×

SELF-CARE AT HOME 5 วิธีปรับมุมบ้านเพื่อสุขภาพกายและใจที่ดีขึ้น

13.01.2024
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • ถ้าคุณมีห้องว่างที่พอจะทำเป็นโฮมออฟฟิศได้ก็ให้รีบทำเลย แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร คุณสามารถใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความอเนกประสงค์ทดแทนได้ เช่น หาโต๊ะเรียบๆ สักตัวที่กลางวันใช้นั่งทำงานได้ พอตกเย็นก็เคลียร์ของให้เรียบและจัดเป็นโต๊ะอาหาร
  • สำหรับคนที่ทำงานที่บ้านหรือออกกำลังกายในบ้านเป็นหลัก ควรเลือกตำแหน่งวางโต๊ะทำงานหรือเครื่องออกกำลังให้อยู่ใกล้หน้าต่างที่รับแสงแดด และมองออกไปเห็นโลกภายนอกได้บ้าง ยิ่งถ้ามองออกไปแล้วมีสีเขียวของต้นไม้ให้พักสายตาได้ด้วยก็ยิ่งดี

ในเมื่อเราปฏิเสธไม่ได้ว่าชีวิตสมัยใหม่ยังไงก็ต้องเจอกับความวุ่นวายและเร่งรีบสารพัด มันคือเหตุผลที่ว่าทำไมการออกแบบพื้นที่ภายในบ้านให้เป็นเสมือน ‘โอเอซิส’ โอบอุ้มกายใจจึงจำเป็นอย่างมากสำหรับชีวิตคนยุคนี้ วันนี้เรามีไอเดียการออกแบบพื้นที่ใช้สอยและบรรยากาศภายในบ้านเพื่อให้คุณปรับสุขภาพกายและใจสู่โหมดสมดุลรับปีใหม่อีกครั้ง

 

1. ดีไซน์พื้นที่ให้ตอบโจทย์ชีวิต

มองไปรอบตัวแล้วถามตัวเองอีกครั้งว่า พฤติกรรมชีวิตจริงๆ ของเราในปีที่ผ่านมากับอินทีเรียร์ในบ้านเราตอนนี้มันจูนตรงกันแล้วหรือยัง? ฉันนั่ง เดิน นอน กระโดด กลิ้งเกลือกอยู่กับบ้านแล้วรู้สึกเป็นตัวของตัวเองหรือไม่ หรือมันยังมีพื้นที่แปลกๆ ที่คุณยังไม่รู้สึกสนิทด้วยนัก ถ้าใช่…ก็ถึงเวลาที่คุณต้องคิดเรื่อง ‘ฟังก์ชัน’ เพื่อสร้างสมดุลกันใหม่อีกครั้งล่ะ หลักคิดข้อแรกคือการตั้งโจทย์ก่อนว่า ‘คุณอยากเพิ่มหรือลดอะไรในบ้าน’ เพื่อดูแลตัวคุณเองและคนที่คุณรักให้ดีขึ้น ข้อนี้หลายคนมักตอบเร็วเลยว่า “ฉันอยากจัดบ้านให้เรียบร้อยกว่านี้” ซึ่งนั่นเป็นคำตอบที่ถูกเป๊ะ เพราะการจัดสิ่งของมากมายในชีวิตให้เข้าที่และมีระบบระเบียบนั้น ถือเป็นทักษะอันดับต้นๆ ในการสร้างสุขภาวะที่ดีในพื้นที่อยู่อาศัย เชื่อเถอะว่าบ้านที่เรียบร้อย (พอสมควร) จะนำมาซึ่งความรู้สึกสุขสงบได้อย่างเหลือเชื่อ

 

 

คุณอาจเริ่มต้นจัดบ้านใหม่ง่ายๆ ด้วยการหาตู้รองเท้ามาวางบริเวณหน้าบ้านให้เพียงพอกับจำนวนสมาชิกครอบครัว (หรือจำนวนรองเท้าของคุณเองที่เพิ่มขึ้นไม่หยุด) หรือติดที่แขวนแก้วกาแฟบนผนังห้องครัวเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อเคลียร์พื้นที่ท็อปครัวให้ใช้งานอย่างอื่นได้ด้วย เพราะสุดท้ายแล้วเวลาคุณกลับเข้าบ้านมาเหนื่อยๆ บ้านที่ดูสะอาดตาและตอบโจทย์ชีวิตมันจะดูแลสุขภาพใจของคุณได้อย่างดี 

 

2. สร้างมุมพักผ่อนของตัวเอง 

 

 

เมื่อมีเวลาอยู่กับบ้านมากขึ้น การหากิจกรรมที่คุณสนุกและผ่อนคลายได้ถือเป็นเรื่องดีกับสุขภาพกายใจ บางคนอาจชอบการได้นอนอ่านหนังสือเงียบๆ บางคนแค่มีมุมดูซีรีส์ยาวๆ ไปก็มีความสุข หรือบางคนอาจมีงานอดิเรก เช่น ชงกาแฟ ทำขนม ต่อโมเดล ปลูกต้นไม้ เล่นโยคะ ฯลฯ ขอแค่คุณเลือกสักมุมในบ้านที่เหมาะๆ แล้วตกแต่งต่อเติมพื้นที่นั้นให้พอดีกับกิจกรรมที่คุณรัก กุญแจสำคัญอยู่ที่การจัดพื้นที่และเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ใช่ เช่น เติมโซฟาเบดเข้ามุมสักตัว หาหมอนอิงนุ่มๆ มาหนุน หรือออกแบบโต๊ะไอส์แลนด์ที่ขนาดพอดีสำหรับวางวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ แล้วคุณจะพบว่าการได้ขลุกอยู่กับตัวเองและสิ่งตรงหน้าที่คุณชอบแค่ 2-3 ชั่วโมง จะทำให้คุณรู้สึก ‘แฮปปี้กับปัจจุบัน’ ได้สุดๆ

 

3. แยกพื้นที่ทำงานกับพักผ่อนออกจากกัน

 

 

ข้อนี้แหละคือกฎเหล็กของการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีภายในบ้าน เชื่อว่าทุกวันนี้หลายคนต้องทำงานที่บ้านบ้างไม่มากก็น้อย การแบ่งพื้นที่ทำงานกับพื้นที่ส่วนตัวออกจากกันให้ชัดเจน จะช่วยให้คุณมี Work-Life Balance ที่แท้จริง และช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณกับสมาชิกคนอื่นในบ้านเป็นไปด้วยดียิ่งขึ้น ถ้าคุณมีห้องว่างที่พอจะทำเป็นโฮมออฟฟิศได้ก็ให้รีบทำเลย แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร คุณสามารถใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความอเนกประสงค์ทดแทนได้ เช่น หาโต๊ะเรียบๆ สักตัวที่กลางวันใช้นั่งทำงานได้ พอตกเย็นก็เคลียร์ของให้เรียบและจัดเป็นโต๊ะอาหาร อย่างนี้เป็นต้น

 

4. ใส่ใจเรื่องแสงธรรมชาติและต้นไม้ใบหญ้า 

 

 

ยอมรับเถอะว่าเมืองไทยอากาศร้อน เราต้องใช้ชีวิตในห้องแอร์กันเป็นส่วนมาก การจัดการเรื่องแสงธรรมชาติจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมีผลกับภาวะอารมณ์ของมนุษย์ (ความสดชื่น-ความหดหู่) สำหรับคนที่ทำงานที่บ้านหรือออกกำลังกายในบ้านเป็นหลัก ควรเลือกตำแหน่งวางโต๊ะทำงานหรือเครื่องออกกำลังให้อยู่ใกล้หน้าต่างที่รับแสงแดด และมองออกไปเห็นโลกภายนอกได้บ้าง ยิ่งถ้ามองออกไปแล้วมีสีเขียวของต้นไม้ให้พักสายตาได้ด้วยก็ยิ่งดี แต่ถ้าคุณไม่มีทางเลือกนั้น (เช่นพักอยู่คอนโดชั้นสูงๆ) การหาต้นไม้ในร่มมาปลูกไว้ในห้องทำงานหรือห้องนั่งเล่นสักหน่อยก็จะเป็นการดีต่อจิตใจ 

 

และอีกหนึ่งแสงธรรมชาติที่ทำให้ใจสบายได้ในยามค่ำคืนก็คือแสงเทียน ลองปิดไฟเพดาน เปิดเพลงเบาๆ แล้วจิบเครื่องดื่มใต้แสงเทียนดูบ้าง (หรือจะทำสมาธิก็ได้) คืนนั้นหลับสบายแน่นอน

 

5. เติมกลิ่นหอมและสัมผัสอบอุ่น

 

 

กลิ่นหอมต่างๆ มีผลต่ออารมณ์ของมนุษย์เราเสมอ การมีเทียนหอมไว้ในบ้านคือไอเดียที่ดีมากข้อหนึ่ง เช่นถ้าเย็นนี้คุณอยากเข้าโหมดผ่อนคลายก็จุดเทียนกลิ่นลาเวนเดอร์ แป๊บเดียวคุณก็พร้อมอาบน้ำนอน แต่ถ้าจะมีเพื่อนมาดื่มที่บ้านแล้วอยากบูสต์พลังสักหน่อย ก็ให้เลือกเทียนที่มีกลิ่นเลมอนๆ ผสมด้วย นอกจากเรื่องกลิ่นแล้ว เรื่องผิวสัมผัสก็สำคัญเช่นกัน บ้านของคุณจะมีความน่าอยู่มากขึ้นถ้าคุณสร้างผิวสัมผัสที่หลากหลายไว้ในพื้นที่ต่างๆ เช่น ผืนผ้า ไม้จริง และหนังแท้จะให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นมิตร หรือการมีต้นไม้ใบไม้จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัย เป็นต้น 

 

ท้ายสุดอย่าลืมว่าเรื่องราวความทรงจำในชีวิตของคุณเองก็คือแหล่งพลังบวกชั้นดีอีกอย่างหนึ่ง การตกแต่งบ้านด้วยสิ่งสะท้อนเรื่องราวส่วนตัว เช่น รูปภาพท้องฟ้าที่คุณถ่ายเอง ของขวัญจากครอบครัวในวันพิเศษ หรือของแต่งบ้านที่คุณได้มาจากทริปท่องเที่ยวปีก่อน ฯลฯ ดีเทลเล็กๆ เหล่านี้ล้วนเป็นสัมผัสที่มีความหมาย และมีพลังต่อชีวิตของคุณ มันจะทำให้บ้านของคุณ ‘เป็นบ้านอันอบอุ่นของคุณ’ อย่างแท้จริง

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising