จำคุกตลอดชีวิต คดีเปรี้ยวฆ่าหั่นศพ ยกฟ้องข้อหาร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

ศาลจังหวัดขอนแก่นพิพากษาให้ เปรี้ยว เอิร์น และแจ้ จำคุกตลอดชีวิต แต่จำเลยรับสารภาพศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ส่วนวศินจำคุก 23 ปี และเบนซ์จำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา

ศาลจังหวัดขอนแก่นอ่านคำพิพากษาผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนคดีดำเลขที่ 1957/60 ระหว่างฝ่ายโจทก์คือพนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่นกับฝ่ายจำเลย ซึ่งประกอบด้วย นางสาวปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว จำเลยที่ 1, นางสาวกวิตา ราชดา หรือเอิร์น จำเลยที่ 2, นางสาวจิดารัตน์ พรมคุณ หรือเบนซ์ จำเลยที่ 3, นายวศิน นามพรม จำเลยที่ 4 และ นางสาวอภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้

โดยศาลพิพากษาให้ นางสาวปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว จำเลยที่ 1 นางสาวกวิตา ราชดา หรือเอิร์น จำเลยที่ 2 และนางสาวอภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ จำเลยที่ 5 จำคุกตลอดชีวิต แต่จำเลยทั้งสามรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง โดยเปรี้ยว และเอิร์นเหลือจำคุก 34 ปี 6 เดือน ส่วนแจ้จำเลยที่ 5 จำคุก 33 ปี 9 เดือน นายวศิน นามพรหม หรือนิว จากจำคุก 33 ปี 4 เดือน ลดโทษเหลือ 23 ปี 4 เดือน 20 วัน

ขณะที่จำเลยที่ 3 นางสาวจิดารัตน์ พรหมคุณ หรือเบนซ์ จำคุก 2 ปี แต่ศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา

นอกจากนี้ศาลได้ยกฟ้องฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามมาตรา 289 มีโทษสูงสุดคือประหารชีวิต และร่วมกันพกพาอาวุธไปในเมือง (มีดอีโต้)

พร้อมมีคำสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย 1,070,000 บาท โดยผ่อนชำระเดือนละ 5,000 บาทเป็นเวลา 17 ปี รวมดอกเบี้ย 1.75% ให้นับจากวันที่ก่อเหตุ คือ 23 พฤษภาคม 2560

ขณะที่บรรยากาศด้านในศาลที่เบิกตัวจำเลยทั้ง 5 เข้ามาในห้องฟังคำพิพากษา ทั้ง 5 คนมีสีหน้าเรียบเฉย พูดคุยกันตามปกติ และพยายามหันหลังไปมองหาคนในครอบครัว

แต่ทันทีที่ศาลอ่านคำพิพากษาระบุให้จำคุกตลอดชีวิต เอิร์นได้ร้องไห้ออกมาตลอดเวลา และมีจังหวะหนึ่งได้ยกมือซ้ายหยิบชายเสื้อมาเช็ดน้ำตา ซึ่งระหว่างที่ศาลอ่านคำพิพากษาเปรี้ยวและเอิร์นได้จับมือกันตลอดเวลาอีกด้วย

ขณะที่พี่สาวของเปรี้ยว ได้ให้สัมภาษณ์หลังฟังคำพิพากษาจากศาลว่าครอบครัวรู้สึกดีใจมากที่เปรี้ยวไม่โดนโทษประหาร และเชื่อว่าเปรี้ยวไม่ได้ไตร่ตรองในการฆ่าไว้ก่อน ส่วนบ้านที่เปรี้ยวปลูกไว้ให้แม่ก่อนหน้านี้ก็จะสานต่อเป็นห้องเช่าไว้ให้แม่เก็บเงินกิน และหลังจากนี้จะปรึกษาทนายขอยื่นอุทธรณ์ลดโทษต่อไป

ส่วนด้านครอบครัวของนางสาววริศรา กลิ่นจุ้ย หรือแอ๋มนั้น ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ หลังฟังคำพิพากษา และขึ้นรถกลับไปทันที มีเพียงนายนพดล ทนายความ ได้ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่าครอบครัวแอ๋มเคารพคำพิพากษาศาล แต่หลังจากนี้ก็จะยื่นอุทธรณ์ตามขั้นตอนกฎหมายทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา เช่นเดียวกับอัยการก็จะยื่นอุทธรณ์เช่นกันเพราะเชื่อว่าจำเลยทั้งหมดได้ไตร่ตรองในการฆ่าไว้ก่อน