Nothing Headphone (1) คือหูฟังครอบหูไร้สายที่ดึงดูดสายตาตั้งแต่แรกเห็นด้วยดีไซน์โปร่งใสสุดล้ำไม่เหมือนใคร และยังเป็นหูฟังรุ่นที่ร่วมพัฒนากับ KEF แบรนด์เครื่องเสียงระดับพรีเมียม ช่วยมอบคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมให้กับหูฟังตัวนี้ แถมหูฟังตัวนี้ยังปรับแต่ง EQ ได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน หูฟังตัวนี้นอกจากดีไซน์จะโดดเด่นแล้วยังมีระบบตัดเสียง ANC, แบตเตอรี่อึด และควบคุมง่ายผ่านปุ่มต่างๆ บริเวณตัวหูฟัง จึงทำให้หูฟังนี้ไม่ได้โดดเด่นแค่การฟังเพลง แต่เป็นของใช้ที่สะท้อนตัวตนของคนชอบของเท่และแตกต่างอีกด้วย แถมราคาที่เปิดตัวมา 8,999 บาท ถือว่าน่าสนใจ และเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก สำหรับคนกำลังมองหา Headphone ดีไซน์ล้ำ ๆ สักเครื่อง
และหลังจากที่ได้ทดลองใช้หูฟังรุ่นนี้มาเป็นเวลาหลายวัน ก็ค้นพบว่าหูฟังรุ่นนี้มีดีเทลอีกมากมายที่น่าสนใจ ครั้งนี้เราเลยอยากมาสรุปว่า 5 จุดเด่นของ Nothing Headphone (1) มีอะไรบ้างที่ไม่ได้เป็นแค่หูฟังที่ใส่ไปเดินเล่นแล้วมีแต่คนมอง
ดีไซน์ที่ใส่ไปที่ไหนก็มีแต่คนทัก
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเจ้า Nothing Headphone (1) คือหูฟังที่ฉีกกรอบงานดีไซน์แบบเดิมๆ คือ ไม่ได้เป็น Headphone ที่มีรูปทรงกลมๆ บริเวณหูเหมือนแบรนด์อื่นๆ ในตลาด แต่เขาดีไซน์ให้ภาพรวมมีความคล้ายสี่เหลี่ยมที่ตัดมุมแหลมออก แถมยังมีการโชว์ให้เห็นวัสดุภายในของตัวหูฟังตามสไตล์ของ Nothing อีกด้วย
ควบคุมหูฟังได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องมอง
ข้อดีของหูฟังตัวนี้อีกหนึ่งข้อที่หลังจากใช้งานแล้วรู้สึกประทับใจ นั่นคือการเพิ่มปุ่มควบคุมฟังก์ชันสำคัญต่างๆ ไว้ที่บริเวณหลังหู ช่วยให้ทั้งเพิ่มเสียงลดเสียง เล่นเพลงถัดไป เปิดปิดระบบตัดเสียงรบกวน หรือแม้แต่เปิดปิดเครื่องก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องมองเลย
ปรับแต่งปุ่มพิเศษได้ตามใจ
นอกจากตัวหูฟังจะให้ปุ่มมากมายมาเพื่อให้การควบคุมง่ายขึ้นแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปุ่มพิเศษที่เราสามารถปรับแต่งได้ว่าอยากใช้ควบคุมอะไร เช่น สั่งเปิดระบบ Voice assistant หรือสั่งปิดไมค์ เป็นต้น
ระบบเสียงรอบทิศทางทำให้การดูหนังฟังเพลงสมจริง
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ใครหลายคนชอบในหูฟังตัวนี้คือระบบ Spatial audio เป็นการปล่อยเสียงรอบทิศทางทำให้ไม่ว่าคุณจะฟังอะไร ก็ได้ความรู้สึกเสมือนจริง
การปรับแต่งเสียงจาก KEF
นอกจากดีไซน์เด่นใช้งานง่ายแล้ว คุณภาพเสียงของหูฟังตัวนี้อยู่ในระดับที่โอเคเลย โดยที่เขาได้ KEF แบรนด์เครื่องเสียงชื่อดังมาช่วยดูแลเรื่องนี้ และอีกหนึ่งไฮไลต์คือเราสามารถจูน EQ ได้ง่ายๆ ผ่านทางแอปพลิเคชัน Nothing X จะเป็นการปรับเสียงแบบคร่าวๆ หรือจะปรับอย่างละเอียดก็ทำได้ทั้งหมด
