×

5 วิธีแก้ปัญหาอยู่บ้านคนเดียวแล้วใจบาง

06.04.2024
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • วางแผนรับมือกับโมเมนต์จิตตก ลองจัดทำลิสต์กิจกรรมที่มักช่วยให้คุณปรับอารมณ์มาสู่ความชื่นมื่นได้ อาจเป็นการโทรเมาท์กับเพื่อนสนิท การเขียนบันทึกสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา การดูรายการทีวีบ้าๆ บอๆ ให้หัวเราะก๊าก การไปซื้อต้นไม้มาปลูกที่บ้าน การนั่งจิบกาแฟดีๆ ที่คุณดริปเอง
  • ดูแลสุขภาวะตนเองให้ดี การดูแลตนเองแบบองค์รวมครอบคลุมถึงความต้องการทางร่างกาย อารมณ์ การเงิน และความเป็นอยู่ที่พอดีในทุกด้าน ขอให้คุณเริ่มต้นจากสิ่งพื้นฐานก่อน เช่น กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ต่อด้วยการรักษาเสถียรภาพทางการเงินส่วนตัว จ่ายบิลต่างๆ ให้เรียบร้อยรวดเร็ว ทั้งบัตรเครดิต มือถือ เน็ตบ้าน สตรีมมิง ฯลฯ

การเลือกอยู่อาศัยแบบตัวคนเดียว บางทีก็ทำให้ชีวิตเรามีสีสันใหม่ๆ ที่ไม่เคยพบมาก่อน สัมผัสแรกเลยที่ทุกคนจะรู้สึกได้ก็คือ ความเป็นอิสระ สบายตัวสบายใจ ตามมาด้วยความรู้สึกได้ ‘คอนเน็กต์’ กับตัวเองในแง่มุมใหม่ๆ ได้ค้นพบความชอบ ความถนัด หรือค่านิยมลึกๆ บางอย่างที่เราไม่เคยรู้ตัวมาก่อน ซึ่งถือเป็นเรื่องดีมากต่อการเติบโตส่วนบุคคล เช่น การทำอาหารกินเอง การฝึกสมาธิ หรือกระทั่งการแหกปากร้องเพลงแบบไม่เกรงใจใคร 

 

แต่ถึงกระนั้น แน่นอนว่าในบางโมเมนต์การอยู่บ้านเพียงลำพังก็จะมีโหมดเหงา เดียวดาย และหวาดหวั่นแทรกซึมเข้ามา ซึ่งหลายคนอาจกังวลว่า ‘แล้วฉันจะรับมือได้ไหมนะ’ ‘กลัวเหงาไม่ไหว’ ‘กลัวไปไม่ถูก’ ‘จะกลายเป็นซึมเศร้าหรือเปล่า’ เพราะชีวิตคนเมืองทุกวันนี้ การเข้าสังคมดูจะเป็นเรื่องที่หลายคนขาดไม่ได้ แต่เชื่อเถอะว่าถ้าคุณได้ลองผูกมิตรกับความโดดเดี่ยวดูบ้าง คุณอาจพบกับรูปแบบชีวิตใหม่ที่สมดุลและมีความสุขอย่างยิ่ง

 

เคล็ดลับ 5 ข้อต่อไปนี้จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตโซโล่ในบ้านได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าคุณจะตกอยู่ในสถานการณ์นี้โดยบังเอิญ โดยภาคบังคับ หรือโดยสมัครใจก็ตาม

 


 

1. เตรียมพึ่งตัวเองกับงานช่างเล็กๆ น้อยๆ ในบ้าน

 

 

เมื่อต้องอาศัยอยู่คนเดียว โดยทั่วไปแล้วคุณจะต้องพึ่งตัวเองให้ได้มากที่สุดกับการซ่อมแซมสิ่งต่างๆ ฉะนั้นเพื่อความสบายใจ (และไม่เครียดเกินไปเวลาเกิดเหตุ) ให้ลงทุนซื้อชุดอุปกรณ์งานช่างพื้นฐาน น้ำยาทำความสะอาดไว้ลบคราบต่างๆ รวมถึงสีทาบ้านกระป๋องเล็กติดไว้บ้าง เมื่อถึงวันที่มีข้าวของเสียหาย หรือต้องการทำงานติดตั้งจุกจิก อย่าลืมว่าเรามีช่างใน YouTube เป็นเพื่อนสนิทอยู่ 

 

คุณสามารถกดดูวิดีโอจากสารพัดช่างเพื่อช่วยคุณในกระบวนการแก้ปัญหาได้ บน YouTube มีวิดีโอมากมาย ตั้งแต่การประกอบชั้นวางของ การเก็บงานสี ไปจนถึงการติดตั้งซอฟต์แวร์ ฯลฯ ซึ่งคุณอาจไม่ประสบความสำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ในครั้งแรก อาจทำผิดทำเพี้ยนไปบ้าง หรือเสียเวลาไปหลายชั่วโมง แต่ท้ายที่สุดคุณก็จะได้เรียนรู้ และมั่นใจมากขึ้นในการลงมือครั้งต่อไป

 


 

2. วางแผนรับมือกับโมเมนต์จิตตก

 

 

ช่วงเวลาที่ความรู้สึกโดดเดี่ยวแทรกซึมเข้ามาของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน แต่เชื่อว่าอารมณ์หม่นหมองนี้เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนบนโลกต้องประสบพบเจอ ฉะนั้นขอให้คุณลองสังเกตดูว่า ความรู้สึกด้านลบนี้มักจะเกิดขึ้นกับคุณในช่วงเวลาใด เช่น ในตอนกลางคืน ในวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือในเวลาที่คุณใช้เวลากับคู่รักคู่อื่นที่เขาสวีตหวานกัน

 

ทีนี้ก็ลองจัดทำลิสต์กิจกรรมที่มักช่วยให้คุณปรับอารมณ์มาสู่ความชื่นมื่นได้ อาจเป็นการโทรเมาท์กับเพื่อนสนิท การเขียนบันทึกสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา การดูรายการทีวีบ้าๆ บอๆ ให้หัวเราะก๊าก การไปซื้อต้นไม้มาปลูกที่บ้าน การนั่งจิบกาแฟดีๆ ที่คุณดริปเอง หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้ให้รางวัลตัวเองสักนิดหน่อย 

 

แต่ขอเตือนว่าอย่าได้เข้าไปในโหมด ‘กดซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า’ เพราะนั่นจะชุบชูใจคุณได้เพียงเสี้ยวนาที แต่คุณจะจิตตกไปอีกยาวเมื่อพบความจริงจากบัตรเครดิต

 


 

3. ดูแลสุขภาวะตนเองให้ดี

 

 

การดูแลตนเองแบบองค์รวมครอบคลุมถึงความต้องการทางร่างกาย อารมณ์ การเงิน และความเป็นอยู่ที่พอดีในทุกด้าน ขอให้คุณเริ่มต้นจากสิ่งพื้นฐานก่อน เช่น กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ต่อด้วยการรักษาเสถียรภาพทางการเงินส่วนตัว จ่ายบิลต่างๆ ให้เรียบร้อยรวดเร็ว ทั้งบัตรเครดิต มือถือ เน็ตบ้าน สตรีมมิง ฯลฯ แล้วค่อยขยับสู่การค้นหาสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกเป็นสุขจากธรรมชาติภายใน หรือความเชื่อทางจิตวิญญาณของคุณ 

 

ทำรายการตรวจสอบชีวิตประจำวันของคุณเป็นระยะ เพื่อช่วยวางแผนการเทกแคร์ตัวเองให้มีความสุขในระยะยาว เช่น รายการดูแลสภาพแวดล้อมภายในบ้าน ห้องครัวสะอาดดีไหม ต้นไม้แห้งตายหรือเปล่า ฯลฯ ต่อด้วยรายการดูแลสุขภาพกายใจ คุณดื่มกาแฟกี่แก้วต่อวัน วีคนี้ได้ออกกำลังกายกี่ครั้ง เดือนนี้ได้คุยเล่นกับเพื่อนจนหัวเราะน้ำตาไหลบ้างหรือเปล่า ฯลฯ

 

อย่าลืมจัดเตรียมสิ่งจำเป็นในบ้านไว้สำหรับเวลาที่คุณรู้สึกไม่สบายด้วย ถ้าเปื่อยมากก็ควรขอให้ใครสักคนมาอยู่เป็นเพื่อนดูแล และอย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์หรือนักบำบัดหากคุณรู้สึกไม่ค่อยดีกับตัวเอง ไม่ว่าทางกายหรือใจ

 


 

4. สำรวจแพสชันและความฝันของคุณ

 

 

ไหนๆ ก็มีโอกาสใช้ชีวิตคนเดียวแล้ว จงให้ความสนใจกับสิ่งที่คุณชอบและไม่ชอบอย่างแท้จริง มีอะไรบ้างที่คุณกำลังทำเพียงเพราะติดเป็นนิสัย เช่น กินขนมก่อนนอน ไถมือถือจนปวดตา หรือมีอะไรที่คุณเคยพูดบ่อยๆ ว่าอยากทำแต่ไม่ได้ทำเสียที เช่น จะหัดวาดรูป จะกลับไปอ่านหนังสือ จะไปวิ่งในสวน ฯลฯ ลองดูว่าคุณสามารถวางแผนทำมันตอนนี้ได้แล้วหรือยัง ขอให้ใช้โอกาสนี้ออกแบบชีวิตของคุณใหม่ ให้เป็นเวอร์ชันที่คุณเพลิดเพลินและเติมเต็มที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ แล้ววันคืนของคุณจะมีคุณภาพมากขึ้นได้อย่างเหลือเชื่อ

 


 

5. พิจารณาการมีสัตว์เลี้ยงข้างกาย

 

 

สัตว์เลี้ยงมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพคนเราในหลายด้าน นอกเหนือจากเป็นเพื่อนร่วมทางแล้ว งานวิจัยยังบอกว่า การได้สัมผัสหรือคลอเคลียกับสัตว์เลี้ยงยังช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนินในสมอง ซึ่งช่วยป้องกันภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวลได้ อย่างไรก็ดี เราควรเลือกเลี้ยงสัตว์ที่เป็นมิตรกับคน เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในบ้านและการใช้ชีวิตของเรา รวมถึงไม่ต้องการการดูแลที่มากเกินกำลังด้วย

 

แต่อย่าลืมแบ่งเวลาให้กับการพบปะสังสรรค์กับผู้คนบ้างเป็นครั้งคราว เพื่อรับพลังจากการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ 

 

ชีวิตคือการผสมผสานความสมดุล ถ้าเริ่มรู้สึกว่าชักจะอยู่กับตัวเองมากเกินไป ก็ออกไปเดินเล่นในพื้นที่สาธารณะ หรือไปนั่งจิบกาแฟในร้านเล็กๆ แลกเปลี่ยนบทสนทนากับผู้คนรอบข้างบ้าง แม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถเติมเต็มจิตใจได้แน่นอน

 

สุดท้ายนี้ สำหรับคนที่กำลังวางแผนจะออกมาใช้ชีวิตคนเดียว เราขอให้กำลังใจคุณว่าอย่าได้กังวลไป ชีวิตโสดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด หากคุณรู้จักวางแผนและใช้เวลาว่างอย่างมีคุณค่า มันกลับเป็นโอกาสทองในการเข้าใจตนเอง ค้นพบความชื่นชอบ และปลดปล่อยอิสรภาพในชีวิต เพียงแค่ก้าวข้ามความรู้สึกโดดเดี่ยวชั่วคราว พาตนเองไปสู่สิ่งที่สนใจและสร้างความสุข ท่ามกลางความเงียบสงบของการอยู่คนเดียวนั้น เราจะได้สัมผัสกับส่วนลึกในจิตใจของเราอย่างแท้จริง

 

ภาพ: Shutterstock

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising