์ที่ปรับเปลี่ยนได้ เช่น ห้องทำงานที่ปรับเป็นห้องนอนเด็ก หรือพื้นที่โล่งที่สามารถกั้นเป็นห้องได้ด้วยผนังเลื่อน เป็นหัวใจสำคัญของบ้านแบบนี้

 

เลือกใช้ไม้หรือหินธรรมชาติตกแต่งบ้าน เพราะมีลวดลายสวยงาม และเพิ่มเสน่ห์เมื่อใช้งานนานขึ้น สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกบ้าน สร้างความรู้สึกอบอุ่นและใกล้ชิดธรรมชาติ

 


วัสดุโลหะอย่างทองเหลืองและเหล็กดิบ สามารถสร้างลุคที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะเมื่อเกิดคราบ Patina หรือสนิมที่สวยงามตามกาลเวลา

 

ภาพ: Shutterstock

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X