สิวเป็นปัญหาผิวที่แพร่หลาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อคนทุกเพศทุกวัย เราต่างเคยมีประสบการณ์ปัญหาสิวที่เคยเกิดขึ้นในช่วงวัยรุ่น และมันไม่ได้หยุดแค่นั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะพบว่า แม้แต่ในวัยผู้ใหญ่เองก็สามารถเผชิญกับปัญหาสิวแบบเดียวกันกับตอนเป็นวัยรุ่น แต่ไม่ต้องกังวล เพราะปัจจุบันมีกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากมายในการต่อสู้กับปัญหาสิวที่น่ารำคาญนี้
ต่อไปนี้เป็น 10 วิธีในการลดการเกิดสิว ซึ่งเป็นเส้นทางสู่การมีผิวแลดูกระจ่างใส ที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย
1. มีวินัยในการดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ
สิ่งสำคัญคือความสะอาดและรักษาความชุ่มชื้น ใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยนตามสภาพผิว จะสามารถช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกิน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และขจัดสิ่งสกปรกที่อาจนำไปสู่การเกิดสิวได้
2. เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางที่ระบุว่า ‘ไม่ก่อให้เกิดสิว’ และพยายามใช้เมกอัพที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
3.ใส่ใจเรื่องอาหาร
อาหารมีส่วนสำคัญต่อสุขภาพผิว ควรจำกัดการบริโภคผลิตภัณฑ์จากนม น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ และอาหารแปรรูป เพราะมีส่วนก่อให้เกิดสิวได้ ควรปรับเพิ่มการรับประทานผลไม้สด ผัก และเมล็ดธัญพืช ซึ่งสามารถสร้างความแตกต่างของผิวได้อย่างชัดเจน
4. เปลี่ยนปลอกหมอนเป็นประจำ
สิ่งสกปรก น้ำมัน และแบคทีเรีย สามารถสะสมบนเนื้อผ้าได้ เพื่อป้องกันปัญหานี้จึงควรเปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าเช็ดหน้าบ่อยๆ เลือกใช้วัสดุอย่างผ้าไหมหรือผ้าซาตินสำหรับปลอกหมอน เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดการเสียดสีกับผิวหนัง
5. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ
มือของเราสัมผัสกับพื้นผิวต่างๆ และสะสมสิ่งสกปรกรวมทั้งแบคทีเรีย การสัมผัสใบหน้าเป็นการส่งผ่านสิ่งสกปรกเหล่านี้ไปยังผิวหนัง ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดสิวได้ ให้หลีกเลี่ยงการแกะสิว เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบเพิ่มเติมและอาจเกิดแผลเป็นได้
6. ปกป้องผิวจากแสงแดด
ในบางผลวิจัยพบว่า การอาบแดดอาจทำให้สิวดีขึ้นชั่วคราว แต่การตากแดดเป็นเวลานานอาจทำให้ผิวเกิดความเสียหายและนำไปสู่การเกิดสิวมากขึ้น ควรทาครีมกันแดดอยู่เสมอแม้ในวันที่มีเมฆมากหรืออยู่ในร่ม เพราะรังสี UV สามารถทะลุทะลวงทำร้ายผิวได้
7. รักษาด้วยยาที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ (OTC)
สำหรับสิวเล็กน้อยถึงปานกลาง การรักษาแบบ OTC หรือ Over the Counter Drugs คือซื้อยารักษาสิวจากร้านขายยาทั่วไป เลือกที่มีส่วนผสม เช่น เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ กรดซาลิไซลิก หรือกรดอัลฟาไฮดรอกซี อาจได้ผลดี ควรรับคำแนะนำจากเภสัชกรและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
8. ดื่มน้ำมากๆ
การดื่มน้ำมากๆ ทำให้ผิวของคุณยังคงความชุ่มชื้น ซึ่งอาจช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินได้ ผิวที่ชุ่มชื้นสามารถรักษาสิวได้ผลดีและเร็วกว่าผิวที่แห้งและขาดน้ำ
8. จัดการความเครียด
ระดับความเครียดสูงสามารถกระตุ้นให้เกิดสิวได้ ควรหมั่นทำกิจกรรมลดความเครียดที่เข้ากับกิจวัตรของตนเอง เช่น ออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน วิ่ง หรือโยคะ เป็นต้น
10. ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
หากรักษามาหลายวิธีแล้วแต่ยังไม่เห็นผล ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังอย่างจริงจัง เพื่อเข้ารับการรักษาแบบมืออาชีพ เช่น การลอกผิวด้วยสารเคมี การบำบัดด้วยเลเซอร์ และการใช้ยาตามใบสั่งแพทย์ ซึ่งสามารถปรับให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของปัญหาสิวแต่ละคนได้
ภาพ: Shutterstock